วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
สธ.ไล่เรียงสถานการณ์‘ฝีดาษลิง’ แจงที่มายกระดับเฝ้าระวัง-เคลียร์ชัด‘ปลูกฝี’ใหม่หรือไม่

สธ.ไล่เรียงสถานการณ์‘ฝีดาษลิง’ แจงที่มายกระดับเฝ้าระวัง-เคลียร์ชัด‘ปลูกฝี’ใหม่หรือไม่

วันจันทร์ ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 16.41 น.
Tag : กรมควบคุมโรค ปลูกฝี ฝีดาษลิง ไวรัส สธ. สัตว์สู่คน
  •  

สธ.ไล่เรียงสถานการณ์‘ฝีดาษลิง’ แจงที่มายกระดับเฝ้าระวัง-เคลียร์ชัด‘ปลูกฝี’ใหม่หรือไม่

23 พฤษภาคม 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค (คร.) กรัทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (EOC) กรณีโรคฝีดาษลิง (monkey pox) ว่า กรมได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้น เพื่อเฝ้าระวัง คัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่มีการระบาด ช่วยให้ตรวจจับกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็วขึ้น และป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศ หลังพบการแพร่ระบาดในหลายประเทศ และสามารถติดต่อจากคนสู่คน


“ไทยต้องรีบยกระดับศูนย์ขึ้นมา เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถรับมือได้ทัน เพราะโรคนี้ยังไม่มียาเฉพาะรักษา ต้องรักษาประคับประคอง แม้ว่าในประเทศยังไม่มีผู้ติดเชื้อนี้และประเทศไทยก็ไม่เคยเจอโรคนี้มาก่อน รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ฯเป็นระดับกรมเพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในต่างประเทศก่อนว่าแต่ละประเทศมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมที่พอจะบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศนั้นๆที่กำลังมีการระบาด มีการแพร่ระบาดถึงระดับไหน ซึ่งข้อมูลคงจะทยอยเข้ามา” นพ.จักรรัฐ กล่าว  

นพ.จักรรัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับการเฝ้าระวังโรคภายในประเทศ คือ คนที่เดินทางเข้าประเทศ ซึ่งที่ด่านที่สนามบินต่างๆอาจจะไม่เห็นอาการ เพราะตอนเริ่มต้นอาการอาจจะน้อยหรือไม่มีอาการ แต่เมื่อมาถึงประเทศไทย เกิดตุ่มหนอง ตุ่มน้ำ จะเน้นเฝ้าระวังในประเทศที่มีความเสี่ยงสูงทั้งประเทศแอฟริกากลาง เช่น ไนจีเรีย และคองโก และประเทศในยุโรปที่มีการแพร่ระบาดภายในประเทศแล้ว คือ อังกฤษ สเปน โปรตุเกส โดยที่สนามบินจะมีการคัดกรองอาการในผู้เดินทางมากับไฟลท์บินจากประเทศเหล่านี้ ดูว่ามีแผลหรืออะไรหรือไม่แบบเดินผ่านๆ และแจกบัตรเตือนสุขภาพ(Health beware card) เป็นคิวอาร์โค้ดให้สแกนทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศดังกล่าว ซึ่งหลักๆจะระบุว่าหากมีอาการ เช่น ไข้ มีตุ่มให้รายงานเข้าระบบและรีบไปพบแพทย์ในรพ.ที่ใกล้ที่สุด รวมถึง แจ้งประวัติการเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย

“นอกจากนี้จะมีการเฝ้าระวังที่สถานพยาบาล หากพบผู้ป่วยที่เข้าข่ายสงสัย คือ มีอาการเข้าได้กับโรคและมีประวัติเดินทางจากประเทศเสี่ยงที่กำลังมีโรคนี้ระบาดข้างต้น ให้สถานพยาบาลเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจหาเชื้อ ซึ่งประเทศไทยสามารถตรวจเชื้อนี้ได้ แต่ยังทำได้ที่ส่วนกลางคือกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และรายงานเข้าระบบการเฝ้าระวัง หากมีผู้ติดเชื้อเข้าในประเทศไทย อาจจะต้องมีกระจายให้ศูนย์ในต่างจังหวัดช่วยตรวจ” นพ.จักรรัฐ กล่าว 

เมื่อถามว่าจะต้องมีการปลูกฝีป้องกันฝีดาษใหม่หรือไม่ นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า ยัง เพราะตอนนี้ทั่วโลกยังไม่มีวัคซีน smallpox มากขนาดนั้นแล้ว เพราะเป็นโรคที่ถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว จะมีเพียงบางประเทศที่ยังเก็บวัคซีนนี้ไว้ ในประเทศไทยไม่มี กำลังมีการประสานงานหาวัคซีนอยู่ว่ามีประเทศใดเก็บไว้บ้าง หรือถ้าจะผลิตเพิ่มก็ต้องดูว่ามีบริษัทใดจะผลิตเพิ่มได้บ้าง เพราะคงต้องใช้เชื้อ ซึ่งเชื้อ smallpox เดิมมีแค่ 2 ประเทศที่เก็บไว้ คือ สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย แต่สามารถจำลองสายพันธุ์ออกมาทำวัคซีนได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวจริง ทั้งนี้คนไทยที่เกิดก่อนปี 2523 จะได้รับการปลูกฝีป้องกันฝีดาษ (smallpox) ทุกคน แต่ที่เกิดหลังจากปี 2523 จะไม่ได้รับวัคซีนนี้เพราะโรคฝีดาษถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์ฯได้ตั้งห้องปฏิบัติการ(แล็บ) เพื่อตรวจหาเชื้อโรคฝีดาษลิงในผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อแล้ว หากผู้ที่มีผื่น ตุ่มหนองตามร่างกาย ทางสถานพยาบาลก็สามารถสวอป (Swab) เชื้อบริเวณแผล ส่งตรวจ RT-PCR ได้ที่แล็บซึ่งมีน้ำยาตรวจเฉพาะ และใช้เวลารอผลเหมือนกับการตรวจโควิด-19

ขณะที่ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า หากเชื้อนี้เข้ามาในประเทศไทย ไม่ต้องกังวล ไทยมีศักยภาพในการตรวจหาเชื้อนี้ อย่างของศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ  จุฬาฯ สามารถตรวจไวรัสจากฝีดาษลิงได้ โดยใช้ระยะเวลา 1-2 วัน เนื่องจากต้องตรวจทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งการตรวจหาเชื้อได้เร็ว และการกักตัวกลุ่มเสี่ยงได้ย่อมช่วยป้องกันการแพร่ระบาดได้ เพราะโรคนี้ไม่มียารักษา อย่างประเทศที่มีการพัฒนาทางการแพทย์ อัตราเสียชีวิตมีน้อยกว่า 1% 

“ส่วนกลุ่มเสี่ยงยังต้องระวังในเด็กและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ส่วนผู้สูงอายุเคยได้มีการปลูกฝี หรือรับวัคซีนฝีดาษไปก่อนหน้านี้  ยังไม่มีใครตอบได้ว่า ภูมิคุ้มกันจะยังคงอยู่หรือไม่” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

ขอบคุณข้อมูล https://www.hfocus.org/

-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กรมควบคุมโรคเผย ปี 68 ติดเชื้อ HIV พุ่งทะลุครึ่งล้าน ป่วยรายใหม่กว่า 1.3 หมื่น กรมควบคุมโรคเผย ปี 68 ติดเชื้อ HIV พุ่งทะลุครึ่งล้าน ป่วยรายใหม่กว่า 1.3 หมื่น
  • โควิดติดเชื้อพุ่ง หมอจุฬาชี้น่าเป็นห่วง สธ.ยันพร้อมรับมือได้ โควิดติดเชื้อพุ่ง หมอจุฬาชี้น่าเป็นห่วง สธ.ยันพร้อมรับมือได้
  • ‘สมศักดิ์’สั่งเฝ้าระวังโรค‘แอนแทรกซ์’เข้มข้น ยับยั้งการแพร่ระบาด ‘สมศักดิ์’สั่งเฝ้าระวังโรค‘แอนแทรกซ์’เข้มข้น ยับยั้งการแพร่ระบาด
  • \'สสส.-สธ.\'ชวนคนไทย\'นับคาร์บ\'ง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน ตัวช่วยกระตุ้นลดเสี่ยงโรค NCDs 'สสส.-สธ.'ชวนคนไทย'นับคาร์บ'ง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน ตัวช่วยกระตุ้นลดเสี่ยงโรค NCDs
  • ‘สธ.’เดินหน้ายุติ‘วัณโรค’ ตั้งเป้าปี78 ลดอัตราการตายร้อยละ 95 ลดผู้ป่วยรายใหม่ร้อยละ 90 ‘สธ.’เดินหน้ายุติ‘วัณโรค’ ตั้งเป้าปี78 ลดอัตราการตายร้อยละ 95 ลดผู้ป่วยรายใหม่ร้อยละ 90
  • ‘สธ.-ทส.’หนุนปลูก‘สมุนไพร’พื้นที่อนุรักษ์ ‘อภัยภูเบศร’ชูโมเดลชุมชนเกษตรอินทรีย์ ‘สธ.-ทส.’หนุนปลูก‘สมุนไพร’พื้นที่อนุรักษ์ ‘อภัยภูเบศร’ชูโมเดลชุมชนเกษตรอินทรีย์
  •  

Breaking News

รบ.คิกออฟ ‘WebD’แพลตฟอร์ม AI สกัดเว็บผิดกฎหมาย กวาดล้างเพิ่มกว่า 70% ทำงานได้เร็วกว่าเจ้าหน้าที่ถึง 31.5 เท่า

‘นฤมล’สั่ง'สพฐ.-สพท.'สอบข้อเท็จจริง ‘ครูเมืองกาญจน์’ขอความเป็นธรรม หลังถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิด

เอื้อประโยชน์หรือไม่? รถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย ระวังอย่าแถมเงินให้นายทุน

'สวนดุสิตโพล'เผยชุมนุมการเมือง คนไทยคาดหวังอยากให้รัฐบาลลาออก ไม่เห็นด้วยรัฐประหาร

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved