วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
คุกเจ้าของร้านเพชร 3 ปี เบิกความเท็จปรักปรำพ่อค้าไก่ย่าง ตกเป็นเเพะหาว่าฉกเพชร

คุกเจ้าของร้านเพชร 3 ปี เบิกความเท็จปรักปรำพ่อค้าไก่ย่าง ตกเป็นเเพะหาว่าฉกเพชร

วันพฤหัสบดี ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2565, 14.08 น.
Tag : คุกเจ้าของร้านเพชร 3 ปี สาวเจ้าของร้านเพชร แพะรับบาป
  •  

ศาลอาญาธนบุรี สั่งจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา "สาวเจ้าของร้านเพชร"  เบิกความเท็จ ปรักปรำ ใส่ร้ายพ่อค้าข้าวเหนียวไก่ทอดเป็นโจรวิ่งราวเพชรมูลค่า 15 ล้าน เมื่อปี 59  ตกเป็นแพะรับบาป ถูกฟ้องติดคุกฟรี นอนเรือนจำนานกว่า 7 เดือน ยกฟ้องแม่บ้าน คดีจบ แล้วศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนยกฟ้อง ตามศาลชั้นต้น โจทก์ไม่ยื่นฎีกา

วันที่ 20 มกราคม 2565 ที่ศาลอาญาธนบุรี ถ.เอกชัย ศาลมีคำพิพากษา คดีเบิกความเท็จ หมายเลขดำ อ.1150/2562 ที่นายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ อาชีพพ่อค้าหมูปิ้ง ซึ่งเป็นอดีตจำเลยคดีวิ่งราวเพชรมูลค่า 15 ล้านบาท ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.บุญญรัตน์ รัศมีสุขานนท์ นายดีวัง กุมาร ชีวันทิลาล ซังกาวี และนางประยอม ตันสถาพร ร่วมกันเป็นจำเลยที่1- 4  ตามลำดับในความผิดฐานนำความเท็จฟ้องผู้อื่น ฯ และเบิกความเท็จต่อศา ตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 175, 177


สำหรับพฤติการณ์ดังกล่าวของจำเลยสรุปว่า เมื่อเดือน เม.ย.2560 พนักงานอัยการ ได้ยื่นฟ้อง นายพิสิษฐ์ โจทก์คดีนี้ เป็นจำเลยต่อศาลอาญาธนบุรี  ฐานวิ่งราวทรัพย์และหน่วงเหนี่ยวกักขัง 

จากกรณีมีคนร้ายคือนายแดง วิ่งราวทรัพย์แหวนเพชร 4 รายการ ของน.ส.บุญญรัตน์จำเลยที่ 1 ซึ่งประกอบอาชีพขายเพชรที่นำไปขายให้นายแดง ที่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านภาษีเจริญ โดยคนร้ายได้กักขังจำเลยที่ 1 ไว้ในบ้านแล้วได้หลบหนีไปพร้อมถาดแหวนเพชร 

ภายหลังเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจได้ส่งรูปบัตรประชาชนของโจทก์ที่เคยใช้สำหรับเปิดใช้มือถือ ให้จำเลยที่ 1 ดู แล้วยืนยันว่า ตัวโจทก์คือนายแดง คนวิ่งราวทรัพย์ และได้สอบสวนจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นแม่บ้านเป็นพยาน โดยเมื่อเดือน ก.ค.60 จำเลยที่ 1 ขอเข้าเป็นโจทกก์ร่วมคดีดังกล่าว และบริษัทจำเลยที่ 2 โดยจำเลยที่ 3 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 เข้าเป็นโจทก์ร่วมด้วย ซึ่งภายหลังจำเลยที่ 1 และที่ 4 ได้เข้าการเบิกความต่อศาลคดีดังกล่าว โดยเป็นการเบิกความเท็จ ปรักปรำให้โจทก์ต้องได้รับโทษทางอาญา

ในชั้นตรวจฟ้อง ศาลมีคำสั่งรับฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 และ 4  ข้อหาเบิกความเท็จ ตาม ป.อ.มาตรา 177  เท่านั้น ส่วนข้อหาอื่นให้ยก และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2-3  ซึ่งจำเลยที่ 1 และ 4 ให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า การที่จะเบิกความเท็จ ตาม ป.อ.มาตรา 177 ผู้กระทำจะต้องกระทำโดยเจตนาคือรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่นำมาเบิกความนั้นเป็นเท็จ โดยจำเลยที่ 1 เบิกความเป็นพยานในคดีดังกล่าวยืนยันว่า  ตัวโจทก์คือนายแดงซึ่งเป็นคนร้ายที่วิ่งราวทรัพย์ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า  โจทก์ไม่ใช่นายแดง คนร้ายในคดี

คำเบิกความดังกล่าวหากศาลฟังข้อเท็จจริงตามที่จำเลยที่ 1 เบิกความจะมีผลให้โจทก์ได้รับโทษ จึงเป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตาม มาตรา 177 วรรคสอง 

สำหรับจำเลยที่ 4 ไม่ปรากฏว่าเคยพบกับนายแดงมาก่อนเกิดเหตุ อีกทั้งในวันเกิดเหตุได้พบกับคนร้าย 2 ครั้งแต่ละครั้งใช้เวลาไม่นาน และเมื่อมีการวัดความสูงเปรียบเทียบโจทก์กับคนร้าย ภายหลังจำเลยที่ 4 จึงเบิกความใหม่ว่า โจทก์ไม่ใช่คนร้ายในคดี เมื่อไม่ปรากฏเหตุจูงใจที่จะทำให้เห็นได้จำเลยที่ 4 มีเจตนาเบิกความอันเป็นเท็จ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังมีข้อสงสัยตามสมควรว่า จำเลยที่ 4 กระทำผิดหรือไม่ ต้องยกประโยชน์แห่งข้อสงสัยให้ ตามประมวลกฎหมายวิธิจารณาความอาญา (ป.วิ.อ.) มาตรา 227 วรรคสอง

ศาลพิพากษาว่า น.ส.บุญญรัตน์ จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 177 วรรคสอง ฐานเบิกความเท็จ จำคุก 3 ปีโดยไม่รอลงอาญา และยกฟ้องจำเลยที่ 4 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีเพชรถูกโจรกรรม มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท เกิดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2559 ในบ้านแห่งหนึ่งเขตภาษีเจริญ กรุงเทพ และตำรวจติดตามไปจับกุมตัวนายพิสิษฐ์ ได้ที่บ้านเช่าในจ.นครพนม เมื่อวันที่ 16 ก.พ  2560 และถูกอัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลย และถูกขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรี ระหว่างการพิจารณาคดีนาน 7 เดือน 10 วัน  กระทั่งศาลอาญาธนบุรีพิพากษายกฟ้องนายพิสิษฐ์ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2560 และได้รับการปล่อยตัวสู่อิสรภาพ 

ต่อมาวันที่ 14 ก.พ. 2561 โจทก์ยื่นอุทธรณ์  กระทั่งวันที่ 14 ส.ค. 2561ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้องนายพิสิษฐ์ ตามศาลชั้นต้น  จากนั้นฝ่ายโจทก์ก็ไม่ได้ขอยื่นฎีกา คดีแพะชิงเพชรจึงถือเป็นที่สิ้นสุดในวันที่ 24 ธ.ค 2561 

ต่อมานายพิสิษฐ์ จึงได้นำเรื่องไปร้องเรียนหลายหน่วยงานเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และมายื่นฟ้องต่อศาลเป็นคดีนี้ด้วยตัวเอง โดยศาลอาญาธนบุรี พิพากษาลงโทษจำคุก น.ส.บุญญรัตน์ จำเลยที่ 1 ฐานเบิกความเท็จ เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่รอลงอาญาดังกล่าว
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'องค์กรสิทธิมนุษยชน\'ขอความช่วยเหลือ\'สภาทนายฯ\' กรณีหนุ่มเมียนมาเสียชีวิต 'องค์กรสิทธิมนุษยชน'ขอความช่วยเหลือ'สภาทนายฯ' กรณีหนุ่มเมียนมาเสียชีวิต
  •  

Breaking News

เปิดเทอมวันแรก! น้องๆปีนคอสะพานไปโรงเรียนทุลักทุเล

คนดังฮอลลีวูด 350 รายลงชื่อประณาม'ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์'ที่กาซา รับเทศกาลคานส์

ไม่จัดรถแห่!ผีฉลองปิ้งบาร์บีคิวหากซิวแชมป์ยูโรป้า

'บิ๊กอู๊ด'เยี่ยม ตชด.เหยื่อ สจ.ดังชื่นชมปฏิบัติหน้าเข้มแข็งไม่ใช้อาวุธ ลั่นกลุ่มอิทธิพลต้องหมดที่ยืน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved