วันที่ 2 ธ.ค.2564 นายไทภัทร ธนสมบัติกุล รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน ระดับเขต ครั้งที่ 1/2564 สรุปผลการดำเนินงานแก้ไขจุดเสี่ยง 50 เขต โครงการ จุดเสี่ยง 1 เขต 1 โซน ปี 2564 พร้อมประชุมแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยมีผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่งร่วมประชุม พร้อมด้วยผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนเขต (ศปถ.เขต)6 กลุ่มเขต ได้แก่ กลุ่มเขต กรุงเทพเหนือ กรุงเทพตะวันออก กรุงเทพใต้ กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ ร่วมหาแนวทางป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ณ ห้องประชุม ชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. (ดินแดง)

สำหรับโครงการจุดเสี่ยง 1 เขต 1 โซน (ZERO ACCIDENT ZERO) ปี 2564 กำหนดจุดเสี่ยงในพื้นที่ 50 เขต รวมจำนวน 174 จุด แก้ไขแล้วทั้งหมด 158 จุด คิดเป็นร้อยละ 91 และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 16 จุด คิดเป็นร้อยละ 9 ในความรับผิดชอบของสำนักการจราจรและขนส่ง5 จุด สำนักการโยธา 3 จุด และ สำนักงานเขต1 จุด อยู่ระหว่างดำเนินการของบประมาณที่เหลืออีก 7 จุด เป็นของหน่วยงานอื่น ได้แก่กรมทางหลวง 5 จุด กรมทางหลวงชนบท 1 จุด และการรถไฟแห่งประเทศไทย 1 จุด จะประสานเร่งรัดแก้ไขให้แล้วเสร็จต่อไป ส่วนแผนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงในปี 2565 กรุงเทพมหานครมีแผนดำเนินงาน “1 เขต : พิชิต 2 จุดเสี่ยง” ตั้งเป้าแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงทั้งหมด 118 จุด เพิ่มจากปี 2564 ถึง 16 จุด

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีเสนอแผนการจัดกิจกรรม “ร่วมรู้ ร่วมคิด ป้องกันอุบัติเหตุทางถนน คนปลอดภัย ชุมชนเป็นสุข” เพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนและประชาชนในชุมชน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจากจุดเสี่ยงในพื้นที่ชุมชนของตนเอง กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2564-มีนาคม 2565 โดยจะจัดประกวดคลิปสั้น สะท้อนความคิดแนวทางสร้างถนนปลอดภัย รูปแบบกิจกรรมจะจัดการอบรมให้ความรู้เพิ่มทักษะ และสร้างสรรค์ผลงานเข้าประกวดเพื่อชิงรางวัลจากกรุงเทพมหานครทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้เตรียมแผนดำเนินการด้านความปลอดภัยในปี 2565 ให้เกิดความต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นการรณรงค์และสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการลดอุบัติเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้ทุกคนมีความปลอดภัยและความสุขในการเดินทาง ขับเคลื่อนให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน