ชาวบ้านบางระกำ จ.พิษณุโลก กว่า 200 คน รวมตัวเคลื่อนขบวนรถอีแต็กบุก สภ.บางระกำ ร้องเรียนการตั้งด่านตรวจบริเวณบ้านวังเป็ด กระทบเส้นทางทำกินของเกษตรกร ทั้งจับกุม-ตรวจเข้มเกินเหตุ ล่าสุด ผกก.สภ.บางระกำ เปิดประชุมรับฟังปัญหา พร้อมรับปากทบทวนแนวทางและขยับจุดตั้งด่านใหม่ หวังลดผลกระทบต่อชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 บรรยากาศที่บริเวณหน้า สถานีตำรวจภูธรบางระกำ เต็มไปด้วยความคึกคัก เมื่อกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก กว่า 200 คน รวมตัวกันโดยใช้รถอีแต็กและรถยนต์หลากหลายประเภท เดินทางมาชุมนุมและยื่นหนังสือร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเรียกร้องให้ทบทวนมาตรการตั้งด่านตรวจจราจรบริเวณบ้านวังเป็ด หลังได้รับผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวในการสัญจรไปทำนา-ทำไร่ และขนส่งผลผลิตทางการเกษตร
นายนิรุต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ซึ่งเป็นแกนนำของกลุ่มเกษตรกร กล่าวว่า ชาวบ้านไม่ได้คัดค้านการตั้งด่านโดยสิ้นเชิง แต่ต้องการให้การดำเนินการของตำรวจมีความเหมาะสม ไม่เคร่งครัดหรือจับกุมในลักษณะที่เกินกว่าเหตุ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางหลักของชุมชน หากมีการตั้งด่านในช่วงเช้าหรือเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเร่งรีบในการไปทำงานหรือส่งผลผลิต จะส่งผลให้ชาวบ้านเสียเวลา บางรายถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนกฎจราจร ทั้งที่เจตนาเพียงแค่จะประกอบอาชีพเลี้ยงชีพตามปกติ
หลังการชุมนุมไม่นาน พ.ต.อ.สมเกษม จารักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางระกำ ได้เชิญตัวแทนชาวบ้านเข้าร่วมประชุมหารือภายในสถานีตำรวจ โดยมีการรับฟังข้อเสนอและความเดือดร้อนจากกลุ่มเกษตรกรอย่างเปิดอก ซึ่งเบื้องต้น ผกก.ให้คำมั่นว่าจะนำข้อมูลที่ได้รับไปพิจารณาอย่างรอบคอบ พร้อมเสนอการตั้งด่านให้กับผู้บังคับบัญชาทราบตามขั้นตอน โดยพร้อมทบทวนแนวทางการตั้งด่านตรวจให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ อาจมีการขยับจุดตรวจให้ห่างจากเส้นทางหลักของหมู่บ้าน และสลับจุดตรวจทุกวันจันทร์ และ วันพฤหัสบดี ไปที่จุดตรวจบ้านบ่อทอง ซึ่งเป็นถนนเส้นเดียวกัน และจะมีมาตรการที่ลดผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในชุมชน เน้นการดูแลความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ
การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความพอใจในท่าทีของเจ้าหน้าที่ และยุติการรวมตัวในเวลาประมาณ 11.40 น. อย่างไรก็ตาม ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรระบุว่า จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องเคลื่อนไหวเพิ่มเติม เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านในพื้นที่
สถานการณ์ในครั้งนี้ สะท้อนความขัดแย้งระหว่างการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนจำเป็นต้องหาจุดสมดุลร่วมกัน เพื่อให้การรักษากฎหมายเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และไม่ทำลายโครงสร้างการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชนบท ///-026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี