รมว.ดีอีเอสลุยแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ เตรียมผนึกกำลัง ปปง. ตำรวจ ส.ธนาคารไทย แบงก์ชาติ ใช้มาตรการเข้มสกัดบัญชีม้า เล็งยกระดับความผิดเทียบเท่าพฤติกรรมฟอกเงิน ตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมกับ สตช.ปลดล็อคความล่าช้าในกระบวนการอายัด
12 ก.พ.65 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ครั้งที่ 1/2565 ได้มีการพิจารณาวาระสำคัญ 2 เรื่องหลัก ได้แก่
1.แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายในการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ และ 2.การแจ้งเตือนประชาชนก่อนโอนเงินและมาตรการแก้ปัญหาบัญชีม้า ตามแนวทางที่สมาคมธนาคารไทยและธนาคารแห่งประเทศไทย นำเสนอต่อที่ประชุม
โดยในส่วนของแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ฉบับที่ ...) พ.ศ. ...
กำหนดให้พฤติการณ์การเปิดบัญชีม้าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว โดยระบุไว้ในร่างมาตรา 50 เพิ่มเติมมาตรา 61/3 ว่า ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ โดยรู้อยู่แล้ว หรือมีเหตุอันควรรู้ว่าการกระทำดังกล่าวจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดมูลฐานหรือความผิด ฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับได้แก่ 1.ใช้ชื่อ บัญชี ข้อมูล เอกสาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซิมการ์ดโทรศัพท์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือหลักฐานของบุคคลอื่น เพื่อปกปิดตัวตนในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ หรือทำธุรกรรมกับผู้มีหน้าที่รายงานหรือสำนักงานที่ดิน
2.ยอมให้บุคคลอื่นใช้ชื่อ บัญชี ข้อมูล เอกสาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซิมการ์ดโทรศัพท์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือหลักฐานของตนเพื่อให้บุคคลอื่นปกปิดตัวตนในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือทำธุรกรรมกับผู้มีหน้าที่รายงานหรือสำนักงานที่ดิน
3.เป็นธุระจัดหา รวบรวม ซื้อ ขาย จำหน่ายบัญชี ข้อมูล เอกสาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซิมการ์ดโทรศัพท์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือหลักฐานของบุคคลอื่น เพื่อให้บุคคลใดๆ นำไปใช้เพื่อปกปิดตัวตนในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือทำธุรกรรมกับผู้มีหน้าที่รายงานหรือสำนักงานที่ดิน”
นอกจากนี้ ยังพิจารณาแนวทางร่วมอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับปัญหาด้านนี้ ได้แก่ การตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการอายัดโดยเฉพาะ การจัดตั้งทีมเฉพาะกิจในการปฏิบัติงานในเรื่องนี้โดยเฉพาะ (สายตรวจไซเบอร์) การประสานงานระหว่างประเทศในการขอข้อมูล IP Address และข้อมูลผู้กระทำความผิด รวมทั้งการพิจารณาจัดทำบันทึก MOU หรือตั้งคณะทำงานร่วมประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับการบูรณาการทำงานในเรื่องการแจ้งเตือนประชาชนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ทางสมาคมธนาคารไทย และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เตรียมแนวทางการแจ้งเตือนประชาชนก่อนโอนเงินและมาตรการแก้ปัญหาบัญชีม้า ให้พนักงานสาขาที่รับเปิดบัญชีระมัดระวังมากขึ้น
ขณะที่ ธปท. ได้มีการดำเนินการให้แจ้งเตือนถึงภัยการเงินต่างๆ โดยเฉพาะปัจจุบันการหลอกให้เปิดบัญชีเงินฝากมีจำนวนมากขึ้น เพื่อนำบัญชีมาเป็นทางผ่านของการรับโอนเงินระหว่างเหยื่อและมิจฉาชีพ รวมถึงกระบวนการส่งข้อมูลเพื่อแจ้งอายัดบัญชี โดยปกติ ธปท. สามารถทำการอายัดบัญชีได้ภายใน 1 ชั่วโมง นับแต่ได้รับหมายแจ้งคำสั่งศาล จนถึงการติดตามธุรกรรม รวมทั้งการส่งข้อมูลข้ามองค์กร และ 4.ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. โทร.1213 รับแจ้งให้คำปรึกษา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี