ท่ามกลางภัยจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ชาวโลกต้องตื่นตระหนกกับภัยพิบัติธรรมชาติที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา การปะทุของ “ภูเขาไฟใต้ทะเล” บนเกาะที่ชื่อ “ฮุงกา ตองกา–ฮุงกา ฮาอาปาย” ทำให้ประเทศตองกากลางมหาสมุทรแปซิฟิกถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่านภูเขาไฟ และได้รับความเสียหายอย่างหนัก การระเบิดนี้ยังก่อให้เกิด “สึนามิ” ความสูง 1.5-2 เมตร ซัดเข้าชายฝั่งตองกาและอีกหลายประเทศต่อมา
เสียงกึกก้องดังไกลไปถึงนิวซีแลนด์ที่อยู่ห่างออกไปกว่า 2,383 กิโลเมตร ในเวลาต่อมาไม่นาน คลื่นมวลอากาศนี้จึงเดินทางมาถึงน่านฟ้าประเทศไทยที่อยู่ห่างกว่า 1 หมื่นกิโลเมตร ซึ่งสามารถตรวจวัดได้โดยสถานีตรวจวัดสภาพท้องฟ้าของ NARIT หรือสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ เปรียบว่าการปะทุดังกล่าวมีความรุนแรงเท่ากับระเบิดฮิโรชิมา 1,000 ลูก ทั้งนี้ดาวเทียมสำรวจ GOES West ได้จับภาพวินาทีระเบิดของภูเขาไฟไว้ได้
รศ.ดร.ธีรพันธ์ อรธรรมรัตน์ อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ภูเขาไฟใต้น้ำเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติโลก พื้นที่บริเวณเกิดเหตุภูเขาไฟปะทุใต้ทะเล ประเทศตองกาในมหาสมุทรแปซิฟิก แถบนี้เป็นแนวบริเวณที่เรียกว่า “วงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire)” ยาวกว่า 40,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแนวมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกกันอยู่ ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว และมีภูเขาไฟใต้น้ำภายในวงแหวนไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เกิดเป็นเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกขึ้นมา
“เหตุการณ์ภูเขาไฟตองกาปะทุใต้ทะเลนี้ นับว่ารุนแรงสุดในรอบ 30 ปี นับจากการระเบิดของภูเขาไฟพินาตูโบเมื่อปี 2534 ทางด้านตะวันตกของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ โดยเป็นการปะทุขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากที่หลับใหลมานานกว่า 600 ปี คงจำกันได้ว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 800 คน และอีก 100,000 คน กลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย” รศ.ดร.ธีรพันธ์ กล่าว
สำหรับภูเขาไฟตองกาปะทุ ส่งผลให้ภูเขาไฟพ่นควัน เถ้าถ่าน แก๊สและไอน้ำสูงจนสามารถเห็นได้จากภาพถ่ายดาวเทียม และเกิดคลื่นยักษ์ที่พัดผ่านแนวชายฝั่งในเมืองนูกูอาโลฟาเมืองหลวง ทำให้น้ำท่วมถนนเลียบชายฝั่งบ้านเรือนเสียหาย และเกิดสึนามิเคลื่อนที่เข้าหาฝั่งของเกาะ Tongatapu ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดของประเทศตองกาศูนย์เตือนภัยสึนามิ ออกคำเตือนให้ระวังเกิดสึนามิซัดชายฝั่งหลายประเทศริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก
โดยเมื่อเวลา 11.27 น. (15 ม.ค 2565) ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดคลื่นสึนามิเคลื่อนตัวเข้าหาชายฝั่งหลายๆ ประเทศรอบมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีความสูงคลื่นประมาณ 0.1-1.2 เมตร เช่น ที่ฟิลิปปินส์ 0.20 เมตร ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และชิลี 1.0-1.2 เมตร แต่ไม่เกิดสึนามิที่ทุ่นที่ใกล้ชายฝั่งทะเลอันดามัน ประเทศไทย จึงขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล ไม่ต้องกังวล ส่วนจังหวัดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยก็ไม่มีผลกระทบเช่นกัน
รศ.ดร.ธีรพันธ์ กล่าวต่อไปว่า “สึนามิจากภูเขาไฟที่ปะทุใต้น้ำ หากเทียบกับสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหว มีความแตกต่างกัน” เนื่องจากหากเป็นแผ่นดินไหวเครื่องมือตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนจะสามารถประเมินขนาดแผ่นดินไหวและออกคำเตือนสึนามิได้ดีกว่า ซึ่งจะทราบได้ว่าเป็นแผ่นดินไหวขนาดเท่าไหร่ และมีโอกาสในการเกิดสึนามิได้หรือไม่ และหากเกิดภัยพิบัติสึนามิขึ้น จะสามารถระบุแนวชายฝั่งที่น่าจะถูกคลื่นสึนามิซัดเข้าชายฝั่งได้ดีกว่า และประกาศเตือนภัยได้ทัน
แต่สำหรับภูเขาไฟที่ปะทุใต้น้ำแล้วก่อให้เกิด สึนามิ นั้น มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย ไม่ได้เกิดบ่อย ทำให้การประเมินเตือนภัยสึนามิทำได้ยากและล่าช้ากว่าเพราะยังขาดข้อมูลแบบจำลองในการคาดการณ์ผลกระทบ ส่วนลักษณะของลาวาใต้ทะเล จะเหมือนกันกับภูเขาไฟระเบิดบนบก และจะมีแผ่นดินไหวขนาดเล็กร่วมด้วย และการไหลออกมาใหม่ของลาวาและการปะทุที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงน่าจะส่งผลให้ภูมิทัศน์โดยรอบเปลี่ยนไป
โดยล่าสุดมีรายงานจากภาพถ่ายดาวเทียมคาดว่า บางส่วนของเกาะฮุงกา ตองกา–ฮุงกา ฮาอาปาย ที่ตั้งภูเขาไฟนี้หายไป รวมถึงส่งรวมถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงด้วย เช่น ภูเขาไฟมีการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ เมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำและออกซิเจน จะเกิดเป็นฝนกรด การกัดเซาะชายฝั่ง แนวปะการังที่ถูกทำลาย เป็นต้น
“จากจุดเกิดเหตุ บริเวณที่คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ประเทศตองกา ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 60 กิโลเมตร อาจจะถูกปกคลุมด้วยเถ้าลาวา ทำให้การสื่อสารกับโลกภายนอกเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่งผลให้การช่วยเหลือจากต่างชาติเป็นไปอย่างล่าช้า แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว หลายประเทศเริ่มมีการยกเลิกการยกระดับการเตือนที่จะเกิดสึนามิออกแล้ว และอยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง แต่ยังไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่า จะเกิดเหตุการณ์อย่างไรต่อไป คาดว่าการปะทุของภูเขาไฟคงมีต่อเนื่องไปอีกสักช่วงเวลาหนึ่ง แต่คงไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่าจะรุนแรงกว่าเดิมหรือไม่” รศ.ดร.ธีรพันธ์ ระบุ
รศ.ดร.ธีรพันธ์ กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า หากเปรียบเทียบกับสึนามิที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรอันดามันในปี 2547 ที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศไทยโดยครั้งนั้นมีสาเหตุจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ใต้ทะเล หากเกิดขึ้นในปัจจุบันการส่งสัญญาณเตือนภัยสามารถทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน แต่สำหรับสึนามิที่เกิดจากภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดครั้งนี้ ทำให้การออกคำเตือนได้ยากกว่า ส่วนความสูงของคลื่นสึนามิจากภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดตองกามีระดับต่ำกว่าคลื่นสึนามิจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ใต้ทะเล
“ในอนาคตนานาประเทศควรจะศึกษาและทำฐานข้อมูลภูเขาไฟใต้ทะเลมากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ลดความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ” รศ.ดร.ธีรพันธ์ ฝากทิ้งท้าย
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี