วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
โอมิครอนลามเจออีก 2 ราย  โผล่เชียงใหม่  นักท่องเที่ยวอังกฤษ-เยอรมนี  เข้าไทยผ่าน‘เทสต์แอนด์โก’

โอมิครอนลามเจออีก 2 ราย โผล่เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวอังกฤษ-เยอรมนี เข้าไทยผ่าน‘เทสต์แอนด์โก’

วันจันทร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag :
  •  

โอมิครอนลามเจออีก 2 ราย

โผล่เชียงใหม่

นักท่องเที่ยวอังกฤษ-เยอรมนี

เข้าไทยผ่าน‘เทสต์แอนด์โก’

เร่งตรวจผู้สัมผัสเฉียด20คน

‘บิ๊กตู่’ย้ำปชช.ร่วมมือสู้โควิด

ลั่น‘สงครามโรคยังไม่สิ้นสุด’

 

ยอดโควิดรายวันทรงตัว 2,532 คน เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 60 คน เสียชีวิต 22 ศพ “สธ.”แถลงตัวเลขคาดการณ์ติดเชื้อหลังปีใหม่ ย้ำปชช.คัดกรองตัวเองด้วยชุด ATK แนะถ้าให้ดีควรตรวจก่อน-หลังร่วมกิจกรรมเคาท์ดาวน์ หรือตรวจเป็นระยะทุก 3-5-7 วันเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด นายกฯลั่นสงครามโรคยังไม่สิ้นสุด กำชับทุกคนระวังตัวร่วมมือรับผิดชอบ
ตัวเอง-สังคม เชียงใหม่เจอ 2 นักท่องเที่ยวจากอังกฤษและเยอรมนีเดินทางผ่านเทสต์แอนด์ โก ติดสายพันธุ์โอมิครอน 2 ราย

เผยควบคุมผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำได้หมดแล้ว ผู้ว่าฯย้ำยังไม่พบระบาดในพื้นที่ เป็นเชื้อนำเข้าจากต่างประเทศ‘เลย’พบคลัสเตอร์สามีภรรยามาจากฝรั่งเศส


เมื่อวันที่ 26ธันวาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) รายงานภาพรวมสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย รวมถึง 10 อันดับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อสูงสุดรายวัน

ติดเชื้อเพิ่ม2,532-ตาย22คน

โดยไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2,532 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยใหม่ 2,412 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 37 ราย ติดเชื้อจากผู้เดินทางต่างประเทศ 60 ราย และติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขังเพิ่ม 23 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,181,107 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,209,970 ราย หายป่วยเพิ่มวันนี้ 3,771 ราย หายป่วยสะสม 2,125,102 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 2,152,528 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิต 22 คน เสียชีวิตสะสม 21,486 คน เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวม 21,580 คน ส่วนผู้ป่วยรักษาอยู่ 35,862 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 17,696 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 18,166 ราย อาการหนัก 813 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 206 ราย

ผู้เสียชีวิต 22 คน แบ่งเป็น ชาย 11 ราย หญิง 11 ราย คนไทย 22 ราย อยู่ในกรุงเทพมหานครนครราชสีมา ยโสธร สกลนคร อุบลราชธานี เชียงราย แพร่ นครสวรรค์ กระบี่ ชุมพร ตรัง ระนอง สุราษฎร์ธานี ชลบุรีและสุพรรณเสียชีวิตอย่างละ 1 ราย นครศรีธรรมราชเสียชีวิต 3 ราย สตูลและราชบุรีเสียชีวิตรอย่างละ 2 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีโรคประจำตัวหรือปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค อาทิ ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคหัวใจ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดยังคงติดจากคนในครอบครัว เพื่อน คนในชุมชน อาชีพเสี่ยง การเข้าไปสถานที่แออัด ไปพื้นที่ระบาด เป็นต้น

เจอคนติดเชื้อมาจากตปท.60คน

ส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 60 ราย แบ่งเป็น แอฟริกา 5 ราย สหรัฐอเมริกา 9 ราย สหราชอาณาจักร 12 ราย เยอรมนี 5 ราย สวิตเซอร์แลนด์ ตุรกี ฝรั่งเศส เอธิโอเปีย อินเดียและเกาหลีใต้อย่างละ 2 ราย มอลตา เดนมาร์ก ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย เบลเยียม มาเลเซีย รัสเซียและเมียนมาอย่างละ 1 ราย เนเธอร์แลนด์ 4 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5 ราย

ปทุมติดอันดับ10จว.ติดเชื้อสูงสุด

ศบค.ระบุต่ออีกว่า สำหรับ 10 อันดับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศรายใหม่สูงสุด อันดับ 1 ยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร (กทม.) ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 414 ราย ยอดสะสม 438,168 ราย อันดับ 2 ชลบุรี 179 ราย ยอดสะสม 111,866 ราย อันดับ 3 นครศรีธรรมราช 144 ราย ยอดสะสม 47,234 ราย อันดับ 4 สมุทรปราการ 79 ราย ยอดสะสม 131,858 ราย อันดับ 5 ประจวบคีรีขันธ์ 73 ราย ยอดสะสม 19,809 ราย อันดับ 6 เชียงใหม่ 66 ราย ยอดสะสม 28,744 ราย อันดับ 7 สุราษฎร์ธานี 60 ราย ยอดสะสม 28,374 ราย อันดับ 8 กาฬสินธุ์ 55 รายยอดสะสม 10,227 ราย อันดับ 9 ตรัง 54 ราย ยอดสะสม 17,655 ราย อันดับ 10 ปทุมธานี 51 ราย ยอดสะสม 40,868 ราย

ฉีดวัคซีนสะสม102ล้านโดส

นอกจากนี้ ศบค.ยังรายงานผลดำเนินงานการรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง สนามบินเชียงใหม่ สนามบินหัวหิน สนามบินภูเก็ต และสนามบินสมุย ตั้งแต่วันที่ 1 -25 ธันวาคมมียอดสะสม 228,534 คน แยกเป็นกลุ่ม Test&Go 195,109 คน ติดเชื้อ 416 ราย แซนด์บ็อกซ์ 28,687 คน ติดเชื้อ 64 ราย อยู่ระหว่างกักตัว (Quarantine) 4,738 คน ติดเชื้อ 166 ราย ขณะที่จำนวนผู้รับวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 25 ธันวาคม รวม 102,561,331 โดส ใน 77 จังหวัด จำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 51,016,858 ราย เข็มที่ 2 สะสม 45,379,446 ราย และเข็มที่ 3 สะสม 6,165,027 ราย

สธ.แถลงคาดการณ์โควิดหลังปีใหม่

ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในไทยว่า วันที่ 27 ธันวาคม ในการประชุมอีโอซีกระทรวงสาธารณสุข จะหารือถึงประเด็นต่างๆ รวมถึงมาตรการรับมือโควิด-19 และจะมีการแถลงข่าวอัพเดตฉากทัศน์(scenario) ของการระบาดโควิด-19 หลังปีใหม่ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อเทียบกับการปฏิบัติตามมาตรการที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน ทั้งนี้ ปกติจะทำ 3 ฉากทัศน์คือ 1.สถานการณ์แย่ที่สุด (Worst Case Scenario) 2.ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้ (Plausible Scenario) และ 3.ฉากทัศน์ที่ดีที่สุด (Best Case Scenario) เพื่อดูว่าหากจะให้สถานการณ์ดีที่สุด ต้องทำอะไรบ้าง ปานกลางต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้เราออกมาตรการเป็นแนวทางให้ประชาชน

ย้ำช่วงปีใหม่คัดกรองตัวเองด้วยATK

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมวิทยฯ กำลังรวบรวมข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสจนถึงสัปดาห์ล่าสุด ซึ่งจะอัพเดตตัวเลขผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน และคลัสเตอร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันที่ 27 ธันวาคม พร้อมแถลงฉากทัศน์ ขอย้ำว่าสถานการณ์ล่าสุดข้อมูลจากประเทศอังกฤษที่ติดโอมิครอนเป็นแสนราย แต่อัตราเสียชีวิตไม่มาก ข้อสรุปเบื้องต้นคือ แพร่เร็วแน่นอนส่วนคนที่เคยติดเชื้ออื่นหรือได้รับวัคซีนป้องกันมาแล้วก็แพร่ได้ แต่วัคซีนช่วยไม่ให้อาการรุนแรงได้

อย่างไรก็ตาม ช่วงปีใหม่ประชาชนเดินทางมากขึ้น เข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้น ดังนั้น คำแนะนำที่สำคัญคือ การคัดกรองตัวเองด้วยชุดตรวจ ATK สร้างความปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง แต่มีข้อจำกัดในตัวเอง หากตรวจไม่ถูกวิธี ตรวจในวันแรกๆ เชื้อน้อยๆ ตามหลักความจริงก็คือ อาจหาไม่เจอ ยังไงก็ต้องระวัง แต่ไม่อยากให้ยึดเป็นสรณะ เพราะการตรวจครั้งแรกเป็นลบ ต้องตรวจซ้ำใน 3-5 วันถัดไป ระหว่างนั้นต้องป้องกันตัวเอง หากมีความเสี่ยงก็ควรแยกตัวออกจากผู้อื่นให้มากที่สุด

แนะตรวจบ่อยยิ่งดีทุก3วัน5วัน7วัน

แต่สำหรับคนที่ตรวจเป็นซีเรียล คือตรวจบ่อยทุกๆ 3-5 หรือ 7 วันถือเป็นสิ่งที่ดี ตรวจได้บ่อยยิ่งดี ตอนนี้หาซื้อได้ง่ายและมีราคาถูกลง สิ่งที่เน้นย้ำคือ การเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจต้องถูกต้อง ปั่นไม้ที่จมูกต้องปั่นข้างละ 5 รอบ ให้ติดน้ำมูกที่อยู่ตรงเพดานจมูก ไม่ใช่ปั่นแล้วไม่โดน เวลาตรวจก็อาจไม่เจอเชื้อได้

ทั้งนี้ หลักทางระบาดไม่ว่าจะเครื่องมือใด หากช่วงที่ภาพรวมการติดเชื้อต่ำ จะหาไม่เจอ จะมีผลลบปลอม(false negative) เยอะ แต่หากตอนที่ติดเชื้อสูง ก็ช่วยได้ อย่างตอนที่เราติดเชื้อเป็นหมื่นราย ตรวจ ATK ก็เจอผลบวกเยอะ แต่เมื่อติดเชื้อวันละ 2 พัน ภาพรวมก็เหลือ 1-2% ก็จะหาไม่ค่อยเจอ ซึ่งเป็นหลักระบาดทั่วไป

“หลักการตรวจ ATK คือ หากจะเข้าร่วมกิจกรรมกับใคร ก็ขอผลตรวจให้ล่าสุดจะดีที่สุด ส่วนการเดินทางกลับมาจากภูมิลำเนา หรือหลังเข้าร่วมกิจกรรม ก็แนะนำว่าตรวจซ้ำได้ เพราะ ATK ราคาถูก หากมีความเสี่ยงก็ตรวจบ่อยทุก 3 วันก็ได้ สมมติว่าจะดูคอนเสิร์ตเย็นนี้ ให้ตรวจก่อนเข้างานก็ดีที่สุด ไม่ใช่ว่าตรวจ 3-5 วันที่แล้ว แล้วเอาผลมาขอเข้างาน แบบนี้ก็อาจผิดพลาดได้มาก ดังนั้น หากจะตรวจครั้งเดียวให้เอาผลล่าสุด แต่หากตรวจเป็นระยะ เป็นซีเรียล ATK อันนี้ไม่เป็นไร ตรวจบ่อยแค่ไหน ก็ดีมากขึ้นเท่านั้น”นพ.ศุภกิจกล่าว

นายกฯเตือนสงครามโรคยังไม่สิ้นสุด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลติดตามสถานการณ์ระบาดโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ตามข้อสั่งการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่เน้นทุกส่วนราชการเฝ้าระวังสถานการณ์โควิด-19 แม้ที่ผ่านมาไทยประสบความสำเร็จในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี โดยนายกฯกำชับทุกส่วนราชการทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และขอความร่วมมือส่วนท้องถิ่น อบจ. อบต. ที่ให้บริการประชาชน ยกระดับการดูแลสถานที่ตามข้อกำหนดของ ศบค. จัดสรรจำนวนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตามภารกิจ ลดความเสี่ยงของบุคลากรในการแพร่/รับเชื้อไวรัส โดยให้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในงานบริการ ลดสัมผัสระหว่างบุคคล ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขทั้งในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานและสร้างความมั่นใจให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการด้วย

“นายกฯฝากเตือนว่า สงครามโรคยังไม่สิ้นสุด จึงขอทุกฝ่ายถือเป็นวาระแห่งชาติในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและมาตรการสาธารณสุข เพราะไวรัสโควิด-19 สามารถป้องกันได้ หากทุกคนร่วมมือ ร่วมใจ รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม”นายธนกรกล่าว

เชียงใหม่เจอ2นทท.ติดโอมิครอน

วันเดียวกัน มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มเติม โดยศูนย์บัญชาการสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค COVID-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ดีขึ้นตามลำดับ แต่มีเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งให้ประชาชนทุกคนทราบ เพื่อเตรียมตัว ตื่นตัว และตระหนักไปพร้อมกัน เนื่องจากได้ตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกพบมีชาวต่างชาติ 2 ราย ที่เดินทางมาจากอังกฤษและเยอรมัน ผ่านระบบ Test & Go ติดเชื้อและคาดว่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ขณะนี้สามารถติดตามไทม์ไลน์และควบคุมได้แล้ว จึงขอแจ้งให้ประชาชนทุกคนทราบว่ามีเชื้อสายพันธุ์ใหม่เข้ามาแล้ว แต่อย่าตื่นตระหนก เพราะตอนนี้สอบสวนและควบคุมโรคแล้ว

รายแรกชายเยอรมัน-ตรวจผู้สัมผัส25คน

ด้านนายแพทย์วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่รับแจ้งผลตรวจสายพันธุ์ของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาผ่านระบบคัดกรองแบบ Test & Go 2 ราย ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นสายพันธุ์โอมิครอน อยู่ระหว่างการตรวจยืนยันโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดว่าจะทราบผลยืนยันในอีก 2 วัน อย่างไรก็ตาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้สอบสวนและควบคุมโรคอย่างเข้มข้นตั้งแต่ได้รับรายงาน

ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 22 ปี เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันที่ 17 ธันวาคม ผลตรวจ RT-PCR วันแรกไม่พบเชื้อ ผู้ติดเชื้อรายนี้อยู่กรุงเทพฯระหว่างวันที่ 17-20 ธันวาคมและเดินทางมายังจ.เชียงใหม่วันที่ 20 ธันวาคม ด้วยสายการบินไลออนแอร์ SL510 ก่อนเข้าพักในคอนโดที่จองไว้ ย่านช้างคลาน และเดินทางไปเที่ยวในอ.แม่วาง (private tour) วันที่ 21 ธันวาคม เริ่มมีอาการผิดปกติ วันที่ 22 ธันวาคม จึงเข้าตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน พบว่าติดเชื้อ จากผลติดตามผู้สัมผัสของผู้ติดเชื้อรายแรกพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 18 ราย เสี่ยงต่ำ 7 ราย ขณะนี้ติดตามตัวได้ทั้งหมดแล้ว

โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ประกอบด้วย (1) ผู้สัมผัสในเที่ยวบิน ซึ่งเป็นผู้ที่นั่งอยู่ใน 2 แถวหน้า-หลัง และแถวเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ 13 ราย อยู่ในจ.เชียงใหม่ 4 ราย ตรวจแล้วผลลบแล้ว 3 ราย และเข้าตรวจหาเชื้อวันนี้อีก 1 ราย (2) พนักงานขับรถแท็กซี่ 1 ราย ผลตรวจรอบแรกเป็นลบ (3) พนักงานขับรถและไกด์นำเที่ยว 2 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ (4) เพื่อนร่วมเดิมทางไปอ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 1 ราย ได้ติดตามเพื่อเข้าตรวจวันนี้ (5) หมอนวด 1 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 7 ราย เป็นพนักงานร้านกาแฟ ผลตรวจเป็นลบ 6 ราย และอยู่ระหว่างรอผลอีก 1 ราย

รายที่2ชายอังกฤษ-ตามผู้สัมผัส3กลุ่ม

ส่วนผู้ติดเชื้อรายที่ 2 เป็นชายชาวอังกฤษ อายุ 64 ปี เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันที่ 18 ธันวาคม ผลตรวจ RT-PCR วันแรกไม่พบเชื้อ เดินทางต่อมายังจ.เชียงใหม่ วันที่ 19 ธันวาคม ด้วยสายการบินไทยสไมล์ WE110 และเข้าพักที่บ้านเช่าในอ.สันทราย ผู้ติดเชื้อรายนี้ตรวจ ATK ด้วยตนเองวันที่ 24 ธันวาคมพบผลบวก จึงเข้าตรวจ RT-PCR ที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ด ก่อนทราบผลติดเชื้อ ขณะนี้รักษาตัวในโรงพยาบาลสันทราย จากการติดตามผู้สัมผัสของผู้ติดเชื้อพบผู้สัมผัส ได้แก่ (1) เพื่อนร่วมเดินทาง 3 ราย ตรวจแล้วทั้งหมด ผลเป็นลบ 2 ราย อีก 1 ราย อยู่ระหว่างรอผล (2) ผู้สัมผัสในเที่ยวบิน WE110 ที่นั่งอยู่ 2 แถวหน้า-หลัง และแถวเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างติดตามข้อมูลจากสายการบิน และ (3) พนักงานขับรถแท็กซี่ 1 ราย อยู่ระหว่างการติดตาม

ยันควบคุมโรคตรวจเชื้อได้หมดแล้ว

ขณะที่แพทย์หญิงเสาวนีย์ วิบุลสันติ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่เจอยังเป็นผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่ง 2 รายนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาตามระบบ Test & Go เมื่อตรวจ RT-PCR ไม่พบเชื้อ จึงเดินทางต่อมายังจ.เชียงใหม่ มีการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกแห่ง ที่ผู้ติดเชื้อมีประวัติเดินทางไป และแจ้งให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทุกคนหยุดกิจกรรมทุกอย่าง และเข้ารับการตรวจ RT-PCR แล้ว ซึ่งบางรายผลออกแล้วเป็นลบ และบางรายอยู่ระหว่างรอผล โดยผู้ที่ผลตรวจรอบแรกเป็นลบต้องกักตัวจนครบ 14 วัน และตรวจหาเชื้อซ้ำ ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าเมื่อพบผู้ติดเชื้อทางสาธารณสุข สามารถดำเนินการและตรวจจับเชื้อ สวบสวนโรค ควบคุมโรคได้ทันที

ไม่มีระบาดพื้นที่-ติดเชื้อจากตปท.

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ย้ำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังตัวให้มากขึ้น และยังไม่มีการระบาดในพื้นที่ แต่เป็นการระบาดจากต่างประเทศเข้ามา จังหวัดเชียงใหม่ได้รณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 โดยเร็วที่สุด เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รวมทั้งทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จะวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเป็นระบบ โดยผ่านการประเมินจากทีมแพทย์ ซึ่งมาตรการทุกอย่างจะต้องเข้มงวดเหมือนเดิม โดยเฉพาะร้านอาหารต่างๆ ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้

คลัสเตอร์บึงกาฬไม่ใช่เชื้อโอมิครอน

ส่วนสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ในภาคอีสาน นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 8 ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ระบาดในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 8 ว่า จากการติดตามสถานการณ์ข้อมูลใน 7 จังหวัด ภาคอีสานตอนบน ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และ บึงกาฬ รวมประชากรกว่า 5 ล้านคน เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45 ราย เป็นคนในพื้นที่ 35 ราย และนอกพื้นที่เข้ามา 10 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นสายพันธุ์เดลต้า

กรณีทีข่าวการติดเชื้อคลัสเตอร์ในสถานปฏิบัติธรรม จ.บึงกาฬ กลุ่มพระภิกษุสงฆ์เกือบร้อยรูป ซึ่งตอนแรกเรากังวลว่าจะเป็นเชื้อโอมิครอน แต่ได้ส่งตรวจสายพันธุ์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต 8 อุดรธานี พบว่า ทุกคนติดเชื้อเดลต้า ไม่พบเชื้อโอมิครอนในคลัสเตอร์ดังกล่าว ทีมสอบสวนโรคดำเนินการแยกกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงไว้แล้ว และอยู่ระหว่างรอตรวจหาเชื้อซ้ำ

นพ.ปราโมทย์กล่าวต่อว่า า ขณะที่คลัสเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโอมิครอนที่พบในเขตสุขภาพที่ 8 ขณะนี้มีรายงาน 2 เหตุการณ์คือ 1.คลัสเตอร์ที่เกี่ยวกับสามีภรรยา จ.กาฬสินธุ์ โดยชายอายุ 22 ปี จาก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เดินทางไปพบและติดเชื้อมา ตอนนี้ผลตรวจสายพันธุ์เบื้องต้น (potential) เป็นโอมิครอน โดยเย็นวันนี้ (26 ธันวาคม) จะมีผลยืนยันออกมาอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากรายดังกล่าวมี 7 ราย ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 6 ราย ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสทุกคนและเด็กเล็ก 1 ราย ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เนื่องจากอายุไม่ถึงเกณฑ์ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม การตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ให้ผลลบทุกราย อยู่ระหว่างแยกกักตัวที่บ้าน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย (มท.) ดูแลอยู่ โดยกำหนดตรวจหาเชื้อซ้ำวันที่ 30 ธันวาคม

เลยเจอคลัสเตอร์2สามีภรรยามาจากฝรั่งเศส

“ต่อมาเป็นอีกเหตุการณ์คือ ครอบครัวหนึ่ง เป็นชายชาวฝรั่งเศส ภรรยาชาวจ.เลย และลูกอายุ 2 ขวบ รวมเป็น 3 คน เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมเดินทางถึงไทย ลงเครื่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าโรงแรมกักตัวในกรุงเทพมหานครตรวจ RT-PCR เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ผลตรวจเป็นลบ จากนั้น ภรรยาออกไปรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนประมาณ 10 คน ในร้านอาหารแห่งหนึ่งของพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งสามีและลูกรออยู่ที่โรงแรม หลังภรรยากลับมาที่โรงแรม ให้ข้อมูลว่า ไม่ได้ออกไปไหน ต่อมาวันที่ 19 ธันวาคม ครอบครัวดังกล่าวรวม 3 คน เดินทางโดยเครื่องบินกลับบ้านที่อ.เอราวัณ จ.เลย เพื่อไปเยี่ยมแม่ โดยวันที่ 22 ธันวาคม พ่อและพี่ชายเดินทางจาก อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู ไปเยี่ยมที่บ้านใน จ.เลย จากนั้นวันที่ 23ธันวาคม ภรรยาทราบว่า เพื่อนร่วมรับประทานอาหารด้วยกันที่กรุงเทพฯ ติดเชื้อโควิดจากนั้นตัวเอง สามี และลูก จึงไปตรวจหาเชื้อ วันที่ 24 ธันวาคมและผลออกมาว่า สามีกับภรรยาติดเชื้อโควิดแต่ลูกผลตรวจเป็นลบครั้งแรก ขณะนี้กำลังกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำ สำหรับสองสามีภรรยา ล่าสุดผลการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัส พบว่าเป็นเชื้อโอมิครอน อยู่ระหว่างการตรวจยืนยันอีกครั้ง แต่ครอบครัวนี้ได้ขอย้ายตัวเองไปรักษาที่ รพ.เอกชน ใน จ.อุดรธานี” นพ.ปราโมทย์ กล่าว

และว่า สธ.กำลังตามผู้ร่วมเดินทางโดยเครื่องบินในแถวที่มีความเสี่ยงตามที่กำหนดให้ตรวจหาเชื้ออยู่ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากสามีภรรยารวม 4คน คือ ลูก แม่ที่อยู่บ้านด้วยกันที่ จ.เลย พ่อและพี่ชาย ที่เดินทางไปเยี่ยม กำลังกักตัวเพื่อรอผลการตรวจครั้งแรก ส่วนเพื่อนที่กินข้าวด้วยกัน ต้องสอบสวนโรคอีกครั้ง เบื้องต้นเพื่อนก็ติดเป็นสายพันธุ์โอมิครอนเช่นกัน ต้องรอการสอบสวนโรคก่อน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ปลัดฯ สงค์\' ยันแรงงานไทยในอิสราเอลปลอดภัยดี ขณะนี้ยังไม่มีแจ้งขอกลับไทย 'ปลัดฯ สงค์' ยันแรงงานไทยในอิสราเอลปลอดภัยดี ขณะนี้ยังไม่มีแจ้งขอกลับไทย
  • สสส.ลงพื้นที่ ศึกษาดูงาน \'ฮ่วมใจ๋ ฮ่วมก่อสุข (ภาวะ)\' ปรับพฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพให้เด็ก สสส.ลงพื้นที่ ศึกษาดูงาน 'ฮ่วมใจ๋ ฮ่วมก่อสุข (ภาวะ)' ปรับพฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพให้เด็ก
  • โยธาฯ จัดรูปที่ดินนครสวรรค์ พลิกโฉมเมือง สร้างโครงสร้างพื้นฐาน - สวนสาธารณะ มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โยธาฯ จัดรูปที่ดินนครสวรรค์ พลิกโฉมเมือง สร้างโครงสร้างพื้นฐาน - สวนสาธารณะ มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
  • สคช.เตรียมจัดโครงการ\'คลินิกอัยการอาสาเคลื่อนที่คุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ\' สคช.เตรียมจัดโครงการ'คลินิกอัยการอาสาเคลื่อนที่คุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ'
  • สภาผู้บริโภคเล็งเปิดผลศึกษา 4 แนวทาง กทม. หลังหมดสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว สภาผู้บริโภคเล็งเปิดผลศึกษา 4 แนวทาง กทม. หลังหมดสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว
  • สภาผู้บริโภคปล่อยขบวนรถเมล์ 3 เส้นทาง ชวนออกแบบเมืองที่เป็นธรรม สภาผู้บริโภคปล่อยขบวนรถเมล์ 3 เส้นทาง ชวนออกแบบเมืองที่เป็นธรรม
  •  

Breaking News

'Boys Vibe The Project'อัปเลเวลความฟิน ถึงเวลาสารภาพรัก จุดกำเนิดคู่จริงหรือแค่จิ้น!

'เมสซี่'ดวลทีมเก่า! ‘เปแอสเช’ลิ่ว-ตราหมีร่วงคลับเวิลด์

‘อลงกต’ลั่นสว.พร้อมไฟเขียวงบฯ69 จับตาพิรุธงบ ‘ก.คลัง’ จ้างบ.ทนายทวงหนี้ กยศ.ร้อยล้าน

ทหารเมียนมายิงปืนครก ตกใส่หมู่บ้านดอยแหลมอ่อ ประชาชนเจ็บ 4 ราย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved