ตร.แนะ 5 วิธีสกัดโจรไซเบอร์แฮกไลน์จากเฟซ เปิด 10 อันดับคดีออนไลน์
29 พฤษภาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากฝ่ายรับแจ้งความออนไลน์ ว่า มีผู้เสียหาย ถูกคนร้ายแฮกเฟซบุ๊ก (Facebook) แล้วใช้บัญชีไลน์ (Line) หลอกยืมเงินเพื่อน สร้างความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งยังเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนอื่นขอบอกว่าแอปพลิเคชัน Line เป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในประเทศไทย ทุกคนที่มีโทรศัพท์มือถือจะมีบัญชี Line ด้วยสาเหตุที่หลายคนใช้บัญชี Facebook ลิงก์กับบัญชี Line เพื่อเข้าสู่ระบบเพราะความสะดวกสบาย ทำให้คนร้ายนำช่องทางนี้มาใช้ประโยชน์ สร้างความเสียหายกับเจ้าของบัญชีได้อย่างมหันต์ เราจะป้องกันได้อย่างไร
ประการแรก ให้ทำการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น เหมือนบังคับให้ต้องมีกุญแจ 2 ดอก เพื่อเข้าสู่บัญชี Facebook ของเรา ถ้าเขาเข้าเฟซบุ๊กไม่ได้ เขาก็เข้าไลน์ไม่ได้เช่นกัน
ประการที่สอง ให้กลับไปดูการตั้งค่าที่แอปพลิเคชัน Line ของคุณในตอนนี้ ว่าเชื่อมต่อกับบัญชี Facebook ของคุณไว้หรือไม่ ถ้าเชื่อมแต่คุณไม่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้ในการเข้าระบบเลย แนะนำให้ยกเลิกการเชื่อมต่อ ไปใช้การเข้าระบบด้วยอีเมลหรือเบอร์โทรแทน
ประการที่สาม ในแอปพลิเคชัน Line จะมีฟังก์ชันอนุญาตให้เข้าสู่ระบบจากเครื่องอื่นได้ ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องเข้าระบบผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้ปิดไว้
ประการที่สี่ เมื่อ Line ในมือถือหลุดออกจากระบบให้สันนิษฐานไว้ว่าเราโดนแฮก Line แล้ว
ประการสุดท้าย เมื่อมีเพื่อนใน Line ส่งข้อความขอยืมเงิน ให้โทรกลับไปเพื่อตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นเพื่อนของเราจริง เพียงเท่านี้เราก็จะปลอดภัยจากอาชญากรและมิจฉาชีพทั้งหลาย
รอง ผบ.ตร. ระบุว่า จากสถิติคดีออนไลน์ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้มีศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ เมื่อวันที่ 1 มี.ค.- 27 พ.ค.65 พบว่า มีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 29,345 ราย แบ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับ 1.ซื้อสินค้าแต่ไม่ได้รับสินค้า 10,500 คดี 2.หลอกให้ทำงานออนไลน์ เช่น ให้รีวิวสินค้า , กดไลท์ Tiktok , กดไลท์สินค้า 3,599 คดี 3.หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 2,962 คดี
4.ข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว (Call Center) 2,274 คดี 5.หลอกให้รักแล้วลงทุน (Hybrid scam) 1,368 คดี 6.หลอกให้ลงทุนในรูปแบบต่างๆ 1,203 คดี 7.ปลอมโปรไฟล์เพื่อหลอกยืมเงิน 901 คดี 8.แชร์ลูกโซ่ 808 คดี 9.ซื้อสินค้าแต่ได้ไม่ตรงตามโฆษณา (ไม่ตรงปก) 431 คดี 10.หลอกให้รักแล้วโอนเงิน 293 คดี
ผอ.PCT กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย จึงสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอยู่ในขณะนี้ อยากฝากเตือนว่า อย่าหลงเชื่อโอนเงินให้ใครง่ายๆ ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน หากสงสัยหรือแจ้งเบาะแส ได้ที่สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com และฝากติดตาม Facebook : PCT POLICE เพื่อรู้ทันความคิดของโจรออนไลน์
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี