วันที่ 29 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในรถที่บริเวณซอยท้าวสุรนารี 13 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตานครราชสีมารุดตรวจสอบที่เกิดหตุพบรถกระบะมีแคปสีน้ำเงิน-บรอนซ์ เลขทะเบียน นค 2183 นครราชสีมา จอดอยู่ในบริเวณซอยริมแม่น้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นพบผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อคือนายวิรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ลักษณะนอนคว่ำอยู่ภายในรถ มีอาวุธอยู่ข้างตัวเป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 ศพผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณศรีษะฝั่งขวาทะลุไปฝั่งซ้าย ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้ายแต่อย่างใด แต่ก่อนหน้าพบว่ามีการประกาศตามหาผู้เสียชีวิตในโลกโซเชียลซึ่งเป็นเจ้าของร้านเป็ดย่างชื่อดังเมืองโคราช ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 65 ในช่วงเย็น ก่อนมาพบว่าใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเพื่อชัณสูตรในเวลาต่อมา
สอบถาม ร.ต.อ.สมัย อายุ 64 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตอนแรกเห็นรถคันดังกล่าวมาจอดตั้งแต่เมื่อวาน 28 มีนาคม 65 ช่วงประมาณ 18.00 น. ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่ามาหาคนในหมู่บ้าน แต่มาในช่วงเช้าวันนี้ตนเห็นว่ารถคันดังกล่าวยังไม่ไปไหนและได้สังเกตุว่าไฟเบรคติดตลอดเวลา จึงคิดว่าน่าจะเป็นรถที่ขโมยมาจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบแต่กลับพบว่ามีคนเสียชีวิตในรถโดยใช้อาวุธปืนยิงตนเองเสียชีวิต แต่ก่อนหน้านี้ตนก็เหมือนจะได้ยินเสียงอยู่ เป็นเสียงคล้ายปิดประตูรถแต่ไม่น่าใช่ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเป็นโรคหลายโรค ร่วมถึงโรคซึมเศร้าด้วย ส่วนกิจการร้านอาหารก็เงียบ ไม่มีคนเข้าร้านเพราะพิษโควิด 19 ด้วย คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ปลิดชีพตนเองแบบนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี