ดร.กัญจนีย์ พุทธิเมธี อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวถึง “เซฟติสท์ ฟาร์ม (SAFETist Farm)”ว่ามีที่มาจากที่ตนเองและทีมวิจัย ภายใต้โครงการ Green Thonburiได้เข้าไปสนับสนุน “เซฟติสท์ ฟาร์ม(SAFETist Farm)” ซึ่งเกิดจากความฝันและความมุ่งมั่นของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงพื้นที่กว่า 2 ไร่เศษริมคลองบางมด จากที่เคยปลูกส้มแล้วถูกทิ้งร้าง ให้กลายเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ปลอดภัยสำหรับคนในกลุ่มเมื่อสองปีก่อน
คุณวิไลวรรณ ประทุมวงศ์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง SAFETist Farm กล่าวว่า ตนเองและเพื่อนๆ ต้องการมีพื้นที่สำหรับผลิตอาหารที่ปลอดภัยไว้รับประทานเองจึงมาเช่าสวนส้มบางมดร้างแปลงนี้และพัฒนาเป็นฟาร์มกสิกรรมขึ้น โดยนำความรู้ต่างๆ มาช่วยกันพลิกฟื้นสภาพพื้นที่ที่เป็นดินเค็ม ให้เป็นแปลงเกษตรปลอดสาร จนสามารถปลูกผักปลอดภัยไร้สารเคมีนำมาแบ่งปันให้กับสมาชิกภายในกลุ่มไว้รับประทานกันได้ และเมื่อโครงการ Green Thonburi เลือกฟาร์มแห่งนี้เป็นต้นแบบของเศรษฐกิจสีเขียวในพื้นที่ทุ่งครุ จึงใช้ความรู้ที่ได้จากการปลูกเพื่อบริโภคมาต่อยอดเป็นการสร้างรายได้ภายใต้ชื่อ “ครอบครัวตะกร้าผัก” โดยนำผักและผลิตผลที่เก็บได้ในฟาร์มมาจัดเป็นชุดตะกร้าผักสด และจัดส่งถึงบ้านครอบครัวที่สมัครเป็นสมาชิกครอบครัวตะกร้าผักโดยตรงโดยไม่ต้องผ่านคนกลางสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ปัจจุบันเรามีสมาชิกครอบครัวตะกร้าผัก 30 กว่าราย ทำให้ฟาร์มมีรายได้เพียงพอจะดูแลสมาชิกที่อยู่ประจำในฟาร์มได้แล้วก้าวต่อไปก็คือการขยายสมาชิกเป็น 100 ครอบครัว ในสิ้นปีนี้ พร้อมกับการเชิญชวนคนในชุมชนและพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ที่สนใจจะปลูกผักขาย ได้เข้ามาเรียนรู้แลกเปลี่ยนเทคนิคการปลูกผักในพื้นที่ดินเค็มและน้ำกร่อย เพื่อขยายเครือข่ายปลูกผักให้มีผลผลิตที่หลากหลายและเพียงพอตลอดปี”คุณวิไลวรรณ ให้ข้อมูล
นอกจากปัจจุบันเป็นพื้นที่เกษตรที่มีรายได้จากทั้งผัก ไข่ไก่ ไข่เป็ด สมุนไพรรวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ เช่น สบู่ น้ำยาล้างจาน ฯลฯ แล้ว SAFETist Farmยังเป็นแหล่งเรียนรู้นิเวศวิถีริมคลอง และเป็นสถานที่ฝึกอบรมให้ความรู้กับคนในชุมชนและเกษตรกรที่สนใจ หนึ่งในนั้นคือ ชุมชนใต้สะพาน ประชาอุทิศ 76 เขตทุ่งครุ ซึ่งเป็นชุมชนที่มีรายได้ต่อครัวเรือน3,000-6,500 บาทต่อเดือน คนในชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพคัดแยกขยะขายของเก่า และรับจ้างทั่วไป โดยใช้ชื่อ“โครงการพัฒนาอาชีพสร้างแหล่งอาหารปลอดภัยอย่างยั่งยืน” จัดโดยศูนย์อาสาสร้างสุข ในนามสยามอารยะ ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โดยทีมงาน SAFETist Farmต้องการนำความรู้ด้านการเกษตรจากฟาร์ม มาถ่ายทอดให้คนในชุมชน และเกิดการปฏิบัติได้จริง เพื่อเป็นรายได้เสริมของแต่ละครอบครัว ผ่านกิจกรรมอบรมที่มีให้เลือก 3 อาชีพ คือ “อาชีพเลี้ยงไส้เดือน” “อาชีพเพาะต้นอ่อน” และ “อาชีพปลูกผักกระถาง”
คุณอรอุมา สาดีน ผู้จัดการSAFETist Farm ให้ข้อมูลว่า นอกจากคนในชุมชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เทคนิคและวิธีการ รวมถึงวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่สามารถนำไปทำได้จริงที่บ้านของตนเองแล้ว จะมีการ “ประกันการรับซื้อ” ผลผลิตในช่วงแรก เช่น รับซื้อยอดทานตะวันอ่อนในราคาขีดละ 15 บาท (150 บาท/กก.) รับซื้อมูลไส้เดือนกิโลกรัมละ 10 บาท ซึ่งเป็นแรงจูงใจแรกที่ทำให้คนในชุมชนเกิดความสนใจและมีการอบรมไปแล้วกว่า 50 คน
“ทั้งหมดนี้ คือการตอบโจทย์ของโครงการ Green Thonburi ที่ต้องการให้โมเดลเศรษฐกิจสีเขียว ของ SAFETist Farm เป็นต้นแบบของธุรกิจสีเขียวที่นอกจากสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้แล้ว ยังเป็นตัวอย่างของการใช้เศรษฐกิจสีเขียวมาเป็นแนวทางขับเคลื่อนการรักษาพื้นที่สีเขียว และเป็นแนวทางที่ช่วยให้เกิดการใช้ประโยชน์จากพื้นที่รกร้างด้วยปัญหาดินเค็มในเขตทุ่งครุและพื้นที่ใกล้เคียงให้กลับมาเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่มีประโยชน์” คุณอรอุมากล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี