น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า “นม” เป็น 1 ใน 4 สินค้านำร่องที่รัฐบาลได้วางเป้าหมายในการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด ตั้งแต่การพัฒนาเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกให้ผลิตสินค้าได้ตรงตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศร่วมกับสินค้าอีก 3 ชนิด คือข้าว ทุเรียน และกุ้งขาว กระทรวงเกษตรฯ ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ให้เป็นรูปธรรม โดยมอบหมายองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต โดยเร่งหาแนวทางในการผนึกความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหาช่องทางตลาดในการสร้างความเข้มแข็งทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น จากปัจจุบันครองตลาดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มาอย่างยาวนานอยู่แล้ว เพราะเป็นการช่วยยกระดับโคนมซึ่งเป็นอาชีพพระราชทานของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย ให้มีรายได้มั่นคง ยั่งยืนอีกทางหนึ่ง
ด้านนายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการ อ.ส.ค.กล่าวว่า ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือ(MOU) กับองค์การคลังสินค้า (อ.ค.ส.)มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือ หาแนวทางในการพัฒนาเพื่อให้สอดรับแนวนโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” เพื่อส่งเสริม ศึกษา พัฒนาและสนับสนุนการใช้ประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยนำผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในหน่วยงานออกจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศ กำหนดแนวทางและถ่ายทอดความรู้ด้านการผลิตอาหารสัตว์รวมถึงการจัดหาและการบริหารจัดการวัตถุดิบด้านอาหารเลี้ยงสัตว์ เพื่อเป็นการลดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมในอนาคต
“ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อ.ส.ค.ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น โดยหันมาบุกตลาดออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์Application Shopee และ Lazada เพื่อลดช่องว่างระหว่างผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค กับผู้บริโภค ให้สามารถซื้อสินค้าได้อย่างสะดวก คล่องตัวมากขึ้น พร้อมทั้งอัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านช่องทางดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง การลงนาม MOU ระหว่าง อ.ส.ค. กับ อ.ค.ส.ในครั้งนี้จึงถือเป็นอีกมิติสำคัญในการเพิ่มช่องทางตลาดใหม่ๆ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะทำให้ อ.ส.ค.มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์มากขึ้นจากปัจจุบันมีรายได้อยู่ประมาณ 9,500-10,000 ล้าน/ปี” นายสมพร กล่าว