ต่างด้าวยังทะลัก
ตร.สกัดจับ5กระบะ
ลอบขน89เมียนมา
จ่ายหัวคนละ2หมื่น
ตำรวจทางหลวงชัยนาท สกัดจับ 5 กระบะลอบขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา 89 คน สารภาพจ่ายนายหน้าหัวละ2 หมื่น
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. , พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) และ พ.ต.ต.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี) บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.2 บก.ทล.โดยใช้กำลังจาก ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.(กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี) นำโดย พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.,ตม.จว.ชัยนาท และตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท ร่วมกันจับกุม1.นายพงษ์พัฒน์ อายุ 31 ปี 2.นายธีธัต อายุ 25 ปี 3.นายซ่ง อายุ 40 ปี 4.นายสุชาติ อายุ 32 ปี และ5.นายธงชัย อายุ 22 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะ 5 คัน
พร้อมคนงานแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 89 คน โดยสามารถจับกุมได้ที่ถนนทางหลวงหมายเลข 4054 กม.33 (ริมถนนหน้าวัดศรีนวล) ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท
พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา สืบทราบว่าขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวดังกล่าว น่าจะใช้เส้นทางสายรองลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ทางหลวงออกตรวจอยู่ พบรถกระบะต้องสงสัย 5 คันขับผ่านมา จึงเรียกให้หยุดและพบแรงงานต่างด้าวนั่งอยู่ในแคปและหลังกระบะนับได้ 89คน ทุกคนเดินทางเข้ามาจากทาง จ.ตาก โดยเสียค่านายหน้าคนละ20,000 บาท
ส่วนคนขับรถรับสารภาพว่าจะนำคนงานต่างด้าวเข้าไปที่กรุงเทพฯ โดยได้ค่าจ้างขับรถ 15,000 บาท ซึ่งในแต่ล่ะครั้งผู้กระทำผิดจะมีวิธีดัดแปลงและสลับรถขนแรงงานต่างด้าวเถื่อนหลบหนีกันมาโดยตลอด
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การอำนวยความสะดวกให้แรงงานต่างชาติกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับกระทรวงแรงงานให้เตรียมพร้อมแนวทางการดูแลแรงงานและดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรการด้านสาธารณสุขในการเดินทางเข้าประเทศไทย
โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 กระทรวงแรงงาน ได้นำแรงงานสัญชาติเมียนมา จำนวน 287 คน กลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยตามข้อตกลงความร่วมมือด้านแรงงาน (MOU) กลับเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศ ผ่านเส้นทางย่างกุ้ง-เมียวดี-แม่สอด ซึ่งนับเป็นแรงงานเมียนมากลุ่มแรกที่เข้ามาทำงานหลัง ศบค. มีมติผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 และในวันที่ 11 พ.ค. 2565 ก็ได้นำแรงงานสัญชาติเมียนมากลุ่มที่ 2 จำนวน 301 คน เดินทางตามเข้ามาทางด่านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก รวมเป็นแรงงานสัญชาติเมียนมาที่นำกลับเข้ามาทำงานทั้งสิ้น 588 ราย
นายธนกร กล่าวว่า นายกฯ กำชับให้กระทรวงแรงงานเตรียมความพร้อม และวางแนวทางการนำแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานในไทยให้สอดคล้องกับมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงแรงงานได้กำหนดไว้ว่า ก่อนเดินทางเข้าไทย แรงงานต้องแสดงเอกสารหลักฐานที่ยืนยันหรือแสดงว่ามีนายจ้างหรือผู้รับอนุญาตให้นำแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงาน ซึ่งได้รับการรับรองโดยกระทรวงแรงงานว่าเป็นผู้รับแรงงานเข้ามาทำงานในราชอาณาจักร พร้อมแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนโควิด-19 กรมธรรม์ที่คุ้มครองการรักษาโรคโควิด-19 ครอบคลุมความคุ้มครอง ในวงเงินไม่น้อยกว่า 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในกรณีรับวัคซีนครบโดส ให้นายจ้างแจ้ง วัน เวลาเดินทางที่ศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้างล่วงหน้า ส่วนกรณีรับวัคซีนไม่ครบโดส และไม่มีผลตรวจ RT – PCR ใน 72 ชั่วโมง แจ้งกำหนดวันเดินทางเข้ามาในประเทศ หลักฐานการยืนยันว่ามีสถานที่กักตัว (อย่างน้อย 5 วัน)
สำหรับแนวทางการเดินทางเข้าไทย แรงงานสามารถเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ 3 ช่องทาง ประกอบด้วย ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยหากรับวัคซีนครบโดส หรือฉีดวัคซีนไม่ครบแต่มีผลตรวจ RT – PCR ใน 72 ชั่วโมง ไม่ต้องกักตัว สามารถรับการตรวจเอกสารหลักฐาน ตรวจลงตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยจะต้องตรวจสุขภาพ 6 โรค ตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยใช้ชุดตรวจ ATK ซึ่งดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ บุคลากรทางการแพทย์ หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หลังจากนั้น หากไม่พบเชื้อ แรงงาน 3 สัญชาติ จะเข้ารับการอบรม ณ ศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้าง รับใบอนุญาตทำงานจากสำนักงานจัดหางานจังหวัด และเข้าทำงานในสถานประกอบการได้ ส่วนกรณีพบเชื้อ ถ้าไม่มีอาการ หรือกลุ่มสีเขียวให้กักตัวที่สถานกักตัวแบบ Organizational Quarantine (OQ) หากมีอาการกลุ่มสีเหลือง หรือสีแดง ให้กรมธรรม์ประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจหรือรักษา หากมีส่วนที่ไม่ครอบคลุมนายจ้างจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
“นายกฯ เข้าใจข้อจำกัด และความต้องการของนายจ้าง สถานประกอบการ และภาคอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้แรงงานในการดำเนินธุรกิจ รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงาน จึงมุ่งมั่นที่จะนำแรงงานต่างชาติกลับเข้ามาทำงานให้ได้โดยเร็ว เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้าแรงงานของนายจ้างและสถานประกอบการ ทั้งนี้ นายกฯ ห่วงใย และเพื่อควบคุมสถานการณ์เพื่อความปลอดภัยของคนไทย ได้กำชับกระทรวงแรงงานให้เตรียมแนวทางการดูแลแรงงาน และดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรการด้านสาธารณสุข พร้อมขอความร่วมมือนายจ้างและสถานประกอบการให้คำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของไทย ลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด โดยไม่จ้างแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย” นายธนกร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี