25 เมษายน 2565 นายจรวย ดีแล้ว ส.จ. เขต อ.เมืองพิษณุโลก ในฐานนะแกนนำประธานอนุรักษ์บ้านกร่าง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยกลุ่มชาวบ้านบ้านกร่างจำนวนกว่า 100 คน เดินทางยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อขอคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 9.9 เมกะวัตต์ เนื่องจากหวั่นชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบทางด้านต่างๆ ของโรงไฟฟ้าขยะ ประกอบกับชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เคยมีการทำประชาคมหรือประชาวิจารณ์จากชาวบ้าน
ทั้งนี้ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก มีความประสงค์ที่จะดำเนินการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าระบบปิด ตามโครงการบริหารและจัดการขยะมูลฝอยชุมชนเป็นพลังงานไฟฟ้าระบบปิด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ พื้นที่ตั้งโครงการคือ หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งดำเนินในลักษณะร่วมทุนโดย องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง เป็นผู้ดำเนินโครงการแล้วให้เอกชนที่เข้ามารับโครงการเป็นผู้ลงทุน หลังจากที่มีการประชุมรับฟังความคิดเห็น และประชาสัมพันธ์โครงการบริหารและจัดการขยะมูลฝอยชุมชนเป็นพลังงานไฟฟ้าระบบปิด ซึ่งมีการจัดประชุมกันใน วันที่ 25 กันยายน 2561 ขณะนั้นถูกคัดค้านโดยประชาชนในพื้นที่ของกลุ่มอนุรักษ์บ้านกร่าง โดยตัวแทนราษฎรยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด และแม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งราษฎรในพื้นที่คิดว่าโครงการนี้ต้องไม่เกิดขึ้นในพื้นที่อีกแล้ว
ต่อมา เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564 องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง ได้มีประกาศ เรื่องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับโครงการกำจัดขยะมูลฝอย เพื่อผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่าง เป็นผู้ดำเนินการโครงการทั้งหมดในทุกหมู่บ้าน ที่อยู่ในพื้นที่รัศมี 3 กิโลเมตร รวมได้ 6 หมู่บ้าน เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนให้เหตุผลว่าเป็นการดำเนินการอย่างตามนโยบายต่อเนื่อง โดยการแจกแบบสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วไปประจำแต่ละหมู่บ้าน เพื่อตอบแบบสอบถามเป็นรายบุคคลในการรับฟังความคิดเห็น การดำเนินงานของโครงการเป็นไปอย่างเร่งด่วนโดยอ้างว่าเป็นภารกิจของภาครัฐในการดำเนินการกำจัดขยะมูลฝอยตามหนังสือของกระทรวงมหาดไทย
ข้อสงสัยอีกประการหนึ่งการที่ อบต.บ้านกร่าง ออกหนังสือถึงผู้ใหญ่บ้าน ประกาศ เรื่องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับโครงการกำจัดขยะมูลฝอย ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 แต่มีการสรุปผลรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในวันที่ 17 ธันวาคม 2564 หากเทียบจากจำนวนประชากร หมู่ 4,5,6,7,9,10 รวมเกือบ 6,700 คน แต่มีการออกแบบสอบรับฟังความคิดเห็นเฉพาะบางกลุ่ม บางหมู่บ้านเท่านั้น เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรแล้วนั้นยังไม่ถึงครึ่ง มีตารางชี้แจงว่าจากการสรุปแบบสอบถามทั้งหมด 6 หมู่ รวมได้ 460 คน มีผู้เห็นด้วยกับโครงการ 456 คน ไม่เห็นด้วย 4 คน แต่ข้อเท็จจริงประชากรส่วนใหญ่ กลับไม่ได้รับแบบสอบถามไม่ได้รับแจ้งข้อมูลข่าวสารที่ทาง อบต.บ้านกร่าง ทำการสำรวจแบบสอบถามเฉพาะกลุ่มรายย่อยนี้ให้ทั่วถึง โครงการนี้เป็นโครงการขนาด ใหญ่มีการลงทุนมหาศาลในวงเงิน 1,800 ล้านบาท จากการเผยแพร่เว็บไซ์ อบต.บ้านกร่าง เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ประชาชนจะต้องได้รับทราบข้อมูลองค์ความรู้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องของโครงการ ถึงข้อดีข้อเสียผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางอากาศทางน้ำ กลิ่นเหม็น แมลงวัน สารเคมีปนเปื้อน ควันจากการเผาไหม้ รถบรรทุกขยะที่ต้องลำเรียงเข้ามาสู่โรงงานขนาด 9.9 เมกะวัตต์ การจราจร และปัญหาอื่นๆที่จะส่งผลกระทบต่อสังคมส่วนรวมอีกจำนวนมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำบลบ้านกร่าง เป็นสถานที่ตั้งสถาบันการศึกษาที่สำคัญทั้งระดับอุดมศึกษา มัธยมศึกษา และประถมศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก โรงเรียนบ้านกร่างวิทยาคม โรงเรียนบ้านกร่าง(พระขาวชัยสิทธิ์) โรงเรียนวัดธรรมเกษตร (เกษตรานุเคราะห์) โรงเรียนวัดแหลมโพธิ์ และโรงเรียนบ้านแม่ระหัน นอกจากนั้นยังมีวัดวา อาราม ที่ใช้บำเพ็ญศาสนกิจทางศาสนา จำนวน 8 วัด อาทิ วัดพระชาวชัยสิทธิ์ วัดเด่นโบสถ์โพธิ์งาม วัดนิมิตธรรมาราม วัดธรรมเกษตร วัดป่าเลไลย์ วัดเกาะแหลมโพธิ์ วัดพระยายมราช และวัดแม่ระหัน ประชาชนส่วนใหญ่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และมีข้อสงสัยว่าแบบสอบถามรับฟังความคิดเห็นของวันที่ 16 ธันวาคม 2564 เกิดขึ้นอย่างรวบรัด เรื่องใหญ่ที่มีความสำคัญกับชุมชนและสังคมส่วนรวม แต่ประชาชนไม่ได้ทราบข่าวสารให้แพร่หลาย ทั่วถึงโปร่งใส รับทราบข่าวสารเฉพาะบางกลุ่ม บางราย จึงเกิดเสียงคัดค้านและต่อต้านคล้ายกับปกปิดเอกสารข้อมูล และมีความไม่ชอบมาพากล
ซึ่งประชาชนควรได้รับทราบอย่างเปิดเผย กลุ่มอนุรักษ์บ้านกร่างจึงขอคัดค้านการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าจากพลังงานขยะ ตามโครงการดังกล่าว เพราะเห็นว่าการดำเนินการไม่เป็นไปด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล และมีความไม่ถูกต้อง ทั้งนี้กลุ่มอนุรักษ์บ้านกร่าง จึงขอให้ผู้มีอำนาจ พิจารณายับยั้งโครงการดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อีก จนกว่าการดำเนินการจะเป็นไปอย่างสมบูรณ์ครบถ้วนถูกต้องโปร่งใส ตามขั้นตอนของการทำประชาพิจารณ์ที่สมบูรณ์ผลการดำเนินการเป็นประการใด กรุณาแจ้งหรือติดต่อประธานกลุ่มอนุรักษ์บ้านกร่างทราบภายใน 15 วัน
จากนั้นนายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้พูดคุยกับแกนนำพร้อมรับหนังสือคัดค้านจากกลุ่มผู้ชุมนุม ก่อนจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป โดยกลุ่มผู้ชุมนุมพึงพอใจก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี