วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีกระแสโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ถึงระเบียบกติกาที่โรงเรียนนำมาใช้กับนักเรียนบางเรื่องไม่มีความเหมาะสม ว่า วันนี้ตนก็ได้สื่อสารไปยังโรงเรียนทุกแห่งในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)อีกครั้งหนึ่งแล้ว และสพฐ.ยังยืนยันจะเปิดเรียนแบบออนไซต์ในวันที่ 17 พ.ค.นี้ แต่เปิดอย่างไรให้ปลอดภัย จึงมีคำถามต่อมาว่า เด็กปลอดภัย ครูปลอดภัยจะทำอย่างไร ดังนั้น โรงเรียนจะต้องทำความร่วมมือกับทั้งผู้ปกครอง เด็กและครู เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการทำงานแต่ละแห่ง ตนไม่คาดหวังว่าโรงเรียนทุกแห่งจะต้องมีกติกาเดียวกันทั้งหมด เพราะบริบทของแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น สพฐ.จึงได้สื่อสารไปว่า การที่ครูจะให้นักเรียนทำอะไรแค่ไหน เริ่มตั้งแต่เรื่องการแต่งกายจะแต่งอย่างไร เครื่องมืออุปกรณ์การเรียนการสอนจะแค่ไหน การมาโรงเรียนจะมีกติการ่วมกันอย่างไร ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนแต่ละแห่งต้องมีบทบาทหน้าที่โดยตรงที่จะกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และนำเข้าคณะกรรมการสถานศึกษาให้ความเห็นชอบ จากนั้นก็สื่อสารให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองทุกคนเข้าใจ
“ตอนนี้จะมาบอกว่าทำไมโรงเรียนนั้นทำอย่างนั้น โรงเรียนนี้ทำอย่างนั้น ก็คงจะไปเทียบกันไม่ได้ เพราะบริบทโรงเรียนเข้าต้องการแบบนั้น และชุมชนเขามีความพอใจแบบนั้น ซึ่งก็ถือว่าจบในแต่ละพื้นที่ไป ดังนั้น ผมคิดว่าถูกหรือผิด ใช่หรือไม่ใช่ อยู่ที่ระเบียบเราเปิดกว้างให้โรงเรียนเลือกสรรได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อตกลงร่วมกันของทุกฝ่าย ส่วนกรณีโรงเรียนอนุบาล จังหวัดกาญจนบุรี ที่กำหนดการแต่งกายของนักเรียนระดับชั้นปฐมวัย โดยหนึ่งสัปดาห์ให้นักเรียนแต่งทั้งชุดนักเรียน ชุดพละ ชุดทหาร และชุดอาเซียน นั้น ผมได้ติดตามข้อมูลซึ่งโดยกติกาที่โรงเรียนทำตัวอย่างให้กับผู้ปกครองดูว่าชุดแต่ละชุดจะมีลักษณะแบบนี้ ๆ โรงเรียนไม่ได้บอกว่าทุกคนต้องใส่ เพียงแต่ระเบียบที่กำหนดไว้เดิมเป็นแบบนี้ ส่วนใครไม่พร้อม โรงเรียนก็ยืดหยุ่นและมาทำข้อตกลงกับผู้ปกครองและนักเรียน ซึ่งโรงเรียนก็ออกมาอธิบายก็เข้าใจตรงกันแล้ว” นายอัมพร กล่าว
เลขาธิกาา กพฐ. กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีโรงเรียนใน อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ออกกฏเหล็กหักคะแนนพฤติกรรมของนักเรียนจนเป็นที่วิพากษ์วิจาณ์อย่างมากนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นระเบียบกติกา เพียงแต่เป็นการกำหนดกฏขึ้นมาของโรงเรียนเพื่อเป็นกรอบ เพื่อฝึกให้นักเรียนเกิดความรับผิดชอบ แต่ในภาพกว้างเหมือนเป็นการบังคับเด็กมากเกินไป ซึ่งตนก็ได้เสนอไปแล้วว่าทำอะไรก็ให้พอเหมาะพอควร และต้องถามผู้ปกครอง และนักเรียนก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่มีความพอใจกับกฎกติกานี้หรือไม่ หากตกลงกันแต่ต้นว่ามีความพอใจที่ต้องการให้มีระเบียบก็อยู่ในกติกาที่เขาตกลงกัน ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการสถานศึกษาต้องเข้ามาดูแล เพราะการกำหนดระเบียบกติกาแต่ละเรื่องเมื่อส่งผลกระทบโดยรวมโรงเรียนเป็นอำนาจของกรรมการสถานศึกษา แต่ต้องผ่านความเห็นชอบจาก 3 ฝ่าน คือ ครู นักเรียน ผู้ปกครองที่จะตกลงร่วมกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โรงเรียนออกแถลงการณ์! แจงดราม่าชุดทหาร ยันถามความสมัครใจผู้ปกครองแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี