คืบหน้าตำรวจ ปปป.เปิดฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี” ทุจริตเงินทอนวัดเฟด 4 นำกำลังเข้าตรวจค้นวัดเขาทุเรียน ในจังหวัดนครนายก หลังพบเจ้าอาวาสวัด เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบประมาณบูรณะปฎิสังขรณ์และพัฒนาวัดของสำนักงานพระพุทธศาสนากว่า 100 ล้านบาท เผยเจอเหล้า-ถุงยางในกุฎิ อ้างเป็นของลูกศิษย์นำมาฝากไว้
18 ก.พ.65 ความคืบหน้ากรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตัวแทนเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี ทุจริตเงินทอนวัด เฟส 4 " โดยตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 จุด กทม. จ.นครนายก และจ.นนทบุรี ในคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัด ของสำนักพุทธศาสนา เมื่อปี 2554-2559
โดยในจังหวัดนครนายกได้นำหมายค้น เข้าตรวจสอบวัดเขาทุเรียน ในพื้นที่ตำบลเขาพระ อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก หลังพบว่า พระสิทธิวรนายก หรือเจ้า คุณแจ๊ค ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัด และเป็นรองเจ้าคณะจังหวัด เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบบรูณะปฎิสังขรณ์และพัฒนาวัด ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จำนวนกว่า 110 ล้านบาท จากวัดทั้งหมด 12 แห่ง ในพื้นที่ จังหวัดนครนายก และปราจีนบุรี และได้ร่วมกับอดีตผอ.สำนักพุทธ ดำเนินการทัจริตงบฯ ตั้งแต่ปี 2554 – 2559นั้น
ล่าสุด จากการสอบปากคำ พระสิทธิวรนายก หรือเจ้าคุณแจ๊ค ให้การปฎิเสธว่าเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด แต่ตำรวจยืนยันมีหลักฐาน จากพยาน ที่พบว่า เจ้าอาวาสและนายนพรัตน์ มีความเชื่อมโยง โดยได้นำเงินที่ได้จากการทุจริต ร่วมกันซื้อที่ดินกว่า 10 ไร่ มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท ในจังหวัดนครนายกและยังพบว่านำเงินที่ทุจริตไปซื้อทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ โดยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิแทนในลักษณะอำพรางปกปิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดอาญาฐานฟอกเงินร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า สำหรับการสอบปากคำเจ้าอาวาสวัดต่างๆ 11 วัด นั้นเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน ซึ่งทั้งหมดให้การค่อนข้างเป็นประโยชน์และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ ให้การซัดทอดว่า พระสิทธิวรนายก เป็นผู้ให้ถอนเงินบูรณะซ่อมแซมวัด ที่ได้รับจากทางสำนักพุทธศาสนา ออกมาเป็นเงินสด แล้วนำกลับมาให้พระสิทธิวรนายก ก่อนจะแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนคืนกลับมาให้กับทางวัด โดยอ้างว่าจะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปมอบให้สํานักพุทธเพื่อนําไปบริจาคให้กับวัดอื่นๆที่ยังขาดแคลนงบประมาณ
ขณะที่พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบว่า มีเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ร่วมกับฝ่ายพระสงฆ์ จำนวน 3 คน ซึ่งคือนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผอ.สำนักพุทธ และนางพัทธานนัท์ ซึ่งเป็นภรรยา และ ลูกอดีตภรรยา ขณะนี้ทั้ง 3 คน อยู่ระหว่างหลบหนี อยู่ที่ประเทศอเมริกาตำรวจอยู่ระหว่างประสานให้อัยการสูงสุด ขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อกลับมาดำเนินในไทย
ส่วนเจ้าคุณแจ๊ค ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหา คือข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์เป็นของตนเอง และฟอกเงิน แต่พระสิทธิวรนายก เนื่องจากพระสิทธิวรนายก ได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ คือรองเจ้าคณะจังหวัด ในการรวบรวมงบประมาณ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทางวัด 12 แห่ง และไม่ได้จ่ายครบตามที่ยื่นขอไป ส่วนเจ้าอาวาสอีก 11 รูป ที่นิมนต์มาสอบปากคำในฐานะพยาน ยังไม่ถูกแจ้งข้อหา เนื่องจากยังไม่พบความเชื่อมโยงในการทุจริต (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เขย่าวงการผ้าเหลือง!จับ‘เจ้าคุณแจ๊ค’-สอบ11เจ้าอาวาส ส่อโยงคดี‘เงินทอนวัด’)
นอกจากนี้ การตรวจค้นพบว่าภายในกุฏิเจ้าคุณแจ๊ค ยังพบเครื่องดื่มแอลกอฮอร์แช่อยู่ในตู้เย็น และถุงยางอนามัยอีกจำนวนหนึ่งในตู้ใส่ของข้างหัวเตียงซึ่งมีพระพุทธรูปประดิษฐ์ฐานอยู่ เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ตรวจสอบ โดยมีการอ้างว่า เป็นของกลุ่มลูกศิษย์นำมาฝากไว้
ข่าวแจ้งว่า ภายหลังพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เชิญตัว พระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ๊ค รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน มามำการสอบปากคำพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้นแล้วนั้น ก็ได้ทำการปล่อยตัวกลับไป โดยจะนัดหมายมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งในภายหลัง
คดีนี้สืบเนื่องจากที่ บก.ปปป.ได้รับเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ พระสิทธิวรนายก (ประเชิญ เมืองเกษม) เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน (ตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก) ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก กับพวกที่เกี่ยวข้อง โดยเหตุเกิดในห้วงปี 2554-2559 นายนพรัตน์ฯ (สงวนนามสกุล) อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กับพวก ได้ร่วมกับ พระสิทธิวรนายก ทุจริตเงินอุดหนุน ที่ได้รับอนุมัติให้วัดต่างๆในพื้นที่ จ.นครนายก 12 วัด รวมงบประมาณ 123 ล้านบาท โดยให้เจ้าอาวาสแต่ละวัดที่ได้รับเงินอุดหนุน ถอนเงินสดออกมาทั้งหมดแล้วนำไปให้เจ้าอาวาสวัดทุเรียน
จากนั้นเจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียนจะแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนให้วัดต่างๆ คืนไป โดยอ้างว่าจะต้องเอาเงินส่วนนี้ไปมอบให้สำนักพุทธเพื่อนำไปบริจาคให้กับวัดอื่นๆที่ยังขาดแคลนงบประมาณ รวมเงินที่เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียนรวบรวมมาได้ กว่า 110 ล้านบาท แล้วนำไปแบ่งกับ นายนพรัตน์ อดีต ผอ.ฯ และบางส่วนได้นำไปซื้อที่ดิน ซึ่งเป็นการกระทำที่ทุจริต ผิดระเบียบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี