เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดนไทยมาเลเซียสกัดจับรถกระบะขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาเต็มรถ 8 คนส่งข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย และจับกุมผู้นำพาผัวเมียชาวไทย 2 คนกอดคอกันร้องให้เมียกำลังตั้งท้องแก่ 7 เดือน ส่วนผัวยังพบไอซ์และยาบ้าทรุดเข่าร่ำให้ขอร้องไม่ให้จับกุม เผยขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติเริ่มกลับมาอีกครั้งช่วง 3เดือนแรกของปีนี้จับกุมได้แล้ว 5 ครั้งแรงงานเถื่อนเมียนมาเกือบ 100 คน
เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้(4 มี.ค.65) พ.อ.ธนิตพนธ์ หงส์วิไล ผบ.ฉก.ร.5 นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก สภ.สะเดา พร้อมกำลังทหารกองกำลังเทพสตรีโดยหน่วยเฉพาะกิจกรมราบที่ 5 ร้อย ร.5021 ร่วมกับชุดเฝ้า 4304 ร้อย ตชด.437 ตำรวจ สภ.สะเดาและฝ่ายปกครองอำเภอสะเดา
สกัดจับรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ ตอนครึ่ง สีขาว หมายเลขทะเบียน บล 4908 กำแพงเพชร ที่บริเวณถนนเลียบชายแดนไทย - มาเลเซียใกล้กับบ้านเรือนไทย บ้านไทยจังโหลน ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ขณะลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวน 8 คนเป็นผู้ชายทั้งหมดอัดแน่นมาเต็มท้ายรถกระบะ พร้อมผู้นำพาซึ่งเป็นคนไทยอีก2 คน นายเจษฎายุทธ (ขอสงวนนามสกุล) สัญชาติไทยชาว ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา และนางสาวสะลีฝ๊ะ (ขอสงวนนามสกุล) ชาว ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทั้งสองคนเป็นผัวเมียกันโดยสามีเป็นคนขับรถกระบะและภรรยานั่งข้างๆ และขณะถูกจับกุมทั้งสองคนถึงกับกอดคอกันร้องให้เนื่องจากภรรยากำลังตั้งท้องแก่ 7 เดือนด้วย
จากการตรวจสอบแรงงานเมียนมาทั้ง 8 คนเป็นงานที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายไม่มีหนังสือเดินทาง นอกจากนี้ จากการตรวจค้นในตัวนายเจษฎา ยังพบยาบ้า 2 เม็ด และไอซ์ อีก 8.50 กรัมด้วย ซึ่งทีแรกปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่ของตัวเองถูกเจ้าหน้าที่ยัดให้แต่สุดท้ายก่อนเข่าอ่อนทรุดตัวข้างรถกระบะยกมือไหว้ร่ำให้ขอร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่จับกุม และยึดโทรศัพท์มือถือ อีก 3 เครื่อง
จากการสอบสวนนายเจษฎายุทธ และภรรยา ให้การตรงกันว่าได้รับการติดต่อจากนายบ่าว ไม่ทราบชื่อจริงให้ไปรับแรงงานต่างด้าวกกลุ่มนี้บริเวณหลังวัดม่วง ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อไปส่งที่ชายแดนไทยมาเลเซียลักลอบเดินทางต่อเข้าไปยังประเทศประมาเลเซียทางช่องทางธรรมชาติ ส่วนยาบ้าและไอซ์ก็เป็นของนายบ่าว และนายเจษฎายุทธ ยังบอกอีกว่าเพิ่งเสพยาบ้ามา 3 เม็ด ก่อนที่จะเดินทางไปรับชาวเมียนมากลุ่มนี้ และผลตรวจปัสสาวะก็พบสารเสพติด Amphetamine ด้วย
จากการสอบสวนนายแทด ออง อายุ 26 ปี หนึ่งในชาวเมียนมาที่ถูกจับกุมได้และพูดไทยได้ บอกว่า ตนทำงานอยู่ใน อ.หาดใหญ่ มา 3 ปี อาชีพรับจ้างส่งของและได้รับการติดต่อจากมารดา ซึ่งทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียผ่านระบบ Messenger ชื่อ Khin Khin เพื่อให้ตนเองเดินทางเข้าไปไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยมารดาจะเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แต่ไม่ทราบว่าเท่าไหร่และเตรียมเดินทางเข้าไปยังมาเลเซียเมื่อคืนนี้แต่ก็ถูกจับกุมได้ก่อน
ส่วนชาวเมียนมาที่เหลือจากการสอบสวนผ่านล่ามทราบว่าได้ติดกับนายหน้าสัญชาติเมียนมา เพื่อต้องการเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนค่าใช่จ่ายจะจ่ายให้เมื่อสามารถเดินทางเข้าไปยังประเทศมาเลเซียได้แต่ยังไม่รู้ว่าเท่าไหร่
โดยลักลอบเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 19 ก.พ.65 ที่ผ่านมา และได้เดินทางมายังพื้นที่ อ.หาดใหญ่ วันที่ 20 ก.พ.65 โดยรถยนต์กระบะ สีแดง ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน และพักอาศัยอยู่ห้องเช่าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และเมื่อคืนนี้มีนายเจษฎายุทธ และนางสะลีฝ๊ะ สองผัวเมียขับรถกระบะมารับเพื่อเดินทางต่อเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ก็ถูกจับกุมได้ก่อนที่จะข้ามแดน
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดส่ง สภ.สะเดา ดำเนินคดี โดยในส่วนของสองผัวเมียคนไทยถูกแจ้งข้อหานำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรฯ,ส่วนแรงงานชาวเมียนมา แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองโควิด
สำหรับสถานการณ์การค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติขณะนี้พบว่าเริ่มกลับมาอีกครั้งโดยตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาได้แล้ว 5 ครั้ง จำนวน 94 คน ทั้งในพื้นที่ อ.สะเดา อ.หาดใหญ่ และ อ.บางกล่ำ ขณะเตรียมส่งเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดนไทยมาเลเซียได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบทางด้านการข่าวและลาดตระเวนคุมเข้มชายแดนไทยมาเลเซียเพื่อสกัดการลักลอบค้าแรงงานเถื่อน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี