หนุ่มตกงานตายคาโรงงานร้าง ถูกแทงศีรษะ ตำรวจยังไม่พบอาวุธที่ทำร้าย ลูกเมียร่ำให้ ญาติเผยผู้ตายหายไป1คืนบอกไปเก็บผัก จนมาพบเป็นศพ เชื่อถูกฆาตรกรรม

วันที่ 22 มกราคม 2565 เวลา 10.00 น. ร.ต.ท.บุรินทร์ ชนะ ร้อยเวร สอบสวน สภ.นิคมพัฒนา ระยอง ได้รับแจ้งว่าพบศพผู้ชายถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในโรงงานร้าง ซอย12 ต.พนานิคม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ประสานแพทย์เวร รพ.นิคมพัฒนา พร้อมด้วยกำลังตำรวจ และ หน่วยกู้ภัย เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ที่ถูกปล่อยร้างมาหลายปี สภาพมีร่องรอยถูกงัดเหล็กและแผ่นเมทัลชีสล้มระเนระนาดมากองกับพื้นจำนวนมาก มีเครื่องจักรเก่าวางอยู่สภาพไม่ได้ใช้งานมานานจึงเข้าไปตรวจสอบ บริเวณหน้าโรงงานพบศพผู้ชาย นอนหงายเสียชีวิต สภาพศพใส่เสื้อกีฬาลายดำแดง กางเกงขายาวสีเทา สวมถุงมือ และ รองเท้าผ้าใบสีดำ 

ตรวจสอบพบบาดแผล เป็นรอยสามเหลี่ยมตรงหน้าผากด้านขวาเป็นรูขนาดใหญ่เลือดแห้งเกอะกรังเต็มใบหน้าและที่พื้น คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชม.เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบโดยรอบไม่พบอาวุธ หรือ ร่องรอยเหล็กที่ทำให้เกิดบาดแผล ทางแพทย์ตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนจะนำศพส่ง รพ.นิคมพัฒนา หาสาเหตุการเสียชีวิต

จากการสอบถาม น.ส.ผ่องพรรณ อายุ 43 ปี  ภรรยา ผู้เสียชีวิต ที่เดินทางมาที่เกิดเหตุพร้อมด้วยบุตรสาว ให้การทั้งน้ำตา ว่า ผู้เสียชีวิตชื่อ  นายหนูสิน  อายุ 41 ปี บ้านเดิมอยู่จ.อุบลราชธานี ได้หายตัวไปตั้งแต่ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.65 โดยบอกกับลูกสาวว่าจะไปเก็บผัก ก่อนจะหายตัวไปจนพบเป็นศพ สำหรับผู้เสียชีวิต ปัจจุบันตกงานอยู่ จึงอยู่บ้านกับบุตร 3 คน และ มักจะออกไปหาเก็บผักมาเป็นอาหาร ซึ่งจะทำเป็นประจำ เชื่อว่าถูกทำร้ายจนตาย วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามตับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

สอบถามนายสำราญ  อายุ 47 ปี ผู้พบศพ บอกว่า เมื่อช่วงเช้าภรรยาของผู้ตายมาแจ้งให้ช่วยติดตามสามีที่หายไป ตนจึงออกติดตามไปที่โกดังร้างเพราะจำได้ว่าผู้ตายเคยเข้าไปเก็บผักกูด พอเข้าไปก็พบร่างผู้ตายนอนตะแคงจึงรีบวิ่งกลับไปบอก ภรรยาผู้ตายให้รีบมาดู

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมหาหลักฐานในจุดเกิดเหตุและใกล้เคียงเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต  เบืัองต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิต คงต้องรอผลตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดจากแพทย์ก่อน และ หลักฐานในจุดเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

สำหรับโรงงานแห่งนี้ได้ถูกปล่อยร้างมาหลายปีแล้ว และ มักจะมีผู้ที่เข้ามาเอาเศษเหล็ก และ ทรัพย์สินภายในโรงงานไปขาย อย่างที่เห็นในภาพ มีผนังที่เป็นแผ่นเมทัลชีสถูกรื้อจนพังลงมาหลายจุด รวมถึงภายในตัวโรงงานถูกรื้อกระจัดกระจาย