“เบตง” เมืองชายแดน ที่มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต ห่างจากตัวเมืองยะลา 140 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพมหานคร 1,234 กิโลเมตร ตามเส้นทางที่คดเคี้ยว ลัดเลาะตามแนวเขา เหนือเขื่อนบางลาง ผ่านทะเลสาบน้อยใหญ่ กลางหุบเขาสลับซับซ้อน ตัวเมืองเบตง ตั้งอยู่บนเทือกเขาสันกาลาคีรี ท่ามกลางภูเขาล้อมรอบ เป็นประตู่สู่มาเลเซีย และสิงคโปร์  มีอากาศเย็นสบาย มีเมฆปกคลุมยามเช้า สามารถปลูกไม้ดอกได้ตลอดทั้งปี จึงได้รับสมญานามว่า “เมืองในหมอก ดอกไม้งาม”

เมืองเบตง มีศักยภาพการท่องเที่ยวสูงมาก วิถีชีวิตชาวเบตง มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความเชื่อ ศาสนา ประเพณี สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ดีงาม แสดงถึงความมี อารยธรรม มีวิวัฒนาการที่ยาวนาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เบตง เป็นเมืองที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย จึงอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และแทบจะไม่เกิดเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนต่อคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวเลย อันเนื่องมาจาก มีการช่วยเหลือดูแลกันและกัน รักษาความสงบ รักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี

การเดินทางมาเบตง มีเฉพาะรถยนต์ได้ทางเดียว ทางเครื่องบิน รัฐบาลอยู่ระหว่างดำเนินการโครงการก่อสร้างสนามบินเบตง หากมาทางประเทศไทย จะผ่านอำเภอบันนังสตา และอำเภอธารโต เส้นทางนี้ จัดได้ว่าสวยงามมาก ผ่านเทือกเขาสลับซับซ้อน หนทางคดเคี้ยว เป็นที่ตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ รัฐบาลไทย และรัฐบาลมาเลเซีย เร่งความร่วมมือในการเปิดด่านแห่งใหม่ ซึ่งเปิดให้บริการมาแล้ว  ฝั่งประเทศไทย เรียกว่า ด่านบ้านประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ฝั่งประเทศมาเลเซีย เรียกว่า ด่าน ดุเรียน บุแรง (Durian Burung) ปัจจุบันด่านแห่งนี้ เป็นเส้นทางแห่งใหม่ ที่เปิดให้บริการทั้งคนไทยและต่างชาติ สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว หรือนักธุรกิจที่ต้องการเดินทางไปเบตง ด่านนี้มีความปลอดภัยสูง

โดยตลอดเส้นทาง เริ่มจากด่านบ้านประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ผ่านเข้ามาเลเซีย จะลัดเลาะผ่านสวนยาง สวนปาล์ม และจุดชมวิว ตลอดเส้นทาง ผ่านแนวทิวเขาลูกเล็ก ๆ ถนนเส้นนี้   (Durian Burung – Baling) เป็นถนนที่มาเลเซีย ก่อสร้างได้ไม่นาน ระยะทาง 208 กิโลเมตร จาก Durian Burung ไปเมือง Baling (บาริ่ง) ขับต่อไปอีก 35 กิโลเมตร ก็จะถึงด่านเบตง รวมแล้วเส้นทางใหม่ ที่ผ่านประเทศมาเลเซีย ระยะทาง 243 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ผ่าน 2 ด่านไทย 2 ด่านมาเลเซีย 2 รัฐ คือ  รัฐ KEDAH และ รัฐ PERAK ประเทศมาเลเซีย  ผู้คนไม่พลุกพล่านมาก ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนราธิวาส ได้ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน  ในธุรกิจท่องเที่ยว จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา ตลอดจนผู้ประกอบการด้านโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจท่องเที่ยว ผลักดันแผนการเปิดตลาดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่นี้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในเขตชายแดนภาคใต้ ผู้เขียนได้ใช้เส้นทางนี้ 4 ครั้ง แล้ว มีความปลอดภัย และถนนหนทางสบายดี (รถยนต์ใช้น้อยมาก)

“สุดสัปดาห์ที่เบตง” ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่คนเบตง เชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยทั่วประเทศ เดินทางกันมา จะว่าไปแล้ว ห้องพัก 2,000 กว่าห้อง เต็มทุกเทศกาล ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวเดินทางมาเบตง 2.2 แสนกว่าคน เกือบทั้งหมด เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ  ขณะที่นักท่องเที่ยวไทย ยังมีน้อยอยู่ เส้นทางใหม่นี้ มีแหล่งท่องเที่ยว ทั้ง สวนไม้ดอกเมืองหนาว, บ่อน้ำร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ, วัดพุทธาธิวาส ตั้งอยู่บนเนินเขา มีขนาดกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร ขนาดความสูงเท่าตึก 13 ชั้น

อุโมงค์ปิยมิตร เป็นอุโมงค์ที่อดีต โจรคอมมิวนิสต์ มลายา (จคม.) ได้ขุดขึ้นเพื่อใช้เป็นที่สะสมเสบียง หลบภัยทางอากาศ และเก็บยุทโธปกรณ์, อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์  อุโมงค์รถยนต์ ลอดภูเขา เป็นอุโมงค์แห่งแรกของประเทศไทย เปิดใช้ เมื่อ 1 มกราคม 2544 นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่ผู้มาเยือน อำเภอเบตง ต้องมาเยื่ยมชม ถ่ายภาพ, ตู้ไปรษณีย์เบตง ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อ ปี พ.ศ. 2467 นายสงวน จิรจินดา อดีตนายไปรษณีย์โทรเลข อำเภอเบตง และอดีตเทศมนตรี อำเภอเบตง ได้จัดสร้างตู้ไปรษณีย์ ณ บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ใจกลางเมือง เพื่อส่งเสริมการติดต่อกับบุคคลภายนอก โดยจดหมาย เนื่องจากเบตง ในสมัยนั้น การเดินทางมาค่อนข้างลำบาก

นกนางแอ่นเบตง เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเบตง เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – มีนาคม) ในยามเย็น ก่อนพระอาทิตย์จะสิ้นลับไป เมืองเบตงจะดำทะมึนไปหมด นกนางแอ่น จะเกาะตามสายไฟ สายโทรศัพท์ แน่นขนัด นอกจากนี้ ยังมีอาหารขึ้นชื่ออยู่หลายอย่าง ที่ใครได้มาเยือนแล้ว พลาดไม่ได้ เช่น ไก่เบตง, กบภูเขา, ปลาจีน, ส้มโชกุน, ผักน้ำ, หมี่เบตง, เฉาก๊วย เบตง, กาแฟเบตง, กล้วยหิน เป็นต้น

สุดสัปดาห์นี้ ที่เบตงนี้ ก็ขอเชิญชวนทุกท่าน มาทัศนศึกษา “ใต้สุดแดนสยามที่เบตง” กันนะครับ

อาจารย์นุกูล ชิ้นฟัก

คณะรัฐศาสตร์  มหาวิทยาลัยหาดใหญ่