ที่แท้โอละพ่อ!สาว23บุรีรัมย์ โร่แจ้ง ตร.ถูก 2 โจรไอ้โม่งถีบ จยย.ล้มชิงเงิน 4 หมื่น ยอมเปิดปากสารภาพปั้นเรื่องโกหก โดนแจ้ง 3 ข้อหา นำตัวส่งฝากขังศาล
13 พฤษภาคม 2565 ความคืบหน้ากรณี น.ส.อรทัย (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความที่ สภ.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น.วันที่ 9 พ.ค.65 ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ (จยย.) กลับจากทำธุระในตัว อ.นางรอง มาตามถนนสายนางรอง-ละหานทราย พอถึงช่วงระหว่างบ้านโคกสำราญ-คลองต้อ ต.ถาวร มีรถจักรยานยนต์ซึ่งมีชายขับขี่ซ้อนกันมา 2 คนสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าตามประกบ แล้วใช้เท้าถีบที่บริเวณเอวจนทำให้รถของตนเองเสียหลักล้มไถลตกข้างทาง ส่วนตัวเองสลบ รู้สึกตัวอีกทีพบว่ากระเป๋าสะพายสีขาวที่ใส่เงินซึ่งเพิ่งไปกู้มา 40,000 บาท เพื่อจะเอาไปใช้หนี้หายไปแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดหลังรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ถาวร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ สอบปากคำพยานแวดล้อม และไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกชิงทรัพย์ โดยคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ โดยเฉพาะกล้องบริเวณแยกโรงโม่หิน บ้านโคกสำราญ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ช่วงใกล้เวลาที่เกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสในการติดตามตัวคนร้าย แต่พบเพียงรถจักรยานยนต์ของผู้ประสบเหตุขับผ่านเท่านั้น ไม่มีรถจักรยานยนต์คันอื่นขับตามเลย พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการสอบปากคำ น.ส.อรทัย อย่างละเอียดอีกครั้ง
จนกระทั่ง น.ส.อรทัย ยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ไม่ได้ถูกคนร้ายถีบรถจักรยานยนต์ล้มและชิงเงิน 4 หมื่นบาทแต่อย่างใด แค่สร้างเรื่องโกหก เพราะหาเงินไปใช้หนี้ไม่ทัน
ต่อมาวันนี้ พนักงานสอบสวนได้เรียก น.ส.อรทัย มารับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นถูกแจ้ง 3 ข้อหา คือ “แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานอันอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย , แจ้งความเท็จอันเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเพื่อให้พนักงานสอบสวนหรือ พนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เชื่อว่าได้มีความผิดอาญาอย่างใดเกิดขึ้น หรือเชื่อว่าความผิดที่เกิดขึ้นร้ายแรงกว่าที่เป็นจริง” ก่อนนำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดนางรอง
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.อรทัย ถึงเหตุจูงใจที่สร้างเรื่องโกหก แต่เจ้าตัวไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ บอกแค่ว่าไม่สะดวกจะให้ข้อมูลอะไร
ขณะที่ชาวบ้านบ้านโคกสำราญ กล่าวว่า พอรู้ความจริงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องโอละพ่อ ก็รู้สึกรับไม่ได้ เพราะเสียชื่อหมู่บ้าน และทำให้คนในหมู่บ้าน ผู้ที่สัญจรไปมาหวาดกลัว ทั้งๆที่ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในหมู่บ้าน ที่สำคัญก็ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเสียเวลา เพราะต้องลงพื้นที่ไปหาข้อมูลเบาะแส ไล่กล้องวงจรปิดเพื่อเป็นหลักฐานติดตามตัวคนร้าย แต่สุดท้ายกลับเป็นเรื่องโกหก
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี