ดอดมอบตัว! 'พี่เขยหื่น'หวังข่มขืนน้องเมีย เผยพี่สาวแท้ๆไม่อยากให้เอาเรื่อง ลั่นในเมื่อพี่สาวแท้ๆไม่ห่วงน้องสาว ตนเองก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม หากหายโควิดแล้วจะออกจากบ้านไปทำงานที่อื่นทันที
8 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายชัยยุทธ ชมจันทร์ หรือ “ยุทธ” อายุ 42 ปี ชาวบ้านโยธา อ.หนองหาน จ.อุดรธานี บุกเข้าไปในห้องที่น้องเมียคือ น.ส.เอ อายุ 18 ปี กักตัวที่บ้านกลางทุ่งนา โดยหวังจะข่มขืนทั้งๆที่น้องเมียติดโควิด แต่การบุกข่มขืนครั้งนี้ไม่สำเร็จเพราะภรรยาผู้ก่อเหตุมาเจอะเจอพอดี
ก่อนนายชัยยุทธจะวิ่งขึ้นรถเก๋งหลบหนี ทิ้งหลักฐานเป็นรองเท้าและเงินสดอีกประมาณ 3,000 บาท ในห้องน้องเมีย สร้างความตกใจให้กับน.ส.เอ เป็นอย่างมาก เพราะติดโควิดในช่วงกักตัว และไม่คิดว่าพี่เขยจะกล้าทำแบบนี้ และภายหลังจากเป็นข่าวไป ปรากฏว่าช่วงเย็นวันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่ารายงานว่า นายชัยยุทธ ได้เดินทางมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดุง โดยน.ส.เอ ได้ใส่ชุด PPE เพื่อไปดูหน้าและเซ็นเอกสารที่ สภ.บ้านดุง ขณะที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหาพยายามข่มขืนทันที
น.ส.เอ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอีกครั้งในวันนี้ว่า ดีใจที่ผู้ก่อเหตุคือพี่เขย ตำรวจตามจับได้ ตนเองก็อุ่นใจอย่างมาก ตอนแรกไม่อยากเป็นข่าวเพราะกลัวความปลอดภัยที่เขาขู่จะล้างโคตร แต่พอหลังเป็นข่าวออกไปปรากฏว่า ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที และบอกตนเองว่าไม่อยากให้เป็นข่าวอีกให้จบแค่นี้ และรับปากจะเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
แต่ตนเองไม่สบายใจตรงที่พี่สาวที่เป็นภรรยาผู้ก่อเหตุไม่อยากให้ตนเอาเรื่อง เพราะกลัวสามีเขาจะมาฆ่าล้างโคตร ตนเองก็ชั่งใจคิดว่า ในเมื่อญาติพี่น้องไม่อยากให้เอาเรื่องแล้ว ไม่รู้ตนเองจะอยู่ที่หมู่บ้านไปทำไม หลังจากหายโควิดก็จะหนีไปทำงานยังต่างจังหวัดทันที
'วันนี้หลังรู้ข่าวว่าพี่เขยมามอบตัว ตำรวจก็แจ้งตนเองก็ใส่ชุด PPE ไปที่ สภ.บ้านดุง ตำรวจให้เซ็นอะไรบางอย่าง เห็นพี่เขยอยู่ในห้องขัง หน้าตาไม่สะทกสะท้าน ตนเองไม่อยากแม้จะมองหน้า ก็รีบออกมาทันที ตอนนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่พี่สาวที่เป็นภรรยาของนายชัยยุทธ ก็อยากให้ตนไม่เอาเรื่อง ในเมื่อพี่สาวแท้ๆไม่ห่วงน้องสาว ตนเองก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม หายจากโควิดแล้วจะหนีไปทำงานที่อื่นทันที' น.ส.เอกล่าวตอนท้าย
ทางด้านนายชัชวาล ทุ่งลาด อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องคนในหมู่บ้านก็ตกใจไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี่ ตอนนี้ได้ประชุมคณะกรรมการหมู่บ้าน รวมถึงสร้างความปลอดภัยให้กับชาวบ้านหากมีใครติดโควิด โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องกักตัวอยู่เพียงลำพังคนเดียวจะให้ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง หากพบอะไรผิดสังเกตให้รีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านทันที จะได้เข้าไปช่วยเหลือเอาไว้ทันท่วงที
ส่วน พ.ต.อ.จักรภพ ศรีจันทะ ผกก.สภ.บ้านดุง เปิดเผยว่า ในตอนนี้ตำรวจรับแจ้งความ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนก็ได้สอบปากคำผู้เสียหายทางโทรศัพท์ เพราะว่าผู้เสียหายติดโควิด ซึ่งทางครอบครัวขอคุยกันก่อน เพราะผู้ก่อเหตุเป็นเครือญาติกัน และคดีนี้สามารถยอมความกันได้ แต่ทางตำรวจก็ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย หากตกลงกันไม่ได้ก็จะเรียกมาสอบสวนปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการในข้อหา “พยายามข่มขืน” ส่วนเรื่องบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของพี่เขยที่สร้างเอาไว้ และสามรถเข้าออกได้ ส่วนความปลอดภัยของหญิงสาว 18 ปี ทางเราได้ส่งชุดสายตรวจออกไปดูแล ตรวจบริเวณรอบหมู่บ้านวันละหลายรอบ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยที่อาจจะเกิดเหตุซ้ำได้อีก. 012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี