วันจันทร์ ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
บทความพิเศษ : สตง. โดนใจ ‘ปรับ’ ยกระดับ ‘การตรวจสอบ’

บทความพิเศษ : สตง. โดนใจ ‘ปรับ’ ยกระดับ ‘การตรวจสอบ’

วันอังคาร ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag :
  •  

อาทิตย์นี้ขอว่าด้วยการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบการใช้งบประมาณ ที่ผมได้กระตุ้นอยู่หลายครั้งเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ขณะที่ผมปฏิบัติหน้าที่อยู่ในรัฐสภา

ต้องบอกตามตรงว่า ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจเมื่อทราบข่าว (สำนักข่าวอิศรา : 22 มีนาคม 2565)ว่า สตง. ได้รายงานผลการตรวจสอบโครงการโรงเรียนสองภาษา หลักสูตรไทย-อังกฤษ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของกรุงเทพมหานคร ว่าต่ำกว่าเป้าหมาย และไม่เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด


โดยจากการสุ่มตรวจสอบโรงเรียน 11 แห่ง พบว่า โรงเรียนส่วนใหญ่ไม่มีการทดสอบสมิทธิผลทักษะภาษาอังกฤษตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดยมีโรงเรียนจำนวน 8 แห่งที่ต้องทดสอบสมิทธิผลทักษะภาษาอังกฤษตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด แต่ไม่ปรากฏข้อมูลผลการทดสอบสมิทธิผลทักษะภาษาอังกฤษที่ใช้แบบทดสอบมาตรฐานจากสถาบันซึ่งได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ และโรงเรียนอีกจำนวน 3 แห่ง จัดการเรียนการสอนไม่ถึงระดับที่ต้องทดสอบ นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบประเด็นบุคคลภายนอกช่วยปฏิบัติราชการด้านการสอนภาษาอังกฤษ (ครูต่างชาติ) ของโรงเรียนบางแห่ง ไม่ตรงวิชาเอก และไม่เพียงพอตามแนวทางที่กำหนด

อีกประเด็นที่น่าสนใจสำหรับการทำงานของ สตง. ตามข้อมูลการรายงานข่าว คือ เรื่องการขับเคลื่อนสะเต็มศึกษา (แนวทางการศึกษาที่ได้บูรณาการความรู้ระหว่างศาสตร์วิชาต่างๆ เช่น ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ความรู้ทางด้านวิศวกรรม และความรู้ด้านคณิตศาสตร์ รวมเข้าด้วยกัน) ของกรุงเทพมหานคร“ไม่มีประสิทธิภาพ” ส่งผลทำให้ครูเสียโอกาสได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้อง และส่งผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ทำให้ขาดการพัฒนา ไม่เกิดการเรียนรู้ และการบูรณาการความรู้ ไปใช้เชื่อมโยง หรือแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง

โดยสุ่มตรวจสอบโรงเรียน จำนวน 22 แห่งพบว่า โรงเรียนบางแห่งไม่มีการจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษาในโรงเรียนตามแนวทางการนำกิจกรรมสะเต็มศึกษาไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียน จำนวน 9 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 40.91 จำแนกเป็นโรงเรียนที่ตั้งศูนย์อบรมทางไกลสะเต็มศึกษา จำนวน 2 แห่ง และโรงเรียนเครือข่ายของศูนย์จำนวน7 แห่ง กล่าวคือ ไม่มีการจัดกิจกรรมสอดแทรกไปตามเนื้อหาที่เกี่ยวข้องของแต่ละรายวิชาภายในคาบเรียนอย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีการจัดกิจกรรมไว้ในรายวิชาเพิ่มเติมหรือเลือกเสรี และไม่มีการจัดกิจกรรมไว้ในกลุ่มกิจกรรมนอกชั้นเรียน )

ครับ, เมื่อทราบข้อมูลดังกล่าวนี้ เกี่ยวกับการรายงานผลการตรวจสอบของ สตง. ที่นอกจากการตรวจสอบในเชิงปริมาณแล้ว ยังเพิ่มเติมการตรวจสอบในเชิงผลสัมฤทธิ์และข้อแนะนำในการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายให้เกิดประสิทธิภาพ (ในที่นี่มิได้นำมาระบุไว้ สามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักข่าวอิศรา) ก็ต้องถือว่าเป็นการพัฒนาระบบการตรวจสอบ อันส่งผลสำคัญต่อการปฏิบัติงานของข้าราชการเป็นอย่างยิ่ง เพราะอานิสงส์เช่นนี้เองจะต่อยอดไปสู่การยกระดับ “ระบบราชการ” ให้เกิดกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามที่ผม และคนส่วนใหญ่ หวังที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้มาโดยตลอด

กล่าวคือ การตรวจสอบของ สตง. นี้ เป็นการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์ของโครงการที่ใช้งบประมาณ(Performance Audit) เพิ่มเติมขึ้นมา นอกเหนือไปจากการตรวจสอบความถูกต้องทางเอกสารของการใช้งบประมาณเท่านั้น ซึ่งเป็นการบอกกับข้าราชการที่มีความรับผิดชอบโดยตรงต่อกรณีดังกล่าวนี้ว่า สตง. ให้ความสำคัญกับ “ผลลัพธ์” ที่เกิดขึ้นกับ “ประชาชน” จากการใช้“งบประมาณ” ของรัฐ (ที่มาจากการเสียภาษีของพวกเขา)

ถ้าประชาชน (ในกรณีนี้ คือ นักเรียน) ไม่ได้รับประโยชน์ คือ ความสามารถของการใช้ภาษาอังกฤษ และการคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ จากสะเต็มศึกษา ก็ต้องถือว่า โครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมาและควรที่จะนำมาใช้เป็นกรอบสำหรับการปฏิบัติงานในเชิงของการศึกษา และตรวจสอบมาตั้งนานแล้ว เพราะโดยปกติที่ผ่านมา ข้าราชการที่ใช้งบประมาณ จะให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามระเบียบที่กหนดจากทางราชการอย่างถูกต้อง แต่ในส่วนของผลสำเร็จนั้น จะเกิดขึ้นกับประชาชนหรือไม่ ไม่สำคัญ เพราะสตง. ตรวจสอบเพียงความถูกต้องของเอกสารตามกฎระเบียบ (Compliance Audit) จากทางราชการเป็นหลัก พูดง่ายๆ ก็คือ การตรวจว่า ใบเสร็จซื้อกาแฟถูกต้องตามระเบียบราชการหรือไม่ ส่วนในถ้วยกาแฟที่ซื้อนั้นจะมีกาแฟหรือไม่ รสชาติกาแฟเป็นอย่างไร สตง. จะไม่ตรวจ นี่คือปัญหาใหญ่ของระบบราชการ ที่ทำให้กระทรวง กรม และจังหวัด แม้จะใช้งบประมาณปีละเป็นล้านล้านบาท แต่ประชาชนกลับไม่ได้รับผลสำเร็จอะไรอย่างเป็นรูปธรรมเลย เพราะงบประมาณใช้ไปอย่างถูกต้องตามระเบียบราชการเป็นเพียงจุดหมายปลายทางของการดำเนินโครงการเท่านั้น

ดังนั้น เมื่อทาง สตง. ได้ปรับไปตรวจสัมฤทธิผล (Performance Audit) ร่วมด้วย เช่น กรณีกรุงเทพมหานคร ใน 2 โครงการนี้ จึงถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี และสำหรับผมเห็นว่า สตง. สมควรที่จะได้รับการชื่นชม และสนับสนุนให้ทำการตรวจผลสัมฤทธิ์เช่นนี้ให้เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น เพื่อหวังว่า งบประมาณที่ใช้จ่ายไปในโครงการต่างๆ ของประเทศไทย จะเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และตรงตามเจตนารมณ์ของการใช้งบประมาณของรัฐอย่างแท้จริง

ที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ แรงกระเพื่อมของการตรวจสอบเชิงผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐอย่าง สตง. นั้น จะกลายเป็นคำถามกลับไปยัง “สำนักงบประมาณ” (สงป.) ว่า โครงการที่ทาง สงป.อนุมัติไปนั้นตรงกับปัญหา และความต้องการของประชาชนหรือไม่ ยกตัวอย่าง กรณีโครงการ สะเต็มศึกษา ที่ สงป. อนุมัติให้ตั้ง “ศูนย์อบรมทางไกลสะเต็มศึกษา” ของกรุงเทพมหานคร และจัดสรรงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ และครุภัณฑ์ไปให้ พร้อมกับงบประมาณดำเนินการ

แต่ปรากฏว่า ผลการตรวจสอบของ สตง. จากการสุ่มตรวจสอบโรงเรียนที่ตั้งศูนย์อบรมทางไกลสะเต็มศึกษา จำนวน 8 แห่ง พบว่า ศูนย์อบรมทางไกลสะเต็มศึกษา จำนวน 4 แห่ง ไม่มีการนิเทศติดตามการสอนของครูผู้สอนที่เข้ารับการอบรม ตามที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กำหนด และศูนย์อบรมทางไกลสะเต็มศึกษา จำนวน 4 แห่ง มีการนิเทศติดตาม ซึ่งพบปัญหา ได้แก่ การจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษาสอดแทรกในชั้นเรียนไม่มีความต่อเนื่อง อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดกิจกรรมสะเต็มศึกษาไม่เพียงพอ และครูพี่เลี้ยงยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอ จึงไม่สามารถให้ความเห็นในการนิเทศติดตามได้อย่างมั่นใจ

“การขับเคลื่อนสะเต็มศึกษาของกรุงเทพมหานครไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลทำให้ครูเสียโอกาสได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้อง และส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนทำให้ขาดการพัฒนา ไม่เกิดการเรียนรู้และการบูรณาการความรู้ไปใช้เชื่อมโยงหรือแก้ไขปัญหาในสถานการณ์จริงผ่านกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมตามแนวทางสะเต็มศึกษาได้ และอาจส่งผลกระทบต่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (O-NET) วิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ที่ยังมีค่าเฉลี่ยของโรงเรียนบางแห่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ...”

ถึงตรงนี้ คำถามที่ สงป. ต้องตอบให้ได้ก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการพิจารณางบประมาณของหน่วยงานตน ทำไมทาง สตง. จึงรายงานการตรวจสอบออกมาตามที่ได้ระบุไว้นี้ และผมขอเสนอว่า รายงานฉบับดังกล่าวนี้ของ สตง. ควรได้รับการส่งต่อไปยังนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ได้อ่าน และศึกษาข้อมูลร่วมด้วย เพื่อที่จะได้ทราบว่า ทำไมงบประมาณปีละหลายล้านล้านบาทของรัฐบาลไทย ถึงไม่สามารถแก้ปัญหาของประชาชนได้อย่างที่ควรจะเป็น

กนก วงษ์ตระหง่าน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ระทึก! โครงเหล็กไซต์ก่อสร้างทรุดตัว ทับคนงานบาดเจ็บ 12 ราย ระทึก! โครงเหล็กไซต์ก่อสร้างทรุดตัว ทับคนงานบาดเจ็บ 12 ราย
  • ‘สปสช.-TCELS’โชว์7นวัตกรรมไทย ที่‘World Expo 2025’ประเทศญี่ปุ่น ‘สปสช.-TCELS’โชว์7นวัตกรรมไทย ที่‘World Expo 2025’ประเทศญี่ปุ่น
  • \'ซูเปอร์โพล\'เผยผลสำรวจพบ\'วัฒนธรรม\'ทางรอดปัญหาชายแดน 'ซูเปอร์โพล'เผยผลสำรวจพบ'วัฒนธรรม'ทางรอดปัญหาชายแดน
  • อัปเดตพายุ ‘ดานัส’ พุ่งเข้าใกล้ไต้หวัน  ไม่กระทบโดยตรงกับไทย อัปเดตพายุ ‘ดานัส’ พุ่งเข้าใกล้ไต้หวัน ไม่กระทบโดยตรงกับไทย
  • ‘อภัยภูเบศร’เปิดตำราสมุนไพรดูแลสุขภาพ ‘รากสามสิบ’ปลุกพลังหญิง เมล็ด‘หมามุ่ย’เติมไฟชาย ‘อภัยภูเบศร’เปิดตำราสมุนไพรดูแลสุขภาพ ‘รากสามสิบ’ปลุกพลังหญิง เมล็ด‘หมามุ่ย’เติมไฟชาย
  • พลังชุมชนอภิวัฒน์ระบบสุขภาวะ \'สสส.\'เสริมศักยภาพชุมชนท้องถิ่นกว่า 500 ตำบล พลังชุมชนอภิวัฒน์ระบบสุขภาวะ 'สสส.'เสริมศักยภาพชุมชนท้องถิ่นกว่า 500 ตำบล
  •  

Breaking News

นักวิชาการ‘กัมพูชา’ยกโพลเย้ยการเมืองไทยเปราะบาง ไม่เหมือน‘ฮุน เซน’ชาวเขมรศรัทธาท่วมท้น

'อดีตสว.สมชาย'สิ้นหวัง! พ.ร.บ.ตำรวจไร้ผล ชี้ระบบอุปถัมภ์-การเมืองทำปฏิรูปแป๊ก

แก้เสียงปริ่มน้ำ!‘สุชาติ’จ่อลาออกสส. เปิดทาง‘ปาร์ตี้ลิสต์’ลำดับถัดไปทำหน้าที่ในสภา

‘ภูมิธรรม’หนุนข้อเสนอ‘รมต.’ไม่มีบทบาทในสภาฯ ควรทิ้งเก้าอี้สส.‘ปาร์ตี้ลิสต์’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved