6 ม.ค.65 เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ชี้แจงแนะนำข้อกฏหมายและสั่งปิดทันที เพราะจะมีความผิดตามพรบ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พศ.2562 มาตร91 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปี หรือปรับไม่เกิน3แสนบาท และพรบ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา50 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่6เดือนถึง2ปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท 

หลังจากที่มีการปลดล๊อคใบกระท่อมให้สามารถบริโภคใบสดและขายใบสดได้แต่ยังห้ามนำไปต้มแบ่งใส่ขวดขายซึ่งยังมีความผิด แต่ปรากฏว่าที่จ.สงขลา ขณะนี้ได้มีการเปิดขายทั้งใบสดและฉวยโอกาศขายน้ำต้มใบกระท่อมใส่ขวดกันอย่างแพร่หลายทั้งริมถนนและตามหมู่บ้านขวดละ20-50 บาทแล้วแต่ขนาด ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางกล่ำ ภายใต้การสั่งการของ นายสุรัต ลายจันทร์ นายอำเภอบางกล่ำ นายมนตรี ฤิทธจอม ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายส่งศักดิ์ เรืองศรี ปลัดอำเภองานป้องกัน พร้อมด้วยตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.บางกล่ำ เจ้าหน้าที่สาธาระณะสุขอำเภอบางกล่ำ เจ้าหน้ที่กองอาสารักษาดินแดนอำเภอบางกล่ำ ต้องระดมกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายน้ำใบกระท่อม  

พบว่ามีการเปิดซุ้มขายน้ำใบกระท่อม และขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเร่ขาย หลายจุดโดยเฉพาะริมถนนสายเอเชีย ถนนลพบุรีราเมศวร์ และตามหมู่บ้านต่างๆเช่นในพื้นที่บ้านโคกเมา ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ 

เจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำชี้แจงเกี่ยวกับการค้าขายใบพืชกระท่อมและน้ำต้มพืชกระท่อม ให้ทราบโดยขณะนี้อนุญาติให้เฉพาะกินและขายใบสด รวมถึงขายเมล็ดพันธุ์เท่านั้น  

แต่หากกรณนำไปต้มแบ่งบรรจุใส่ขวดขายโดยไม่ได้รับอนุญาตเหมือนกับที่มีการนำวางขายกันริมถนนกันเป็นจำนวนมากขณะนี้จะมีความผิดตามพรบ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พศ.2562 มาตร91 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปี หรือปรับไม่เกิน3แสนบาท และพรบ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา50 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่6เดือนถึง2ปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท 

เบื้องต้นได้ว่ากล่าวตักเตือนให้ผู้ที่เปิดขายน้ำใบกระท่อมให้หยุดขายทันที และจะลงพื้นที่ตรวจสอบหากพบว่ายังมีการฝ่าฝืนต้มน้ำใบกระท่อมแบ่งใส่ขวดขายก็จะจับกุมและดำเนินคดีตามกฏหมายทันที. -008