รวบหนุ่มลอบขนยาบ้า
ยึดของกลาง1ล้านเม็ด
สารภาพทำมาหลายครั้ง
อีกรายจับกัญชา1ตัน
สืบฯ บช.น.จับหนุ่มใหญ่กับพวกใช้รถหกล้อขนข้าวโพด ลักลอบขนยาบ้าข้ามแดน ส่งเข้ากรุงยึดของกลาง 1 ล้านเม็ด รับทำมาแล้ว 5-6 ครั้ง ได้ค่าจ้าง4.5 แสนบาท อีกรายทหารยึดกัญชา 1 ตัน ขนข้ามโขง
เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ธนศุภณัฏฐ์ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.พร้อมคณะ แถลงจับกุมนายวิเศษ แกมนิวัตน์ อายุ 48 ปี นายสุพล พานนนท์ อายุ 53 ปี และนายอดุลย์ แสนบุตร์ อายุ 41 ปี ชาว จ.เชียงราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 1,000,000 เม็ดรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน 71-0015 เชียงรายรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีดำ ทะเบียน ขข7610 เชียงราย โดยจับกุมได้ภายในปั๊มน้ำมันพีที พื้นที่ ต.โคกเดื่อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวเนื่องจากก่อนหน้านี้ชุดสืบสวน กก.สส.2 บก.สส.บช.น.ได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ได้หลายคดีในเขต กทม.ก่อนจะเร่งสืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีกลุ่มลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดมาในพื้นที่ จ.เชียงรายมีพฤติกรรมลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยใช้รถหลายคัน ทั้งรถบรรทุกหกล้อ และรถกระบะ ก่อนจะนำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าใน กทม.และ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยใช้เส้นทางผ่านมาทาง อ.ไพศาลี อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ซึ่งชุดสืบสวนได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์และความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด กระทั่งพบว่ารถบรรทุกหกล้อ และรถกระบะดังกล่าว ได้ทำช่องลับต่อเติมไว้ด้านข้างใต้กระบะรถใช้ซุกซ่อนยาเสพติด
ต่อมารถได้เคลื่อนตัวผ่าน จ.เชียงราย มุ่งหน้าไปยัง จ.แพร่ จึงเชื่อว่าน่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้าอีก ซึ่งกลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าวจะทำเช่นนี้อยู่เป็นประจำ จึงนำกำลังเฝ้าติดตามและสังเกตุการณ์จนถึงพื้นที่ อ.ไพศาลี และพื้นที่ใกล้เคียง จนพบรถทั้งสองคันแวะเข้าเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันพีที แยก อ.ไพศาลี ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อเข้าตรวจค้นจับกุม ก่อนจะพบของกลางยาบ้าดังกล่าว
สอบสวนนายวิเศษ รับสารภาพว่า ก่อเหตุจริงโดยใช้รถบรรทุกหกล้อที่เป็นของตนเอง ซึ่งปกติใช้ขนส่งข้าวโพดหวาน ข้ามชายแดน กระทั่งมีผู้ชักชวนให้ขนยาบ้า จึงรับขนมาได้ประมาณ 5-6 ครั้ง ภายใน 2 ปี โดยครั้งที่แล้วได้เงินค่าจ้าง 450,000 บาท ส่วนครั้งนี้จะได้เงิน 300,000 บาท แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ขณะที่ลูกน้อง 2 คน เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ร่วมกันลอบขนยาบ้ามาแล้ว 2 ครั้ง โดยจะทำหน้าที่ขับรถนำ ได้เงินค่าจ้าง 30,000 บาท อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบประวัตินายวิเศษ พบว่าเคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐานครอบครองยาเสพติดเพื่อเสพ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมายนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลจับกุมต่อไป
วันเดียวกัน พ.อ.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กรมทหารราบที่ 3บูรณาการด้านการข่าว จนทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่บ้านป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงจัดกำลังร่วมกับกองร้อยสกัดกั้นฯ ออกลาดตระเวนและซุ่มรอในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว จนช่วงเวลาประมาณ 01.45 น.จึงพบเรือกีบล่องมาตามลำน้ำโขงใกล้รีสอร์ทพื้นที่บ้านป่งขาม ก่อนเทียบท่า โดยมีชายฉกรรจ์ 6-7 คน ขนกระสอบสีดำจากเรือขึ้นบนฝั่งพักรอรถที่จะมารับ ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้กระโดดน้ำหลบหนีไป
ส่วนการตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบกระสอบสีดำวางกระจัดกระจาย รวม 23 กระสอบ ภายในพบกัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม จึงนำของกลางทั้งหมดมายังหมวด QRF ที่ 1 บ้านบางทรายน้อย ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ก่อนเร่งจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี