นายประเสริฐศักดิ์ แสงสัทธา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 2 พิษณุโลก (สศท.2) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการบูรณาการจัดทำข้อมูลพยากรณ์เนื้อที่เพาะปลูกข้าวนาปี ปีเพาะปลูก 2565/66 ของ 6 จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ พิษณุโลก สุโขทัย แพร่ อุตรดิตถ์ น่าน และตาก โดยบูรณาการวิเคราะห์ข้อมูลจาก ผลการพยากรณ์ มีดังนี้
เนื้อที่เพาะปลูก คาดว่า จ.พิษณุโลก มีจำนวน 1,487,347 ไร่ ลดลงจากปี 2564/65 ร้อยละ 2.32 จ.สุโขทัย มีจำนวน 1,129,280 ไร่ ลดลงจากปี 2564/65 ร้อยละ 0.01 และ จ.แพร่ มีจำนวน 299,420 ไร่ ลดลงจากปี 2564/65 ร้อยละ 0.01 เนื่องจากเกษตรกรบางส่วนของ จ.พิษณุโลก ปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปทำเกษตรผสมผสาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เกษตรกรบางส่วนของ จ.สุโขทัย เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปรังล่าช้าจึงต้องปล่อยพื้นที่ว่างในฤดูเพาะปลูกข้าวนาปี เกษตรกรบางรายมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกมันสำปะหลัง และบางรายก็มีการปรับเปลี่ยนไปปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ในขณะที่ จ.อุตรดิตถ์ มีจำนวน 599,645 ไร่ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2564/65 ร้อยละ 0.57 จ.น่าน มีจำนวน 336,747 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2564/65 ร้อยละ 2.16 เนื่องจากเกษตรกรคาดการณ์ว่าจะมีน้ำปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมา ครอบคลุมพื้นที่ปลูกข้าวนาปีมากขึ้น และน่าจะมีเพียงพอตลอดรอบการผลิต ปรับเปลี่ยนมาปลูกข้าวในพื้นที่นาที่เคยปล่อยว่าง รวมทั้งมีแรงจูงใจจากมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว อาทิ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 ส่วน จ.ตาก มีจำนวน 383,170 ไร่ เท่ากับปีที่ผ่านมา
สำหรับผลผลิตต่อไร่ คาดว่า จ.พิษณุโลก มีจำนวน 597 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2564/65 ร้อยละ 1.85 และ จ.สุโขทัย มีจำนวน 550 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2564/65 ร้อยละ 8.35 ส่วนผลผลิตต่อไร่ของทั้ง 4 จังหวัด ที่มีผลผลิตเท่ากับปีที่ผ่านมา ได้แก่ จ.อุตรดิตถ์ มีจำนวน 593 กิโลกรัม/ไร่ จ.แพร่ มีจำนวน 578 กิโลกรัม/ไร่ จ.น่าน มีจำนวน 511 กิโลกรัม/ไร่ และ จ.ตาก มีจำนวน 415 กิโลกรัม/ไร่ เนื่องจากคาดว่ายังคงมีปริมาณน้ำเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงแตกกอและออกรวงเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
ด้านปริมาณผลผลิตที่จะออกสู่ตลาด จ.พิษณุโลก คาดว่าผลผลิตจะเริ่มออกสู่ตลาดช่วงเดือน ก.ค. 2565 – ม.ค. 2566 จำนวน 887,946 ตัน จ.สุโขทัย ช่วงเดือนก.ค. 2565 – ก.พ. 2566 จำนวน 621,104 ตัน จ.อุตรดิตถ์ ช่วงเดือน ส.ค. 2565 – ม.ค. 2566 จำนวน 355,589 ตัน ผลผลิตของทั้ง 3 จังหวัด จะเริ่มมีปริมาณมากช่วงเดือนต.ค. 2565 และกระจุกตัวเดือนพ.ย. 2565 ส่วนจังหวัดแพร่ ตาก น่าน และอุตรดิตถ์ มีช่วงระยะเวลาที่ผลผลิตออกสู่ตลาดสั้นกว่าจังหวัดอื่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี