วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามคดีของน.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม โดยเปิดเผยก่อนขึ้นไปพบอัยการจังหวัดนนทบุรีว่า วันนี้เดินทางมาปรึกษาท่านอัยการจังหวัดนนทบุรีในคดีที่ตนแจ้งความ “แซน” หรือ นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ เนื่องจากคดีของตนจะเป็นตัวแปรที่จะทำให้สามารถพลิกคดีได้ หากพิสูจน์ได้ว่าแซนให้การเท็จ จะทำให้ผลของคดีหลักมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็อยากปรึกษาท่านอัยการจังหวัดนนทบุรีว่าจะรอคดีตนได้หรือไม่เพราะยังมีเวลาอยู่ แต่ก็ต้องดูก่อนว่าท่านมีความเห็นว่าอย่างไร
โดยตนยังติดใจในประเด็นการตรวจแอลกอฮอล์และเลือดของแซน เพื่อหาสารเสพติด ทั้งๆที่สามารถบังคับตามกฎหมายมาตรา 131/1 แต่กลับละเว้นการปฎบัติหน้าที่ รวมถึงยังเจาะจงว่าสาเหตุเกิดจากใบพัดเรือ แต่ไม่โฟกัสเรื่องที่เปิดขวดไวน์ รวมถึงบาดแผลที่เพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนอะไรที่เชื่อว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่จะสามารถพลิกคดีได้นั้น นายอัจฉริยะ ยังระบุว่า หากแตงโมไม่ได้จับขาแซน และไม่ได้ตกท้ายเรือจริง ตรงนี้คือการให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่พนักงานดังนั้นโจทย์ที่ตำรวจตั้งไว้ว่า “แตงโมตกท้ายเรือ” ก็ไม่เป็นความจริง คดีนี้ก็ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ซึ่งสาเหตุที่ไม่ได้นำหลักฐานกับตำรวจภูธรภาค 1 มันยาก เราจึงมุ่งเน้นรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้อัยการจังหวัดนนทบุรี โดยเราเองก็มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนมาเป็นพยานในคดีหลักที่เราไปแจ้งความไว้ที่กองปราบฯ
เบื้องต้นวันนี้ไม่ได้ประสานอัยการจังหวัดนนทบุรีไว้ เพราะมาแวะมาปรึกษา ก่อนเดินทางไปขึ้นศาลที่ต่างจังหวัด ส่วนสิ่งที่ตนออกมาร้องส่งผลกระทบไปหลายส่วนหรือไม่นั้น ตนไม่คิดว่าจะไปกระทบใคร เพราะต้องการค้นหาความจริง และทำทุกวิถีทางที่จะทำได้ ตามกรอบกำลังที่มีและตนก็ไม่ได้มีอำนาจอะไร ได้แต่รวบรวมพยานหลักฐานมอบให้กับพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะมีความเห็นอย่างไร ก็ต้องไปว่ากันต่อที่ชั้นพนักงานอัยการ โดยตนยังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราจะนำหลักฐานทั้งหมดเข้าสู่สำนวนของพนักงานสอบสวน จะเป็นทางออกที่ทำให้มาคานอำนาจของทางตำรวจและพนักงานอัยการฯว่าให้รอความเห็นในคดีของเราที่มีการกล่าวหาแซนก่อน เพราะหากฟ้องไปแล้วและพิสูจน์ได้ จะทำให้คดีมีปัญหา
นายอัจฉริยะ ยังยืนอีกว่า ตนมีพยานสำคัญ เช่น นายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีพีเอสและภาพเงาต่างๆ ซึ่งมั่นใจว่าไม่ได้ตกท้ายเรือ พร้อมทั้งพยานหลักฐานอีกมากทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน
ส่วนประเด็นที่ “ทนายเดชา” ออกมาโพสต์ว่า หากออกมาเคลื่อนไหว จะมีหมายศาลจำนวนมาก เรื่องนี้ เชื่อว่า ตำรวจ หรือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเอง ไม่ทำตนแน่นอน เพราะตนทำงานเพื่อแผ่นดิน ไม่มีอะไรแอบแฝง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องแนวความคิดของตนและตำรวจที่ไม่ตรงกัน และตนก็พร้อมรับผิดชอบกับสิ่งที่ออกมา และปฎิบัติตามกฎหมาย โดยยืนยันว่า ไม่กังวลที่ได้นำหลักฐานมาเปิดเป็นหลักฐานที่ตำรวจไม่มี และสามารถพิสูจน์กับพนักงานอัยการฯได้ว่าเป็นเรื่องเท็จ จึงต้องการเอามาหักล้าง
ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ ยังเชื่อว่า ความเห็นในวันนี้ จะทันก่อนคำสั่งของอัยการฯที่สำนวนมีกรอบระยะเวลาถึง ผลัด โดยวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ จะนำหลักฐานที่มีทั้งหมดไปมอบให้กับชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ที่ สภ.พระประแดง ซึ่งก่อนในวันนั้นตนจะแถลงเปิดหลักฐานให้กับประชาชนได้ทราบก่อน เป็นหลักฐานที่พิสูจน์หลักฐานยินดีให้ความร่วมมือ ทั้งทรายตัวอย่างที่เก็บมา รวมถึงในช่วงสัปดาห์หน้าจะจำลองโดยใช้นักประดาน้ำที่มีกล้องถ่ายภาพลงในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อถ่ายภาพด้านล่างว่ามีทรายอยู่ตรงจุดที่พบศพหรือไม่ และพยานที่พบเห็นศพในคืนวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นพยานที่ตำรวจยังไม่เคยเอาเข้าสำนวนคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี