"สมศักดิ์"ควง"จุติ"นั่งสามล้อลุยพิษณุโลก ไกล่เกลี่ยหนี้ ประเดิมครั้งแรกภาคเหนือตอนล่าง ยันรัฐบาลพยายามสร้างอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้ประชาชน ลุงน้ำตาคลอได้แก้หนี้หลังกู้ซื้อรถแล้วถูกขโมย
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 ที่โรงแรมดิอิมพีเรียล โฮเทลแอนด์คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จ.พิษณุโลก มีการจัดงานขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติดและนิทรรศการพืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขารมว.ยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายก อบจ.พิษณุโลก พร้อมข้าราชการ เจ้าหน้าที่และประชาชนร่วมงาน โดยก่อนเข้างานมีการคัดกรองโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อไม่ให้ลูกหลานของเราเข้าไปยุ่งเกี่ยว และทำให้หมดไปจากสังคม เป้าหมายหลักของเรา คือ การยึดทรัพย์ ขยายผลจับกุมทั้งเครือข่าย ซึ่งวันนี้เราได้นำทรัพย์สินของผู้ค้ายาเสพติดที่เราจับกุมและยึดได้ มาประมูลในปีนี้ ทาง ป.ป.ส.ได้จัดการขายมาแล้วจำนวน 1,900 รายการ มูลค่าการขายกว่า 89 ล้านบาท ซึ่งการประมูลในวันนี้ถือเป็นครั้งที่ 26 มีทรัพย์ที่จะขายทอดตลาดทั้งหมด 159 รายการ ไฮไลท์จะมี ทองรูปพรรณ รถยนต์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 73 ล้านบาท และเงินที่ได้มาจะใช้สนับสนุน เป็นเงินรางวัลต่อผู้แจ้งเบาะแสหรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และใช้สนับสนุน ช่วยเหลือในการปฏิบัติภารกิจการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีต่อๆ ไป ทรัพย์เหล่านี้จะต้องมากขึ้น เพราะรัฐบาลยืนยันว่าจะเอาจริงกับพวกเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ขยายผลจับกุมตั้งแต่รายเล็ก สืบสาวไปจนถึงผู้บงการ ปีนี้ตั้งเป้าไว้ 10,000 ล้านบาท ปัจจุบันทำได้แล้วกว่า 8,400 ล้านบาทแล้ว อีกนิดเดียวเราจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
"เมื่อพูดถึงการปรับแก้ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ในครั้งนี้ จะเน้นไปที่การยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติด สามารถอายัดทรัพย์สินย้อนหลังได้ถึง 10 ปี และตนขอเตือนให้ท่านระมัดระวัง อย่ารับจ้างเปิดบัญชี รวมถึงเรื่องการซื้อขายสินค้า และขอเชิญชวนทุกท่านแจ้งเบาะแสเพื่อรับรางวัลที่เรามีเตรียมไว้ถึง 500 ล้านบาท" นายสมศักดิ์ กล่าว
ต่อมาเวลา 09.30 น.นายสมศักดิ์ และนายจุติ ได้นั่งรถสามล้อถีบ เพื่อไปร่วมงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน ครั้งที่ 16 จ.พิษณุโลก โดยนายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานว่า ตนดีใจทุกครั้งที่ได้เดินทางมาเป็นประธานในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 16 และถือเป็นครั้งแรกในภาคเหนือตอนล่าง เป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ 6,974 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 929 ล้านบาท มีสถาบันการเงินที่เข้าร่วมงาน 8 แห่ง คือ 1.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 2.ธนาคารออมสิน 3.บริษัทเคบีเจ แคปปิตอล จำกัด 4.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 5.บริษัทบริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด 6.บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง จำกัด 7.บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) และ 8.บริษัทเจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด ซึ่งการไกล่เกลี่ย 15 ครั้งที่ผ่านมามีไกล่เกลี่ยสำเร็จ 11,491 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 2,913 ล้านบาท ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 910 ล้านบาท ลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกหนี้ก่อนฟ้องได้คนละ 120,000 บาท
"บางท่านที่ไม่มา เราก็ยังจะอำนวยความสะดวกให้ เพราะบางคนกู้ที่นี่ แต่อาจจะไปทำงานที่อื่น เราจะปรับให้เวลาเราไปไกล่เกลี่ยที่ไหนจะให้คนต่างถิ่นที่อยู่ที่นั่นเข้าไกล่เกลี่ยได้ด้วย และหลังจากไกล่เกลี่ยหนี้สินจบแล้ว ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ มีวินัยทางการเงิน ส่งงวดให้ครบ ไม่เช่นนั้นจะกลับมาเป็นหนี้อีก จากนั้นเราต้องเริ่มต้นอาชีพใหม่ ซึ่งรัฐบาลพยายามคิดหาโครงการสร้างอาชีพให้กับประชาชนทุกคน" นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายจุติ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน และให้ทุกกระทรวงร่วมมือกันในการช่วยเหลือ การจัดงานนี้ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม กระทรวง พม.พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชน
จากนั้น นายสมศักดิ์ ได้มอบเงินเยียวยา 9 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 288,700 บาท และมอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน 12 ศูนย์ และได้ร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง รายแรกชายอายุ 75 ปี เป็นหนี้โตโยต้าลิสซิ่ง มีหนี้กู้ซื้อรถยนต์ 582,000 บาท เมื่อ 7 ปีก่อน ผ่อนไปแค่ 4 งวด แต่รถหาย ซึ่งต้องจ่ายอีก 568,000 บาท ผลการเจรจาโตโยต้าลิสซิ่ง ลดให้เหลือ 200,000 บาท ให้ผ่อนเดือนละ 200 บาท จนกว่าจะหมด ซึ่งชายคนดังกล่าวถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจ อีกรายเป็นหนี้กู้ซื้อรถ โตโยต้าลิสซิ่ง 815,000 บาท แต่ผ่อนไม่ไหวขอคืนรถ โดยโตโยต้าลิสซิ่ง คิดเงินแค่ 50,000 บาท จะปิดบัญชีให้
อีกรายเป็นผู้ค้ำประกัน มาขอเจรจา เนื่องจากคนกู้ซื้อหนีไปพร้อมกับรถ เหลือหนี้ 409,000 บาท โดยโตโยต้า ให้จ่าย 50,000 บาท และถอนการค้ำประกันให้ รายสุดท้าย เป็นหนี้ กยศ.248,000 บาท กู้มา 24 ปีแล้ว ซึ่ง กยศ.ลดให้ส่งเดือนละ 880 บาท อีก 20 ปี
โดยผู้เข้าไกล่เกลี่ย กล่าวว่า ขอบคุณรัฐบาล และกระทรวงยุติธรรม ที่จัดงานดีๆ แบบนี้ การเป็นหนี้ทุกวันนี้เครียด เศรษฐกิจก็ไม่ดีอะไรก็แพง เมื่อมีโครงการนี้ ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาหนี้ ส่งค่างวดได้ตามกำลังที่เราไหว จึงอยากชวนให้ลูกหนี้คนอื่นๆมาใช้บริการด้วย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี