'สภาผู้บริโภค'รณรงค์ชวนผู้บริโภคมีส่วนร่วมออกแบบเมืองเป็นธรรม หนุนจัดบริการขนส่งสาธารณะ ลดการใช้พลังงานฟอสซิล เพื่อสิ่งแวดล้อม วางผังเมืองเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี โดยปชช.ร่วมออกแบบเมืองกับสภาผู้บริโภคได้ทุกช่องทาง
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2568 นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวทำให้พบปัญหาของเมืองในหลายประเด็น ทั้งในเรื่องของการสร้างอาคารสูงในซอยแคบ การบริการขนส่งสาธารณะ และปัญหาสิ่งแวดล้อม สะท้อนการจัดการเมืองที่เหลื่อมล้ำ ดังนั้น สภาองค์กรของผู้บริโภคจึงชวนผู้บริโภคออกแบบเมืองที่เป็นธรรมเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน
นายอิฐบูรณ์ กล่าวว่า สภาผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคทั้งในเรื่องการสร้างตึกสูงในซอยแคบ การบริการรถสาธาร ณะ และเรื่องของปัญหาสิ่งแวด ล้อมฝุ่น PM2.5 จึงเห็นว่าถึงเวลาที่ผู้บริโภคต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบเมืองที่เป็นธรรม จึงเกิดความร่วมมือของอนุกรรมการ 3 ด้าน คือ ด้านขนส่งและยานพาหนะ,ด้านอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย และด้านบริการสาธา รณะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อรณรงค์การสร้างเมืองที่เป็นธรรมร่วมกันเนื่องจากทั้ง 3 ด้านเป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกัน
“ถ้าอนุกรรมการฯ แต่ละด้านร่วมมือกันผลักดันจะมีพลังมากกว่าการเดินไปเดี่ยว ๆ เพราะลักษณะงานมีความสอดคล้องกันได้ เช่น อนุกรรมการด้านขนส่ง มีเป้าหมายทำให้คนใช้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะมากขึ้น ช่วยลดพลังงานฟอสซิส ขณะที่อนุกรรมการด้านที่อยู่อาศัย ก็อยากเห็นผังเมืองที่ทำให้คนเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่การตัดถนนเป็น 100 สาย จึงจับมือกันขับเคลื่อนการออกแบบเมืองที่ให้ความสำคัญกับสาธารณูปโภค ให้ความสำคัญกับขนส่งมวลชน ทำให้เมืองเป็นคุณภาพชีวิตของทุกคนและเป็นเมืองที่เป็นธรรมกับทุกคน”
ที่ผ่านมาทั้ง 3 ประเด็น มีเสียงของผู้บริโภคมาร้องเรียนค่อนข้างมากโดยเฉพาะเรื่องที่อยู่อาศัย มีการ้องเรียนการสร้างอาคารสูงในซอยแคบมีผู้บริโภคร้องเรียนมากหลายพันคนถึงการก่อสร้างอาคารสูงแต่ไม่มีความปลอดภัยเพราะซอยแคบ รถดับเพลิงเข้าไปทำงานไม่ได้ ซึ่งหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวเราจะเห็นว่าน่าจะทำให้เกิดการทบทวนการก่อสร้างอาคารสูงที่มีขนาดถนนกว้างน้อยกว่า 6 เมตรมากขึ้น
“สภาผู้บริโภคได้เรียกร้องให้ กทม. ตรวจสอบอาคาร 50 เขต โดยเริ่มจาก 13 อาคารที่มีเรื่องร้องเรียน เพื่อทำให้อาคารเหล่านั้นปลอดภัย เพราะความลอดภัยเป็นเรื่องที่ต้องป้องกันไม่ใช่มาร้องไห้กันหลังเกิดเหตุแล้ว”
ขณะที่การออกแบบเมือง หรือการวางผังเมืองด้วยการตัดถนนเพิ่มเพื่อการแก้ปัญหาการจราจร ไม่ใช่คำตอบเพราะเมืองทั่วโลกได้ข้อสรุปว่าการสร้างถนนเพิ่มขึ้นจำนวนมากไม่ช่วยแก้ปัญหาจราจรได้จริง แต่ควรจะสนับสนุนให้ประชาชนใช้บริการขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้ ด้วยการทำเรื่องตั๋วร่วม เพื่อให้ค่าบริการขนส่งสาธารณะมีราคาเป็นมิตรกับผู้บริโภค ทุกคนเข้าถึงบริการได้มากขึ้น แต่ขนส่งสาธารณะไม่ควรทำเฉพาะ กทม. แต่ควรจะสนับสนุนไปทั่วประเทศ
นอกจากนี้ เรายังเห็นว่าทุกเมืองควรจะหันมาตื่นตัวในการสร้างเมืองเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ลอกเลียนแบบกรณีพระราม 2 ที่มีก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ และมีการขยายถนนก่อสร้างต่อเนื่อง โดยขณะนี้เกือบทุกจังหวัดมีการก่อสร้างถนนที่ยังไม่เสร็จ แล้วก็ขยายถนนไม่มีที่สิ้นสุด เราไม่อยากให้ซ้ำรอยการก่อสร้างเช่นเดียวกับพระราม 2 เพราะถนนควรจะเป็นถนนสำหรับทุกคน เช่น คนเดินเท้า ผู้ขี่จักรยาน ผู้ขี่มอเตอร์ไซด์ คนพิการ และผู้สูงอายุ เมืองจึงควรจัดบริการขนส่งสาธารณะของตัวเองอย่างจริงจัง
“ เราคิดว่าเมืองสามารถจัดให้มีการบริการขนส่งสาธารณะได้ เช่น ที่ขอนแก่น เราทราบว่ามีภาษีล้อเลื่อนมากถึง 800 ล้านบาท ซึ่งคนที่ทำงานด้านบริการขนส่งสาธารณะบอกว่า ถ้านำเงินเพียงแค่ 200 ล้านบาทก็สามารถสร้างขนส่งสาธารณะฟรีในจังหวัดได้เลย หรือที่ อบจ.กาญจนบุรี ได้จัดบริการจ้างเดินรถ ตั้งแต่อำเภอแรกไปถึงอำเภอสุดท้ายของจังหวัด ซึ่งขาดทุนปีละ 12 ล้านบาท อันเป็นเงินจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับคุณภาพชีวิตของประชาชน”
นายอิฐบูรณ์ กล่าวอีกว่า อยากชวนผู้บริโภคมารณรงค์ร่วมกัน ทำให้ตัวเองมีส่วนร่วมกับการจัดการเมือง เพราะเวลามองเรื่องเมืองที่เป็นธรรมร่วมกันนั้น เมืองมันควรจะเป็น“เมืองที่เป็นธรรม"สำหรับทุกคน และแน่นอนที่สุดว่าผู้บริโภคจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการออก แบบเมือง โดยเราจะไม่ทำเพียงแค่หยุดขับรถเฉพาะคาร์ฟรีเดย์ แต่เราจะหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น โดยเราอยากเห็นรัฐบาลจัดโครงสร้างที่เอื้ออำนวยให้คนสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก สภาผู้บริโภคเองได้ผลักดันนโยบายว่า ประชาชนเดินออกจากบ้านเพียง 500 เมตรก็ใช้บริการรถสองแถวสาธารณะได้เลย แล้วรัฐบาลควรจะไปสนับสนุนรถสองแถวหันมาใช้รถอีวีอย่างไรเพื่อลดการใช้พลังงานฟอสซิล และมีต้นทุนต่ำนั่นคือสิ่งที่รัฐบาลต้องสนับสนุน
รองเลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวตอนท้ายว่า สภาผู้บริโภคได้รณรงค์เชิญชวนผู้บริโภคร่วมออกแบบเมืองที่เป็นธรรม โดยปล่อยขบวนรถเมล์ 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 1. สาย 47 (3-41) ท่าเรือคลองเตย – สถานีรถไฟฟ้าสนามไชย 2.สาย 24 (2-39) ประชานิเวศน์ 3 - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ 3. สาย 54 (2-44) วงกลมพระราม 9 – สุทธิสาร
ทั้งนี้ สำหรับผู้บริโภคสามารถร่วมสร้างเมืองที่เป็นธรรมของทุกคนกับสภาผู้บริโภคผ่านช่องทางของสภาผู้บริโภคทุกช่องทาง ทั้ง Website tcc.or.th , line ทางการของสภาผู้บริโภค : @tccthailand เฟซบุ๊กอินบ็อกซ์ : สภาองค์กรของผู้บริโภค , ทวิตเตอร์ : @tccthailand Tiktok : @tccthailand โดยสภาผู้บริโภคจะรวบรวมความเห็นเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี