ชาวปิล๊อกคี่ ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ เร่งต้อนฝูงวัว-ควายลงจากภูเขาหวั่นเป็นเหยื่อเสือโคร่ง หลังพบซากวัวถูกกินเป็นอาหารเหลือแต่โครงกระดูกและกะโหลก รวม 4 ตัว พบควายตัวขนาดใหญ่ถูกกัดที่ขา พร้อมรอยเล็บตะปบ วอนเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ

จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ตรวจยึดซากเสือโคร่ง จำนวน 2 ซาก น้ำหนัก 52.5 กิโลกรัม อาวุธปืนลูกซอง 5 นัด (ของทางราชการ) จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนยาว ขนาด .22 ติดลำกล้อง จำนวน 1 กระบอก อาวุธยาวไทยประดิษฐ์ (ปืนแก๊ป) จำนวน 2 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 50 นัด และปลอกกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 5 ปลอก เหตุเกิดที่บริเวณป่าห้วยปิล๊อก หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ และป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือก ระหว่างวันที่ 8-11 มกราคม 2565

ต่อมาวันที่ 13 ม.ค.65 ผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ประกอบด้วยนายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ อายุ 30 ปี นายศุภชัย ทรัพย์เจริญ อายุ 34 ปี นายจอแห่ง พนารักษ์ อายุ 38 ปี นายกูกือ ยินดี อายุ 37 ปี และนายโชเอ ไม่มีนามสกุล อายุ 66 ปี ชาวบ้านบ้านปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ศาลจังหวัดทองผาภูมิได้อนุญาตให้ผู้ต้องหาประกันออกไปคนละ 100,000 บาท จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวาดกลัวว่าเสือโคร่งจำทำร้ายวัวและความที่นำไปเลี้ยงเอาไว้ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เนื่องจากวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมามีวัวของชาวบ้านจำนวนหนึ่งถูกเสือโคร่งกัดและมีรอยเล็บตะปบทั้ง 2 ข้าง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุดวันนี้ (20 ม.ค.65) นายสมยศ ธารารักษ์ ชาวบ้านบ้านปิล๊อกคี่ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่มีอาชีพเลี้ยงวัวและควายหวาดกลัวเป็นอย่างมากเนื่องจากยังคงมีเสือโคร่งหลงเหลืออยู่ ก่อนหน้านี้พวกตนได้ขึ้นไปต้อนวัวกว่า 60 ตัวเอากลับมาเลี้ยงที่ป่าด้านล่างห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตรและพบว่ามีวัวของชาวบ้านถูกเสือกัดที่ขาหลังไปหลายตัว

วันต่อมาพวกตนขึ้นไปต้อนควายที่เลี้ยงเอาไว้ในป่าห่างจากหมู่บ้านประมาณ 20 กิโลเมตรระหว่างเดินทางตามหาฝูงควายปรากฏว่าพบซากวัวที่เสือล่าไปกินเหลือแต่โครงกระดูกและกะโหลกรวม 4 ตัว แต่ละตัวอยู่ห่างกันประมาณ 2-3 เมตร และนอกจากนี้ยังพบรอยเท้าเสือรวมทั้งขี้ของเสือกองอยู่โดยมีขนของวัวปะปนอยู่ด้วยโดยวัวทั้ง 4 ตัวคาดว่าเป็นของ 5 ชาวบ้านที่ถูกจับดำเนินคดี ซากวัวที่พบตนได้ใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปเอาไว้เพื่อมอบให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯใช้เป็นหลักฐาน

"เมื่อไปถึงฝูงความที่เลี้ยงอยู่ในป่าพบรอยเขี้ยวของเสือโคร่งกัดเข้าที่ขาหลังของควายเพศผู้ตัวขนาดใหญ่จำนวนหลายแผล ส่วนที่ลำตัวมีรอยเล็บตะปบเป็นทางยาวทั้ง 2 ข้าง ทุกคนจึงรีบต้อนฝูงควายลงมาด้านล่างเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบโดยไม่ต้องเสียเวลาไปติดตามหาและในระหว่างที่พวกผมกำลังต้อนควายข้ามลำห้วย ผลปรากฏพบรอยเท้าของเสือโคร่งสภาพใหม่อยู่ที่พื้นรวมทั้งโขดหินและที่สำคัญพวกผมได้ยินเสียงของเสือโคร่งร้องคำรามขู่จนทำให้พวกผมไม่กล้าเดินหรือวิ่งไปไหน ต้องรอจนกระทั่งเสียงหายเข้าไปในป่าลึก สำหรับความตัวที่ถูกเสือกัดนั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นบาท" นายสมยศ กล่าว

ด้านนายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านบ้านปิล๊อกคี่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมาชาวบ้านจำนวน 6 คนได้ไปช่วยกันต้อนควายที่เลี้ยงเอาไว้ในป่ากว่า 60 ตัวเพื่อเอามาไว้ด้านล่าง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร โดยก่อนหน้านี้ชาวบานได้ไปต้อนวัวกลับมาก่อนแล้วกว่า 40 ตัว ซึ่งชาวบ้านจะจัดเวรยามผลัดกันดูแล เพราะเกรงว่าเสือโคร่งจะตามลงมากินเป็นอาหาร

"หลังจากที่ผมได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าวัวและความถูกเสือโคร่งกัด ผมได้รีบรายงานนายนภเดช เกลียวศิริกุล นายอำเภอทองผาภูมิ ทราบแล้ว หลังจากทราบนายอำเภอทองผาภูมิจึงรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือหาทางป้องกัน เพราะชาวบ้านเกรงว่าเสือโคร่งอาจจะออกมาจากป่าเพื่อมากินวัวและควายเป็นอาหารก็เป็นไปได้" นายประสาท กล่าว- 003