ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานได้สั่งการให้ติดตามและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ ในประเทศช่วงหน้าแล้งอย่างใกล้ชิดให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะบริเวณจุดสำคัญของแม่น้ำสายหลักทั้ง 5 จุด ได้แก่ บริเวณแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลองแม่น้ำบางปะกง ในพื้นที่ภาคกลาง และบริเวณคาบสมุทรสทิงพระ ในพื้นที่ภาคใต้ ที่มักจะเกิดปรากฏการณ์น้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาในแม่น้ำหลายกิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำดิบเป็นประจำ โดยเฉพาะภาคกลางที่ต้องใช้น้ำดิบในหลายกิจกรรมสำคัญทั้งเพื่อผลิตน้ำประปา ใช้ในโรงพยาบาล ใช้เพื่อการเกษตร เป็นต้น
ทั้งนี้กรมชลประทานวางมาตรการควบคุมคุณภาพน้ำในแต่ละแม่น้ำ ให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่จะนำน้ำไปใช้ประกอบกิจการ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยาควบคุมค่าความเค็มที่สถานีประปาสำแลไม่ให้เกิน 0.25 กรัมต่อลิตร เพื่อผลิตน้ำประปา แม่น้ำท่าจีนควบคุมความเค็มริมแม่น้ำไม่ให้เกิน 0.75 กรัมต่อลิตร เพื่อเกษตรกรผู้ปลูกสวนกล้วยไม้ แม่น้ำแม่กลองควบคุมความเค็มระดับไม่เกิน 2 กรัมต่อลิตร เพื่อการเกษตรบริเวณปากคลองดำเนินสะดวก แม่น้ำบางปะกงควบคุมความเค็มไม่เกิน 1 กรัมต่อลิตรเพื่อน้ำใช้การในโรงพยาบาลพระอภัยภูเบศ เป็นต้น
โดยกรมชลประทานได้ติดตามเฝ้าระวังเพื่อรักษาคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ โดยเฉพาะจุดเฝ้าระวังในแม่น้ำสายหลัก 5 สายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงฤดูแล้งตั้งแต่ 1 พ.ย.2564 จนถึง 30 เม.ย.2565 เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีน้ำคุณภาพดีเพื่ออุปโภค-บริโภค รวมถึงกิจกรรมใช้น้ำอื่นๆซึ่งขณะนี้ค่าความเค็มทุกจุดเฝ้าระวังยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี