วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ และนิสิตเก่าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 30 โพสต์ข้อความว่า ชี้ทางสว่างให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเรื่องที่เคยมีคำวินิจฉัยขัดมติแพทยสภา
ดิฉันเขียนบทความนี้ ในฐานะประชาชนที่หวังดีกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน อยากจะให้เรื่องชั้น ๑๔ จบลงอย่างถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงขอเสนอ แนวทางแก้ปัญหาให้นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ดังนี้
๑. ถ้ามีผู้แนะนำ ให้ไม่รับหนังสือร้องเรียนของดิฉัน ขอแนะนำให้ท่านอย่าทำตามคำแนะนำนั้น
๒. ขอให้ท่านรับคำร้องโดยเร็ว เพื่อพิจารณาวินิจฉัย
๓. การรับคำร้องเรียน ไม่ใช่เรื่องเสียหน้าว่าผู้ตรวจการแผ่นดินเคยวินิจฉัยผิดพลาด แต่เป็นโอกาสให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทรงศัก สายเชื้อ ได้ทบทวนคำวินิจฉัยเดิม หลังจากที่มีมติแพทยสภาออกมาซึ่งมีผลให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยเฉพาะประเด็นสำคัญคือการเร่งรีบยุติการวินิจฉัยโดยที่ไม่มีเวชระเบียน ซึ่งเป็นหลักฐานเอกสารสำคัญ
๔. เหตุผลที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทรงศัก สายเชื้อ รับเรื่องที่ดิฉันโต้แย้ง ก็คือ เนื่องจากได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บัดนี้ มีหลักฐานข้อเท็จจริงอันเป็นที่น่าเชื่อถือได้จากแพทยสภา ซึ่งหลักฐานข้อเท็จจริงนี้ไม่เคยปรากฏในขณะที่ผู้ตรวจการแผ่นดินทำการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนในครั้งก่อน
๕. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอหลักฐานเอกสาร จากแพทยสภามาประกอบคำวินิจฉัย โดยเฉพาะเวชระเบียน โดยไม่ต้องรอความเห็นชอบของนายกสภาพิเศษ เนื่องจากนายกสภาพิเศษ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบต่อมติลงโทษ แพทย์ทั้ง ๓ เท่านั้น แต่ไม่สามารถจะกลับคำวินิจฉัยของแพทยสภาว่า ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าป่วยขั้นวิกฤติ และดิฉันเชื่อว่า แม้นายกสภาพิเศษ จะไม่เห็นชอบต่อมติของแพทยสภา แต่แพทยสภา โดยเสียงส่วนใหญ่ ก็จะยืนยันมติเดิม นอกจากนี้ดิฉันไม่เห็นมีผู้ใดในโลกใบนี้ ที่จะแย้งแพทยสภาได้เรื่องการป่วยวิกฤต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ กรณีชั้น ๑๔
ทั้งนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินควรระบุให้ชัดเจนว่า เป็นเรื่องด่วนที่สุด ดิฉันเชื่อว่า แพทยสภาสามารถจะส่งข้อมูลให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้โดยเร็วไม่ต้องรอถึง ๓๐ วัน ตามเกณฑ์
๖. ผู้ตรวจการแผ่นดิน เร่งรัด พิจารณาข้อมูล แล้วสรุปคำวินิจฉัย และแจ้งให้ดิฉันผู้ร้องเรียน ตลอดจนสาธารณชนทราบคำวินิจฉัยโดยเร็ว ก่อนวันที่ ๑๓ มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกานัดไต่สวน
ผู้ตรวจการแผ่นดินควรที่จะฉลาดเอาตัวรอดบ้าง ถ้าดูข่าวก็คงพอจะทราบว่าตอนนี้ทุกคนเอาตัวรอด โบ้ยใครได้ก็โบ้ย ทำไมผู้ตรวจการแผ่นดินยังรีรออะไรอยู่การที่ดิฉันแนะนำเช่นนี้ ไม่มีผลเสียเลยต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทรงศัก สายเชื้อ และการที่หน่วยงานรัฐให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง ก็คือปัญหาของหน่วยงานนั้น ไม่ใช่ปัญหาของผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะต้องไปออกหน้ารับแทน และก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ผู้ตรวจการแผ่นดินเท่านั้น แม้แต่ ปปช.ก็ไม่ได้หลักฐานครบ กสม. ก็ไม่ได้ครบ เพียงแต่ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยเร็วไปหน่อย แต่เมื่อพบว่ามีข้อมูลใหม่ที่มีเหตุมีผลน่าเชื่อถือ การจะนำข้อมูลนั้นมาวินิจฉัยนั้น ถ้าผู้ตรวจการแผ่นดิน นายทรง สายเชื้อเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ย่อมดำเนินการให้เป็นไปได้แน่นอน
นาทีนี้ท่านเลือกได้ว่าจะเป็นผู้กอบกู้ชื่อเสียงของท่านและสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินกลับคืนมา หรือท่านพร้อมที่จะรับผลที่อาจจะตามมาโดยท่านจะยืนเคียงข้างชั้น ๑๔ และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำลังถูกเพ่งเล็งว่าประพฤติมิชอบ.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี