ปปป.ทลายขบวนการ
ยี่ปั๊วปั่นราคาสลากฯ
บุกค้นไปรษณีย์ที่เลย
ยึด2แสนใบตรวจสอบ
ตำรวจ ปปป.ค้นไปรษณีย์ที่ จ.เลยทลายยี่ปั๊วรับซื้อสลากฯ ปั่นราคาขายยึดกว่า 2 แสนใบ มูลค่า 20 ล้านด้านรอง ผอ.สลากฯยันแค่สอบที่มาโควตาก่อนส่งคืน ด้านผู้ค้าร้องขอความเป็นธรรม หวั่นถูกตัดสิทธิ
เมื่อวันที่ 21 มกราคม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.กมอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.พ.ต.อ.อัครเดช เกตุเอี่ยม ผกก.4บก.ปคม.รักษาราชการแทน ผกก.3บก.ปปป.พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ ผกก.1บก.ปปป.พ.ต.อ.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ ผกก.(สอบสวน) บก.ปปป.นำกำลังร่วมกับนายทวีป วุฒิบาทุกาจิตต์ รอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าตรวจค้นที่ทำการไปรษณีย์เอราวัณ อ.เอราวัณ จ.เลย และปั๊มน้ำมันบางจาก สาขาเอราวัณ จ.เลย ภายหลังได้รับแจ้งว่า มียี่ปั๊วรับซื้อสลากฯ จากผู้ที่มีโควตาจากสำนักงานสลากฯ เพื่อนำไปรวมขายเป็นหวยชุดจำนวนมาก
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีมีผู้ค้าสลากฯ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ นำสลากฯ ที่ได้รับจัดสรรโควต้าฯ มารวมชุดหรือปั่นราคาขาย ทำให้สลากฯ มีราคาสูงขึ้น สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ซื้อสลากฯ จึงประสานกับทางสำนักงานสลากฯ ร่วมสืบหาข่าวนานกว่า 2 เดือน ก่อนจะวางแผนเข้าตรวจค้นที่ทำการไปรษณีย์เอราวัณ ใน จ.เลย โดยสามารถยึดสลากฯ ได้กว่า 400 เล่ม หรือกว่า 200,000 ใบ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
ผบก.ปปป.กล่าวต่อว่า ตามแนวทางการสืบสวนพบกลุ่มบุคคลที่ไปรับสลากฯ จากพนักงาน ไปรษณีย์เอราวัณ โดยไม่ผ่านระเบียบขั้นตอนที่ถูกต้อง ก่อนจะนำสลากจำนวนหนึ่งใส่ถุงผ้าของไปรษณีย์ ขนออกทางด้านหลังที่ทำการ แล้วขนขึ้นรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน นข 3536 เลย ซึ่งจอดรอ โดยทุกขั้นตอน ทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอด จากนั้นจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น โดยพบตัวนายเอก (นามสมมติ) อายุ 32 ปี คนขับรถ และ น.ส.ปุ๋ย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี นั่งมาในรถด้วย ซึ่งภายในรถพบสลากฯ พร้อมกับกล่องไปรษณีย์กว่า 200 กล่อง แต่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ
นอกจากนี้กำลังเจ้าหน้าที่อีกชุด ได้เข้าตรวจค้นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร สีบรอนซ์ ทะเบียน ขล 5821 ขอนแก่น ที่จอดอยู่ในปั๊มน้ำมันบางจาก สาขาเอราวัณ โดยมีนางก้อย (นามสมมติ) อายุ 43 ปี เป็นคนขับ และจากการตรวจสอบในรถ พบกล่องไปรษณีย์บรรจุสลากฯ 65 กล่อง ใส่ไว้ในถุงผ้าไปรษณีย์ กองรวมกัน เบื้องต้นนางก้อย อ้างว่าไม่ใช่เจ้าของสลากฯ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวพร้อมด้วยสลากฯ ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.วังสะพุง จ.เลย รับไว้ตรวจสอบอย่างละเอียด และลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ด้านนายทวีป เปิดเผยว่าที่ผ่านมา สำนักงานสลากฯได้รับร้องเรียนเรื่องสลากฯมีราคาแพงซึ่งมีสาเหตุจากการนำไปขายต่อผ่านยี่ปั๊วจึงเร่งตรวจสอบและปิดช่องโหว่ กระทั่งมีการประสานการทำงานร่วมกับตำรวจ บก.ปปป.เข้าจับกุมในครั้งนี้ซึ่งจะนำสลากฯ มาตรวจสอบว่าเป็นของผู้จองรายใด เป็นโควต้าของใคร เมื่อได้ข้อมูลแล้วก็จะคืนสลากฯ กับผู้ประกอบการ ไม่ได้ยึดไว้ เพียงแต่นำมาตรวจสอบข้อมูลเท่านั้น แต่มีสัญญาว่าผู้ที่รับจองสลากฯ จะต้องเป็นผู้ที่นำไปจำหน่ายเอง
ขณะที่นายสมบัติ(สงวนนามสกุล)หนึ่งในผู้รับโควตาจากสำนักงานสลากฯ และถูกเจ้าหน้าที่ยึดสลากฯไว้ตรวจสอบ ระบุว่ามีอาชีพขายสลากฯซึ่งตนได้โควต้า 5เล่ม ญาติพี่น้องก็เช่นกัน ปกติทุกงวดจะรับที่หน้าไปรษณีย์เอราวัณ นำไปขายในต่างจังหวัด แต่ช่วงนี้หลายคนซึ่งมีอาชีพทำเกษตรและรับจ้างตัดอ้อย ต้องไปตัดอ้อยในไร่ จึงไม่มีเวลารับสลากฯ ไปขาย จึงยอมนำโควตาสลากฯ ไปขายให้ยี่ปั้วแต่กลับมาถูกยึดสลากฯ ไปหมด จึงอยากร้องขอความเป็นธรรม หากจะตัดโควต้าของใคร ควรตรวจสอบข้อเท็จจริง และความจำเป็น ก่อนจะพิจารณาตัดโควต้าสลากฯเพราะบางครั้งมันมีความจำเป็น
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการค้าสลากฯ ในตลาดขายส่งใน อ.วังสะพุง ว่า บรรดายี่ปั๊วหรือผู้ขายส่งมีจำนวนน้อย ส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด หรือ กทม.โดยยังรอดูท่าทีของเจ้าหน้าที่ เพราะเกรงว่าจะมีการตรวจและยึดสลากฯ ขณะที่ผู้มาซื้อสลากฯ หรือผู้ค้าสลากฯ รายย่อย ก็มาซื้อกันน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีอาชีพรับจ้างตัดอ้อย ต้องรีบเร่งตัดอ้อยส่งโรงงานในช่วงเวลานี้ จึงไม่ได้ไปค้าสลากฯ สำหรับราคาสลากฯ ขายส่งอยู่ที่ใบละ 96 บาท หวยเล่มใบเดียว 94.50 บาท หวยชุด 2
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี