บังคับกินอึหมา!แจ้งจับ‘เจ๊กั้ง’ทุบตีลูกจ้างทั้งตัว-อวัยวะเพศ เจ้าตัวโผล่แจงยิบ
7 ธันวาคม 2564 ที่ สภ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พ.ต.ท.วัชรพงษ์ สิทธิรุ่งโรจน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.อินทร์บุรี รับแจ้งความจากนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี อยู่หมู่ 1 ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ว่า นายฟ้า (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นน้องชายของตนเอง ถูก “เจ๊กั้ง” อายุ 49 ปี อยู่หมู่ 1 ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี กับพวก รุมทำร้ายร่างกายเป็นเหตุได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ร้านค้าใน ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 จึงได้สอบปากคำเบื้องต้น และจะได้ส่งตัวนายฟ้า ไปตรวจร่างกายเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลอินทร์บุรี
ขณะที่ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) , พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 , พล.ต.ต.วีรวิชญ์ บัวประเสริฐยิ่ง ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี และ พ.ต.อ.ธีรวัจน์ ขจรเกียรติภาส ผกก.สภ.อินทร์บุรี ร่วมกันแถลงว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายฟ้า อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่าตัวเองไปทำงานเป็นลูกจ้างที่ร้านค้าเกี่ยวกับการเกษตร ซึ่งมีนายจ้าง คือ “เจ๊กั้ง” นาน 10 กว่าปี ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้น ปวช.ปีที่ 1 ซึ่ง เจ๊กั้ง เคยเป็นภรรยาของนายเอ พี่ชายของตน ต่อมาทั้งคู่ได้เลิกรากันไป แต่ตนยังช่วยงานอยู่กับ เจ๊กั้ง ซึ่งมีหน้าที่ให้ช่วยงานที่บ้าน ทำความสะอาด ช่วยเลี้ยงสุนัข แต่พักหลังถูก เจ๊กั้ง กับ นายอ้วน ลูกจ้างอีกคน ร่วมกันทำร้ายร่างกาย โดยใช้ไม้เบสบอลทุบตีตามตัว รวมถึงอวัยวะเพศ จนเป็นแผลเน่า ติดเชื้อ และไม่ยอมพาไปหาหมอ หนักสุดถึงขั้นให้กินขี้นก กินฉี่ และอึสุนัข
ด้านนายชัยวัธน์ ศรมณี สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ได้ไปตรวจสอบแล้ว เจ๊กั้ง บอกว่าได้ดูแลนายฟ้า เหมือนคนในครอบครัว ได้ดูแลส่งเสียให้เรียนหนังสือตั้งแต่อายุประมาณ 15 ปี แต่ไม่ได้ให้เงินเดือน ถ้านายฟ้า จะใช้เงินก็สามารถหยิบไปใช้ได้เลย แต่นายฟ้า ชอบโกหก และขโมยเงินบ่อย จึงทำโทษด้วยการใช้แป๊บเหล็กตีที่ปาก ส่วนแผลตามร่างกายอื่นๆคาดว่าน่าจะมาจากที่นายฟ้า ขี่รถล้ม
“ส่วนเรื่องที่ตีอวัยวะเพศ เนื่องจากเวลานายฟ้า มาอยู่ใกล้ เจ๊กั้ง แล้วมีอาการอวัยวะเพศแข็งตัว จึงนำแป๊บเหล็กตีเข้าไปที่อวัยวะเพศของนายฟ้า ส่วนเรื่องการใช้แรงงานอย่างผิดกฎหมาย ยังไม่ชัดเจนในเรื่องของ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ซึ่งจะรวบรวมพยานและหลักฐานส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป” นายชัยวัธน์ กล่าว
ขณะที่นายเอ พี่ชายของนายฟ้า บอกว่า พยายามขอตัวน้องชายออกมาตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เนื่องจากเห็นความผิดปกติทางร่างกายของน้องชาย แต่ เจ๊กั้ง ไม่ยอม และเกลี้ยกล่อมให้นายฟ้า ไม่อยากกลับบ้านและยังอยู่ต่อ โดยนายฟ้า ไม่ยอมบอกว่าถูทำร้าย โดยบอกว่ารถล้ม จนพักหลังนายฟ้า ทนไม่ไหวได้ยอมรับว่าถูกทำร้ายจริง โดยถูกบังคับให้กินขี้นก โดยจับกรอกปากเนื่องจากเก็บไม่หมด โดยบอกว่า “หมากินได้มึงก็ต้องกินได้” และถือไม้เบสบอลขู่บังคับ และฉี่ อึหมา ถ้าเก็บกวาดไม่สะอาดก็จะถูกบังคับให้กิน โดยอาวุธที่ใช้ทำร้ายจะเป็นทั้งสาก แป๊บเหล็ก ท่อพีวีซี ที่โดนบ่อยที่สุดจะเป็นโดนตีที่หัวกับอวัยวะเพศ จึงวางแผนพาน้องชายหนีออกมาจนได้ เมื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พบว่า ร่างกายบอบช้ำอย่างหนัก ตาข้างขวาบวมจนเน่า กระดูกซี่โครงหักประมาณ 3 ซี่ ข้อมือ-ข้อนิ้วหัก ซึ่งตนจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงรวบรวมหลักฐานจนออกหมายจับ เจ๊กั้ง และนายอ้วน ฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส และจับกุมตัวมาสอบสวนและจะดำเนินคดีต่อไป
อีกด้านหนึ่ง “เจ๊กั้ง” ออกมาเปิดเผยว่า รับนายฟ้า มาอยู่ที่บ้านส่งเสียให้เรียนตั้งแต่อายุ 15 ปี เลี้ยงดูและรักเหมือนลูกหลาน ยอมรับว่ามีตีบ้างตามประสา เพราะนายฟ้าดื้อ ชอบโกหก และลักขโมยของในบ้าน โดยการตีจะใช้ท่อ PVC ไม่ใช่ไม้เบสบอลตามที่นายฟ้าบอก และท่อ PVC ขนาดยาวประมาณ 1 ศอกกว่า ส่วนการบังคับให้กินฉี่หมา ไม่เป็นความจริงเพียงแค่พูดขู่เท่านั้น เวลาที่นายฟ้าเช็ดฉี่และอึสุนัขไม่สะอาด และเหตุผลที่ต้องตีอวัยวะเพศ เพราะพักหลังนายฟ้า มีพฤติกรรมลักษณะที่ส่อไปในทางชู้สาว ซึ่งตัวเองมองว่าไม่เหมาะสม จึงต้องอบรมสั่งสอน แต่ยืนยันว่าไม่ได้ตีแรงจนแผลเป็นหนอง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี