เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ศาลแขวงดุสิตนัดฟังคำพิพากษาในคดีของนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ “แอมมี่ The Bottom Blues” ศิลปินแนวร่วมราษฎร กรณีถูกกล่าวหาจากการ “สาดสี” ใส่ตำรวจ ที่หน้า สน.สำราญราษฎร์
คดีนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 กลุ่มนักศึกษาและประชาชนที่ได้รับหมายเรียกจากการเข้าร่วมชุมนุม #เยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 รวม 15 ราย ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.สําราญราษฎร์ และได้มีมวลชนไปรวมตัวให้กำลังใจ แต่เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังรอบพื้นที่พร้อมแผงเหล็กกั้นถึงสองชั้น ไม่ให้ประชาชนที่มาให้กำลังใจเข้าไปในพื้นที่หน้า สน. ก่อนผู้ชุมนุมจะพยายามดันแผงเหล็กเข้าไป และไชยอมรได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยใช้ถังสีพลาสติก “สีน้ำเงิน” สาดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนประชาชนสามารถเข้าไปยืนบริเวณลานจอดรถใต้ถุน สน.สำราญราษฎร์ ได้สำเร็จ
จากพฤติการณ์ดังกล่าวทำให้ไชยอมรถูกฟ้องทั้งหมด 3 ข้อหา ได้แก่ “ทําร้ายร่างกายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391, “ทำให้เสียทรัพย์” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 และ “ทำให้ปรากฏซึ่งรูปรอยใดๆ บนถนนหรือที่สาธารณะ” ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ มาตรา 12
การนัดพร้อมสำหรับคดีนี้ มีขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 จําเลยได้ยอมรับสารภาพในข้อหา “ทำให้เสียทรัพย์” ก่อนจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ตำรวจ 10 นาย คนละ 5,000 บาท อันเป็นค่าเสียหายในส่วนของเครื่องแบบตํารวจที่ถูกสาดสีใส่ โดยจำเลยได้โอนเงินชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมดในวันนั้นแล้ว รวม 50,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์
ด้านผู้เสียหายทั้ง 10 รายแถลงไม่ติดใจเอาความในความผิดฐาน “ทําให้เสียทรัพย์” และไม่ติดใจสืบพยาน ในขณะที่ ส.ต.ท.ยุทธชัย ศรีพรม ตำรวจที่เป็นผู้เสียหายที่ 8 แถลงว่า ไม่ติดใจเอาความกับจําเลยในความผิดฐาน “ทําร้ายร่างกาย” เช่นกัน หลังอ้างว่าจำเลยได้ใช้มือผลักข้ามแผงเหล็กไปถูกมือของตน
ในวันนี้ ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดี 501 เวลา 10.00 น. อย่างไรก็ตาม จำเลยไม่สามารถมาศาลได้ตามเวลานัดหมาย เนื่องจากเกิดเหตุอุบัติเหตุขัดข้องทางรถยนต์ ทางทนายความจึงขออนุญาตต่อศาล ให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาไปอีกราวหนึ่งชั่วโมง
ต่อมา เวลาประมาณ 11.00 น. หลังจำเลยมาถึง ศาลได้อ่านคำพิพากษาในห้องเวรชี้ แทนห้องพิจารณาคดี
คำพิพากษาระบุโดยสรุปว่า จำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องจริง ทั้ง 3 ข้อหา ได้แก่ “ทําร้ายร่างกายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ” และ “ทำให้เสียทรัพย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391 และ 358 รวมถึง “ทำให้ปรากฏซึ่งรูปรอยใด ๆ บนถนนหรือที่สาธารณะ” ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ
นอกจากนี้จำเลยยังได้รับสารภาพในข้อหา “ทำให้เสียทรัพย์” จากการสาดสีใส่ตำรวจ และมีการชำระค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายไปแล้ว 50,000 บาท ด้านผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความและสืบพยานต่อ ศาลจึงพิพากษาลงโทษในทั้งสามข้อหา โทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 40,000 บาท ให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งเหนือ เหลือจำคุก 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี โดยให้รายงานตัวคุมประพฤติ 1 ปี และให้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง
ต่อมา เวลาประมาณ 12.00 น. ทนายความได้ยื่นประกันตัวไชยอมร โดยวางหลักทรัพย์เป็นเงิน 20,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ก่อนที่ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ โดยทนายความจะหารือกับจำเลยต่อไปเรื่องการยื่นอุทธรณ์คดี เนื่องจากเห็นว่าได้จัดทำคำแถลงประกอบคำรับสารภาพ เรื่องข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ว่าไม่ได้มีเจตนา แต่เป็นเพียงเหตุชุลมุนระหว่างเหตุการณ์ ไม่ได้ตั้งใจผลักแผงเหล็กไปโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ศาลไม่ได้นำมาพิจารณาประกอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี