ดับแล้ว237ศพ
เซ่นเทศกาลสงกรานต์ผ่าน6วัน
เชียงใหม่-กทม./ตาย-เจ็บพุ่ง
10จังหวัดยังไร้ความสูญเสีย
กลับกทม.‘มิตรภาพ’รถหนึบ
สงกรานต์ผ่าน 6 วันอันตราย ดับแล้ว 237 ศพ กทม.-เชียงใหม่ แชมป์ยอดเจ็บ-ตาย-อุบัติเหตุสะสม มี 10 จังหวัดถนนใสไร้การสูญเสีย ด้าน ศปถ.กำชับดูแล
ประชาชนแห่กลับเข้าเมืองกรุง พบถนนมิตรภาพ ติดหนึบตร.ทางหลวงผนึกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายการจราจร เตือนมีฝนตกให้ขับขี่ระมัดระวัง
เมื่อวันที่ 17เมษายน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) แถลงสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่6ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ว่า เกิดอุบัติเหตุ 241 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 246 คน ผู้เสียชีวิต 28 ราย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 41.49 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 25.31 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ 84.34 รถปิกอัพ 6.43 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.59 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 38.17 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 80.91 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01–19.00 น. ร้อยละ 10.37 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20–29 ปี ร้อยละ 22.63
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (11 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ลำปาง (11 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (3 ราย) เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,900 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,324 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 410,818 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 70,180 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 19,264 ราย ไม่มีใบขับขี่ 18,388 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน (11–16เมษายน 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,720 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,696 คน ผู้เสียชีวิต 237 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (62 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (60 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กทม.(11 ราย)จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 10 จังหวัด ได้แก่ นครพนม บึงกาฬ ปัตตานี ยะลา ระนอง ลำพูน สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ
ด้านนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า สำหรับวันหยุดปิดท้ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ มีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับ กทม.ทำให้ปริมาณการจราจรหนาแน่นในเส้นทางสายหลักและสายรองที่เชื่อมต่อจากภูมิภาคต่างๆ เข้าสู่กทม.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้กำชับจังหวัดให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยพิจารณาเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว มุ่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งจุดตัดทางรถไฟ ทางแยก ทางร่วม และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน พร้อมดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อป้องกันการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด อีกทั้งเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากการหลับใน
นอกจากนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนที่ยังคงตกค้างบริเวณสถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน ท่าเทียบเรือ และสถานีรถไฟให้เดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย ส่วนการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางยังคงมีฝนตกและพายุลมแรง จึงฝากเตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ หรือไม่ฝืนขับรถฝ่าสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักและวาตภัย โดยให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 2 พื้นที่ จ.นครราชสีมา ตลอดช่วงบ่ายวันเดียวกัน โดยเริ่มตั้งแต่อ.บัวลาย อ.สีดา อ.คง และอ.โนนสูง พบว่ามีประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากทม.กันเป็นจำนวนมากหลังจากหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อกลับเข้าทำงานในวันที่ 18 เมษายนนี้ ส่งผลให้มีปริมาณรถติดสะสมเป็นทางยาว โดยเฉพาะถนนมิตรภาพขาเข้ากทม.บริเวณแยกบ้านวัดอ.คง มีรถติดสะสมเป็นทางยาว โดยสามารถใช้ความเร็วได้ที่30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบางจุดรถติดสะสมสลับหยุดนิ่งนานหลายนาที
จากภาพมุมสูงพบว่าปริมาณรถขาเข้า จ.นครราชสีมา บริเวณแยกบ้านวัด อ.คง มีรถติดสะสมเป็นทางยาวหลายกิโลเมตร เนื่องจากเป็นทางแยก มีรถวิ่งมารวมกันจากหลายจังหวัดทำให้เกิดการติดสะสม และชะลอตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ต้องใช้สัญญาณมือในการเร่งระบายรถ และเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงที่ 1 นครราชสีมา ได้เปิดช่องทางพิเศษ ตั้งแต่แยกบ้านใหม่เกษม ต.ธารปราสาท จนถึงหน้าตู้ยามทางหลวงบ้านส้ม ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง ระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อให้รถวิ่งสวนทางกัน และยังควบคุมสัญญาณไฟเขียว-ไฟแดงด้วยมือ เพื่อเร่งระบายรถที่ติดสะสมอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายในคืนวันเดียวกันนี้ จะมีปริมาณรถเพิ่มสูงขึ้นอีกภายหลังช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันและมีการเดินทางกลับเข้า กทม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี