ตำรวจเปิดไทม์ไลน์ละเอียดยิบ ภาพถ่าย-เวลาทั้งหมดบนเรือ 

26 เม.ย.65 ตำรวจแถลงสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม ภัทรธิดา หรือ นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ตจมแม่น้ำเจ้าพระยา

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.65 เวลาประมาณ 22:30 น. ได้เกิดเหตุ นางสาว ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ นิดา พัชรวีระพงษ์ แสดงสาวชื่อดัง ตกจากเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณใกล้เคียงกับท่าเรือทพิบูลสงคราม 1

เวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก็ได้พบเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายกำลังระดมค้นหาแต่ก็ยังไม่พบ จากการซักถามพยานปากคำ ทราบเพียงว่า คุณแตงโม ตกเรือ ซึ่งระยะเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่พบคุณแตงโมและก็ยังไม่มีคนบนเรือมาพบพนักงานสอบสวน

ในรุ่งเช้า ฝ่ายพนักงานสืบสวน สภ.นนทบุรี ก็ได้พบเรือลำที่เกิดเหตุจอดอยู่ที่อู่เรือ NBC BOAT CLUB ซึ่งพบเรือลำเกิดเหตุจอดอยู่ที่อู่เรือ สีขาว-น้ำเงิน จึงได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบ

จากนั้นเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานก็ได้เข้ามาตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานพบพิรุธต้องสงสัยคือ แก้วไวน์บนเรือมีเพียงใบเดียว ซึ่งไม่สอดคล้องกับจำนวนคนบนเรือที่มีถึง 6 คน และระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นอู่เรือลำเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนก็ได้สืบทราบมาว่าอีก 5 คนบนเรือที่เหลือคือ 

นายปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ ,  นายโรเบิร์ต ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ , นายจ๊อบ นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร , กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ,  แซนดี้ วิศาพัช มโนมัยรัตน์

โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นบนเรืออยู่นั้น ได้มีที่ปรึกษาของกลุ่มคนบนเรือแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะพาทั้ง 5 คนบนเรือ มาพบพนักงานสอบสวนในเวลา 15.00 น. แต่เมื่อถึงเวลาดังกล่าว ก็ไม่ได้มาพบตามนัด แม้ว่าพนักงานสอบสวนจะเร่งรัดไปหลายครั้งแล้วก็ตาม จนกระทั้งเวลา 18.00 น. ได้ติดต่อกับพนักงานสอบสวน และในเวลา 20.00 น. ทั้ง 5 คนเดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวน 

26 ก.พ.65 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบร่างของแตงโม ที่บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากท่าเรือพิบูลสงคราม 235 เมตร โดยลักษณะการบาดแผลการเสียชีวิตมีลักษณะเป็นการตายอย่างผิดธรรมชาติซึ่งจากพฤติกรรมที่ไม่มาแสดงตัวทันทีหลังเกิดเหตุ ของทั้ง 5 คนบนเรือ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบเรือลำเกิดเหตุเองถึงโทรมาแจ้งแสดงตัว ประกอบกับพยานหลักฐานที่ผิดปกติบนเรือ การเสียชีวิตของแตงโมจึงมีเงื่อนงำ มีความผิดปกติ จึงต้องมีการสืบสวนสอบสวนโดยละเอียด

สำหรับไทม์ไลน์ ข้อมูลที่จะนำมาอ้างอิงใช้เป็นไทม์ไลน์ จะใช้พยานหลักฐานจำพวกภาพจากกล้องวงจรปิด GPSของเรือ ข้อมูลที่ตรวจสอบจากโทรศัพท์ เช่น การโทร การแชทสนทนาทั้งหมดของทั้ง 6 คนบนเรือ ในส่วนที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับรูปคดีในเมื่อนำข้อมูลมาประกอบกันแล้วจะทำเป็นไทม์ไลน์

เริ่มต้นจากวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.00 น. ปอ ได้ทักหากระติก ทางไลน์ โดยนัดหมายพูดคุยในฐานะเพื่อนเก่า

จากนั้นเวลา 19.00 น. กระติกได้ไลน์ไปหาคุณแตงโม โดยแจ้งว่านายปอ ชวนไปนั่งเรือจิบไวน์ แตงโมก็ตอบตกลงที่จะไปด้วย

จากนั้นเวลา 19.55 น. กระติกได้ส่งข้อความไปหานายปอ และ กระติกบอกว่าจะมีแนวร่วมไปด้วย 4 คนคือ 1.กระติก 2.คุณแตงโม และอีก 2 คน โดย 2 คนนี้ ในวันจริงไม่ว่างมาขึ้นเรือ จากนั้น นายปอ ได้ส่งภาพเรือวันที่เกิดเหตุมาให้ดู 

จากนั้น วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.00 น. กระติก ได้ส่งข้อความไปชวนแซนดี้ โดยคีย์เวิร์ดคือได้ชักชวนให้ไปขึ้นเรือ โดยแซนตกลงจะไปด้วย

ต่อมาเวลา 18.00 น. กระติกได้ส่งข้อความไปหานายปอ โดยคีย์เวิร์ดคือจะมีแซนดี้ไปด้วย จากนั้น นายปอได้ส่งพิกัดอู่เรือ NBC มาให้พร้อมนัดหมายเวลาลงเรือคือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 16.00 น.

ต่อมาเวลา 22.00 น. กระติกได้ส่งข้อความหาคุณแตงโม โดยคีย์เวิร์ด คือนายปอ จะพาขับเรือเส้นอยุธยาและจากนั้นได้พูดคุยเรื่องการเลือกชุด

ต่อมาวันที่ 24 กุมภาพันธ์ วันที่เกิดเหตุ เวลา 14.00 น กระติกได้ส่งข้อความหาคุณแตงโม บอกให้เตรียมตัวออกจากบ้านไม่เกิน 15.30 น. ซึ่งต่อมาเวลา 14.20 น รถของคุณกระติกได้ขับไปที่บ้านของคุณแตงโมและเข้าไปในบ้าน

ต่อมาเวลา 15.00 น. อีกฟากหนึ่งคืออู่เรือ NBC นายปอ ได้เดินทางมาถึงที่อู่เรือ

ตัดภาพมาที่บ้านของคุณแตงโมเมื่อเวลา 15.52 น. คุณแตงโมและกระติกได้ออกจากบ้านโดยใช้รถของคุณแตงโม ขับไปที่อู่เรือ

ตัดภาพมาที่อู่เรือ NBC เวลา 15:55 น. นายจ๊อบได้เดินทางมาถึงที่อู่เรือ จากนั้นเวลา 15.57 น. นายโรเบิร์ต ได้เดินทางมาถึงที่อู่เรือ

จากนั้นเวลา 16.45 น. กระติกและคุณแตงโมได้เดินทางมาถึงอู่เรือ ซึ่งตอนนี้ในอู่เรือมีสมาชิกมาทั้งหมด 5 คน แล้ว โดยแซนดี้ยังมาไม่ถึง

เวลา 16.40 น. GPSของเรือจับภาพเรือมุ่งหน้าไปที่ทางทิศเหนือโดยเวลา 17:00 น. มือถือของกระติกได้ถ่ายภาพคู่แตงโมไว้ เวลา 17.00 น. เรือได้ไปจอดเทียบท่าบางละไมเพื่อเติมน้ำมัน เรือปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิด มีทั้งหมด 5 คน ซึ่งไม่มีแซนดี้ ในเวลา 17.00 น. นายปอ ได้โอนเงินจ่ายค่าเติมน้ำมัน จากนั้นเรือก็ขับออกจากท่า เพื่อมุ่งหน้ากลับมาที่ท่าเรือ NBC

เวลา 17:00 น. ที่อู่เรือ NBC แซนดี้ได้เดินทางมาถึงและระหว่างคอยเรือกลับมารับ แซนดี้ได้เซลฟี่ภาพที่อู่เรือ NBC ขณะนั่งรอเรือกลับมารับ

เวลา 17.24 น. เรือได้กลับมาถึงอู่เรือ NBC และรับแซนดี้ขึ้นเรือ จากนั้นก็ออกจากอู่เรือมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ เวลา 17.46 น. มือถือของกระติกได้ถ่ายภาพนี้ และเมื่อมาถึงบริเวณนี้ เวลา 18.11 น. ได้ถ่ายภาพของคุณแตงโม ภาพนี้ไว้

เวลา 18.24 น. เรือได้มาจอดเทียบท่าร้านอาหารบ้านตานิด จ.ปทุมธานี และทั้ง 6 คนก็เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้าน และในเวลา 19.57 น. ก็เช็คบิลค่าอาหาร

จากนั้นเวลา 20.08 น. เรือก็ออกเดินทางออกจากร้านอาหาร มุ่งหน้าทางทิศใต้ เมื่อถึงเวลา 20.30 น. บริเวณนี้ ก็ได้ถ่ายภาพคุณแตงโม จากนั้นเมื่อถึงบริเวณนี้ เวลา 20.39 น. แซนดี้ได้ถ่ายภาพ จากนั้นเวลา 21.23 น. เรือได้ผ่านกล้องวงจรปิดของท่าเรือพระนั่งเกล้า จากนั้นเวลา 21.33 น. เรือได้ผ่านกล้องวงจรปิดของสะพานพระราม 5 จากนั้นเวลา 21.36 น. ได้ผ่านท่าเรือพิบูลสงคราม 1 

จากนั้น เวลา 21.54 น. เรือวิ่งผ่านกล้องวงจรปิดของท่าเรือเทเวศน์ 1  ซึ่งจุดนี้เกิดข้อสงสัยขึ้น โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า ในจังหวะนี้มีลักษณะคล้ายคนกระโดดหรือถูกโยนออกจากเรือ โดยมีการนำภาพดังกล่าวไปปรับแสงและสีเพื่อวิเคราะห์เพิ่มเติม และวิเคราะห์ไปถึงว่า รูปร่างดังกล่าวมีลักษณะคล้ายคน

เวลา 21.56 น.  เรือเดินทางมายังสะพานพระราม 8 กระติกและแตงโมถ่ายภาพไว้บริเวณหน้าเรือ ขณะเรือขับมุ่งหน้าไปยังสะพานพระราม 8 โดยมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ภาพถ่ายนี้ถูกแก้ไขเวลาการถ่ายภาพ เพราะแสงไฟสะพานที่จะปิดลงในช่วงเวลานั้น ซึ่งฝ่ายสืบสวนตรวจสอบตำแหน่งที่ถ่ายภาพนี้มุมกล้องและพื้นหลังของภาพสะพานพระราม 8

มีการทดสอบด้วยโทรศัพท์ชนิดเดียวกัน บริเวณเดียวกัน และปรับความสว่างให้เทียบเท่าความสว่างจริง พบว่าแสงไฟบนสะพานจะเป็นลักษณะเดียวกัน และเหตุผลสำคัญที่สุดที่ยืนยันว่าภาพนี้ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงข้อมูลเวลา เพราะ GPS ของเรือในวันที่เกิดเหตุ มีการเดินทางมาบริเวณนี้เพียงครั้งเดียว ไม่มีการเดินทางมาก่อนหรือหลังและจุดพิกัดกับเวลาที่ถ่ายภาพนี้ยังตรงกับจุดพิกัดและเวลาของ GPS เรือ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการแก้ไขเวลาของภาพนี้

เมื่อภาพดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นบริเวณนี้จริง ทำให้ยืนยันว่า บริเวณท่าเรือเทเวศน์ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีคนกระโดดหรือถูกโยนออกจากเรือในจังหวะก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แตงโมอย่างแน่นอน

เวลา 22.01 น.  เรือเดินทางมาถึงบริเวณนี้และได้มีการหยุดเรือและวกกลับ ในจังหวะนี้ กระติกได้ถ่ายภาพโรเบิร์ตไว้ ซึ่งภาพพื้นหลังสะพานจะเป็นอีกมุมหนึ่งของสะพานจากภาพเมื่อสักครู่ เกิดจากการถ่ายภาพคนละฝั่งของสะพาน

จากนั้น เรือวกกลับมาบริเวณนี้เวลา 22.06 น. ได้ถ่ายภาพกระติกไว้ โดยมุมของสะพานจะสอดคล้องแต่เป็นคนละมุมของภาพโรเบิร์ต เพราะอยู่คนละฝั่งของสะพาน โดยภาพนี้จะปรากฎภาพของแซนดี้นั่งอยู่บริเวณท้ายเรือ

เวลา 22.11 น.  ขณะเรือกำลังมุ่งหน้ากลับอู่เรือ NBC กระติกเลือกใช้บริการ U DRINK I Drive โดยให้มารับที่อู่เรือ NBC โดยพิกัดปลายทางส่งที่บ้านแตงโม

เวลา 22.18 น. เรือวิ่งผ่านกล้องวงจรปิดสะพานซังฮี้ ภาพนี้ปรากฎภาพแซนดี้นั่งอยู่บริเวณท้ายเรือ

เวลา 22.21 น.  เรือขับผ่านอาคารรัฐสภา แตงโมตอบแชตอินสตาแกรม

เวลา 22.32 น. เรือขับผ่านกล้องวงจรปิด โดยกล้องนี้เป็นกล้องที่มีคุณภาพไฟล์สูง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากกองพิสูจน์หลักฐานใช้โปรแกรมที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานใช้เป็นมาตรฐานในการตรวจพิสูจน์ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยใช้โปรแกรมนี้ปรับแสงภาพ ปรับความคมชัด ทำให้เห็นคนบนเรือจำนวน 6 คน โดยมีหนึ่งคนนั่งท้ายเรือ

เวลา 22.34 น.  กล้องวงจรปิดส่องเข้าแม่น้ำ บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 เห็นรายละเอียดที่สำคัญ โดยเรือวิ่งผ่านมาเวลา  22.33.51 น.  โดยให้สังเกตเรือวิ่งผ่านแสงเงาบริเวณนี้ จะเห็นว่ามีลักษณะเหมือนมีวัตถุบางอย่างอยู่บริเวณท้ายเรือ

เวลา 22.34 น. เรือแล่นผ่านแสงเงาไฟของท่าเรือพิบูลสงคราม 1 โดยสังเกตพบเป็นวัตถุลักษณะเหมือนจุดที่แล้ว

จากนั้น 6 วินาทีถัดมา จะสังเกตว่า มุมของเรือนั้นเปลี่ยนไป มีการหันท้ายเรือมาทางกล้องวงจรปิดมากขึ้น  ทำให้เห็นเงาของวัตถุดังกล่าว บังแสงไฟเรือในลักษณะนี้ ซึ่งเมื่อเทียบกับเรือจริงแล้ว แสงไฟของท้ายเรือจะอยู่ในแนวระดับนี้ และเมื่อเรือเคลื่อนต่อไป จนเมื่อเวลา 22.34.09 น. วัตถุดังกล่าวอยู่ในลักษณะนี้ จากนั้นวินาทีถัดมา วัตถุนี้ก็หายไป ซึ่งเป็นเวลา 22.34.10 น.

จากนั้นมีเงาของบุคคลหนึ่ง มีลักษณะเหมือนยืนขึ้น หลังจากนั้น 11 วินาทีถัดมา ความเร็วเรือของจีพีเอสลดลงและมีองศาการเลี้ยวกลับและกลับวนมาที่เดิม จากนั้นเรือเลี้ยวกลับวนผ่านบริเวณเดิมอีกครั้ง โดยจังหวะนี้เรือวิ่งผ่านกล้องบริเวณเดิม

ชุดสืบสวนนำมาเปรียบเทียบจากที่เรือผ่านคราวที่แล้ว เรือผ่านแสงเงาบริเวณเดิม เมื่อตรวจสอบกลับไม่พบเงาของวัตถุเหมือนรอบก่อน เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองเหตุการณ์  และจากมุมกล้องเดียวกัน เมื่อเรือหันท้ายเรือมาทางกล้องวงจรปิด จะไม่พบวัตถุในลักษณะเดิม

โดยแสงไฟที่ส่องเห็นนั้น เป็นแสงไฟที่ส่องจากเรือบริเวณนี้ ฉะนั้นวัตถุที่บังไฟดังกล่าวต้องอยู่ในระดับนั้น และจากมุมที่เห็นวัตถุดังกล่าว ยืนยันว่าไม่ใช่เครื่องยนต์ท้ายเรือ เพราะเครื่องยนต์ท้ายเรือต้องห่างจากเรือมาอีกระยะหนึ่ง ซึ่งในมุมดังกล่าวนั้นจะไม่เห็นเครื่องยนต์มาบังไฟในลักษณะนี้  และในบริเวณนี้ที่วัตถุดังกล่าวหายไป  อยู่ห่างจากจุดพบศพแตงโมเพียง 100 เมตร ประกอบกับ GPSเรือ มีการวนค้นหาทั่วบริเวณนี้ จึงเชื่อว่าแตงโมตกเรือในจังหวะนี้