ตำรวจกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB รวบมือปืนพระกาฬ หยุดแผนสังหารว่าที่ผู้สมัครชิงนายก อบต.เมืองชาละวัน
วันนี้ (26 มิ.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) หรือ CIB มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม (บก.ป.) พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.สมเดชสาระบรรณ์ พ.ต.ท.อภิชน ขันกา พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์ พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร และ พ.ต.ท.รัฐวิรุฬห์ จันทสุบรรณ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายยุทธภูมิ อายุ 70 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพิจิตร ที่ 116/2568 ลงวันที่ 8 พ.ค.2568 ในความผิดต่อชีวิตฯ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนฯ จับกุมได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 6 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวนศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) โดยมี พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ตามนโยบายพิเศษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศนรด.ตร.) และ พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.สั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกกวาดล้างอิทธิพลเถื่อน แก๊งมาเฟีย และอาชญากรรมร้ายแรงทั่วประเทศ เพื่อปราบปรามกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง เพื่อสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยให้กับประชาชน
ต่อมาทางตำรวจ กก.1 บก.ป.ได้สืบสวนเกี่ยวกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง และรวบรวมผลการปฏิบัติในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีต่างๆ มีพฤติการณ์คดีที่เกี่ยวกับการจบกุมมือปืน หนึ่งในนั้นคือ นายยุทธภูมิ อายุ 70 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดพิจิตร โดยทางการข่าวพบเบาะแสว่า ผู้ต้องหาเตรียมวางแผนที่จะสังหารว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่ง นายก อบต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร และเมื่อตรวจสอบภูมิหลังพบว่า นายยุทธภูมิ เป็นชาว ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน เคยประกอบอาชีพขับรถโดยสารเส้นทางกรุงเทพฯ-แม่สาย แล้วลักลอบค้ายาเสพติด จนมีเงิน มีทรัพย์สินเป็นที่ดิน แล้วผันตัวมาเล่นการเมืองท้องถิ่น ร่วมกับเครือญาติ และพรรคพวก ต่อมาในปี 2540 ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในขณะลักลอบขนยาบ้าหลายแสนเม็ด คดีถูกพิจารณาในชั้นศาล ซึ่งพิพากษาสั่งจำคุกตลอดชีวิต ก่อนจะได้รับการลดโทษ และพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณปี 2560 นอกจากนี้ยังเคยตกเป็นผู้ต้องหาคดีลอบยิงผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ตะพานหิน จนเสียชีวิต แต่นายยุทธภูมิ ต่อสู้คดีจนหลุดพ้นจากความผิดมาได้
ส่วนข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่า นายยุทธภูมิ มีพฤติการณ์วางตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ใช้เงินที่ได้จากเครือข่ายยาเสพติด ผลักดันเครือญาติลงเล่นการเมืองท้องถิ่น และใช้อิทธิพลควบคุมพื้นที่เรื่อยมา รวมถึงเป็นคนที่มีนิสัยชอบระรานผู้อื่นหากไม่พอใจก็จะขู่ทำร้ายจนเป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว
กระทั่งช่วงประมาณต้นปี 2566 นายยุทธภูมิ เกิดมีปากเสียงกับนายวันชัย ในงานบวชที่วัดไผ่หลวง อ.ตะพานหิน แล้วพูดจาขู่อาฆาต ว่าจะยิงให้ตาย จนผ่านมาประมาณ 2 วัน ก็มีผู้พบศพนายวันชัย ถูกยิงเสียชีวิต อยู่ที่บริเวณทุ่งนา พื้นที่หมู่ 2 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน จากการสืบสวนของตำรวจ ทำให้ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายยุทธภูมิ ซึ่งใช้อาวุธปืนโคลท์ .38 ซูปเปอร์ สังหารผู้ตาย โดยช่วงแรกนายยุทธภูมิ พยายามซุกซ่อนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ และต่อสู้คดี ตามแผนประทุษกรรมที่เคยทำมาแล้วได้ผล แต่ครั้งนี้กลับไม่รอดพ้นจากการติดตามจับกุมตามปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เมื่อปี 2567 ซึ่งมีการตรวจค้นจับกุม และตรวจค้น พบอาวุธปืนที่ถูกซุกซอ่นไว้ในบ่อน้ำด้านหลังบ้าน และนายยุทธภูมิ ถูกดำเนินคดีและศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยนายยุทธภูมิ ได้ยื่นอุทธรณ์คดี และขอประกันตัวออกมา แต่ภายหลังเมื่อคิดว่าคงจะแพ้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ จึงหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษา จนศาลจังหวัดพิจิตร ออกหมายจับ ที่ 116/2568 ลงวันที่ 8 พ.ค.2568 ในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ ความผิดต่อชีวิตฯ นับแต่นั้น นายยุทธภูมิ ก็หลบหนีหมายจับเรื่อยมา
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่นายยุทธภูมิ หลบหนีคดี ปรากฏว่ามีผู้ที่จะลงสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน แข่งกับคนจากกลุ่มของนายยุทธภูมิ จึงมีการประกาศข่มขู่ว่าจะยิงผู้สมัคร หากไม่ยอมถอนตัวจากการสมัครชิงตำแหน่งดังกล่าว เมื่อชุดสืบสวนทราบข้อมูล จึงมีการวิเคราะห์และมีความเห็นว่า นายยุทธภูมิ จะลงมือตามแผนในอีกไม่นานอย่างแน่นอน ทางตำรวจ กก.1 บก.ป.จึงวางแผนสืบสวนเพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ เพื่อเป็นการป้องปรามก่อนเกิดเหตุ แต่การสืบสวนติดตามเป็นไปด้วยความยุ่งยาก เนื่องจากมีผู้มีอิทธิพลคอยให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี ซึ่งช่วงแรกผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยความช่วยเหลือของอดีตแกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดนพูโล เครือข่ายยาเสพติดที่เคยทำงานกับผู้ต้องหา จากนั้นได้หลบหนีเข้ามาพักในบริเวณภาคกลาง โดยความช่วยเหลือของอดีตเครือข่ายยาเสพติดและเครือญาติ โดยนายยุทธภูมิ มักจะมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง มีการเปลี่ยนที่พักไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ จากการสืบสวนเชิงลึกและติดตามแบบเกาะติดต่อเนื่องของตำรวจ กก.1 บก.ป.ทำให้พบแหล่งกบดานของผู้ต้องหาในพื้นที่ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรสาคร ออกหมายและเข้าจู่โจมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ในที่สุด สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลดข้อกล่าวหา จึงคุมตัวไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.โคกขาม จ.สมุทรสาคร ก่อนจะส่งศาลจังหวัดพิจิตร ดำเนินการตามขั้นตอนทางคดีต่อไป
015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี