18 มกราคม 2565 พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทย ประจำปี 2565 ในส่วนของกองทัพเรือ พื้นที่สัตหีบ ณ ลานสวนสนาม หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งจัดให้มีขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเพื่อให้ทหารใหม่ทุกนายกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลธงชัยเฉลิมพล อันถือเป็นเครื่องหมายแทนองค์พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นจอมทัพ ที่เสมือนหนึ่งเสด็จพระราชดำเนินมาประทับเป็นหลักชัยอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารทั้งปวง ทั้งยังเป็นเครื่องหมายของสามสถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ อันเป็นปัจจัยอันสำคัญของบ้านเมือง ที่ทหารจักต้องรักษาไว้เพื่อประโยชน์สุขแห่งประเทศชาติและประชาชน
โดยทหารใหม่ทุกนายจะต้องผ่านการเข้าร่วมพิธี จึงจะถือได้ว่าเป็นทหารอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน และพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ โดยยึดมั่นในอุดมการณ์ของทหารมืออาชีพ มีความรัก ความสามัคคี พร้อมอุทิศตนเพื่อปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์ของส่วนรวม เทิดทูน และจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไว้ยิ่งชีพ รวมทั้งยึดมั่นในการปฏิบัติตามคำสัตย์ปฏิญาณตนไว้อย่างมั่นคงตลอดไป โดยในพิธีดังกล่าว ได้อาราธนา พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ เจริญพระพุทธมนต์แก่กำลังพลที่เข้าร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้อ่านโอวาทของ พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เนื่องในวันกองทัพไทย ความว่า “วันกองทัพไทย วันแห่งเกียรติยศและความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ เป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงนำเหล่าทหารกล้ากระทำยุทธหัตถีจนมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา ทรงกอบกู้เอกราชและประกาศอิสรภาพให้คนไทยมีผืนแผ่นดินไทย นับว่าเป็นวีรกรรมอันสำคัญยิ่ง เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ฯ และเหล่าบรรพชนทหารกล้า ที่ยอมเสียสละชีวิตและเลือดเนื้อเป็นชาติพลี สืบต่อเนื่องมาจวบจนถึงทุกวันนี้
ขอให้เพื่อนทหารทุกนาย สำนึกและตระหนักในหน้าที่ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อพิทักษ์รักษาปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ธำรงไว้ซึ่งอธิปไตย และผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อความมั่นคงความสงบสุขของส่วนรวม ด้วยความเสียสละ อดทน สามัคคี ซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย ประพฤติตนอย่างมีเกียรติ เป็นทหารอาชีพ และขอให้ทหารทุกนายยึดมั่นและรักษาสัจวาจาที่ได้กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลอย่างเคร่งครัดตลอดชีวิตในฐานะทหารของชาติ”
วันกองทัพไทย จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชาของ เมียนมา เมื่อวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จุลศักราช 954 ด้วยพระปรีชาสามารถและความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของพระองค์สามารถเอาชนะข้าศึกด้วยพระองค์เองในขณะที่ตกอยู่ในวงล้อมของข้าศึกเพียงลำพัง ซึ่งเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยเดิมนั้นถือเอาวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกรมยุทธนาธิการเมื่อวันที่ 8 เมษายน เป็นวัน “กลาโหม” และต่อมาได้ถือว่าเป็น “วันกองทัพไทย”
ในปี 2523 คณะรัฐมนตรีในขณะนั้นมีมติให้ถือเอาวันที่ 25 มกราคม ของทุกปีเป็นวันกองทัพไทย โดยยึดเอาวันที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราช ต่อมาภายหลังได้มีนักประวัติศาสตร์หลายท่าน ตลอดจนราชบัณฑิตยสถานและคณะกรรมการเอกลักษณ์แห่งชาติได้ตรวจสอบความถูกต้องตามสุริยคติแล้ว พบว่าวันที่ทรงกระทำยุทธหัตถีนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้ตรงกับวันที่ 25 มกราคม แต่น่าจะตรงกับวันที่ 18 มกราคม ดังนั้น ในวันที่ 22 สิงหาคม 2549 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทย จากวันที่ 25 มกราคม ของทุกปีเป็นวันที่ 18 มกราคม ตราบจนปัจจุบัน
สำหรับในส่วนของกองทัพเรือ ได้จัดให้มีพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลและสวนสนาม ณ ลานอเนกประสงค์ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นประจำทุกปี โดยจัดกำลังพลจากหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือเข้าร่วมสวนสนาม แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ทำให้ในปีนี้ กองทัพเรือ ได้ปรับรูปแบบการจัดงานให้มีความเหมาะสมในรูปแบบ NEW NORMAL โดยลดขั้นตอนคือการสวนสนาม และจำนวนผู้ร่วมงานลง แต่ยังคงไว้ซึ่งพิธีการสำคัญ พร้อมทั้งแยกพื้นที่การจัดงานเพื่องดการเคลื่อนย้ายกำลังพล
โดยแยกพื้นที่การประกอบพิธีเป็นสองส่วน คือพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีทหารใหม่เข้าร่วมพิธีกระทำสัตย์ตน จำนวน 336 นาย แยกเป็น นายทหารสัญญาบัตร 35 นาย และ นายทหารประทวน 301 นาย โดยมี พลเรือเอก ภราดร พวงแก้ว ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ เป็นประธานในพิธี และในส่วนของพื้นที่สัตหีบ มีทหารใหม่เข้าร่วมพิธีกระทำสัตย์ตนจำนวน 236 นาย แยกเป็น นายทหารสัญญาบัตร 59 นาย และ นายทหารประทวน 177 นาย
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี