ดับ300เจ็บ2.4พัน
เซ่น6วันฉลองเทศกาลปีใหม่
กทม.-เชียงใหม่-กาญจนบุรี
แชมป์เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด
คุมประพฤติเมาขับ5พันคดี
6 วันอันตรายช่วงปีใหม่ ดับแล้ว 300 ศพ บาดเจ็บ-อุบัติเหตุเพียบ “กทม.-เชียงใหม่-กาญจนบุรี” แชมป์สูญเสีย ส่วน 6 จังหวัดไร้ผู้เสียชีวิต ศาลคุมประพฤติคดีเมาขับ 6 วัน 5,200 คดี ชัยภูมิ นำโด่ง
เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนวันที่ 3มกราคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่6ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ได้เกิดอุบัติเหตุ 264 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 34 ราย ผู้บาดเจ็บ 274ราย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 35.61 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 18.94ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ 83.03 รองลงมา คือ รถปิกอัพ/กระบะ ร้อยละ 6.64 อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 79.55 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.91 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 36.74 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01–17.00 น.ร้อยละ 9.09 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 40–59 ปี ร้อยละ 15.58
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,905 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,730 นาย เรียกตรวจยานพาหนะ 437,936 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 91,546 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 26,248 ราย ไม่มีใบขับขี่ 23,253 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (15 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กทม.และจันทบุรี (จังหวัดละ 3ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (16ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 52จังหวัด
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (29 ธันวาคม 2564–3 มกราคม 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,488 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 300 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,471ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ (92 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กทม.(20 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (91ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วง 6 วันของการรณรงค์มี 11 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นครนายก ปัตตานี พังงา แพร่ แม่ฮ่องสอน ยะลา ระนอง สตูล สมุทรสงคราม และสุโขทัย
ด้านนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีปภ.ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า เส้นทางสายหลักยังคงมีปริมาณการจราจรหนาแน่นในบางจุด จึงเน้นย้ำให้จังหวัดดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนอย่างต่อเนื่อง สนธิกำลังตำรวจและอาสาสมัครเข้มงวดในการปฏิบัติงานของจุดตรวจบนเส้นทางสายหลัก สายรอง ทางลัด และทางเลี่ยงเมือง เพื่ออำนวยการจราจรและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนตลอดเส้นทาง พร้อมกวดขันตามหลัก “4 ห้าม 2 ต้อง คือ ห้ามดื่ม ห้ามเร็ว ห้ามง่วง ห้ามโทร.ต้องสวมหมวกนิรภัย และต้องคาดเข็มขัดนิรภัย” เพื่อคุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ขอฝากผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และมีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
วันเดียวกัน นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติวันที่ 6 ของ 7 วันอันตราย (3 มกราคม 2565) มีทั้งสิ้น 332คดี จำแนกเป็น คดีขับรถในขณะเมาสุรา 317 คดี ร้อยละ 95.48 และคดีขับเสพ 15คดี ร้อยละ4.52 สำหรับช่วง 7 วันอันตรายปี 2565 มียอดคดีสะสมทั้งสิ้น 5,767คดี จำแนกเป็น ขับรถในขณะเมาสุรา 5,200คดี ร้อยละ 90.17 ติดอุปกรณ์อีเอ็ม10 ราย ขับรถประมาท 11 คดี ร้อยละ0.19 ติดอุปกรณ์อีเอ็ม1ราย ขับเสพ 556คดี ร้อยละ9.64 จังหวัดที่มีสถิติคดีเมาแล้วขับสะสมสูงสุด 3อันดับ ได้แก่ ชัยภูมิ 403คดี บุรีรัมย์ 350 คดี และสกลนคร 278คดี
เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติสะสม 6วัน กับช่วงเทศกาลปีใหม่ปีที่แล้วพบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี 2564 มีจำนวน 2,399คดี ส่วนปี 2565 มีจำนวน 5,200คดี เพิ่มขึ้น 2,801คดี ร้อยละ 53.8 หากเปรียบเทียบสถิติคดีรายวัน (3 มกราคม) ที่เข้าสู่การคุมประพฤติช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 2565 มีจำนวน 332 คดี เทียบกับปีที่แล้ว 326คดี พบว่าเพิ่มขึ้น 6คดี ร้อยละ1.8
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี