แก๊งคอลฯเหิม!!! ลวง"แม่อัยการดาว"โอนเงินกว่า 7.6 แสน เเจ้งความ สอท.ดำเนินคดีถึงที่สุด ติงแบงก์ไม่ออกเลขเคสไอดีใช้ติดตามคดีออนไลน์
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ หรือ "อัยการดาว" อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด อัยการมือทำคดีแตงโม เมื่อครั้งนั่งตำแหน่งอัยการจังหวัดนนทบุรี ได้รับมอบอำนาจจากมารดา เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สอท.ให้ดำเนินคดีกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งหลอกลวงมารดาของตนที่อายุเกือบ 80 ปี โดยมีพฤติการณ์เข้ามาตีสนิทในโลกออนไลน์ หลอกให้โอนเงินในช่วงระยะเวลาสั้นๆ 4 - 5 วัน หลายสิบครั้ง จนสูญเสียเงินกว่า 7 แสนบาท เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
น.ส.สุภาภรณ์ หรือ อัยการดาว เปิดเผยว่า ปกติคุณเเม่จะมีบัญชีเงินฝากไว้หลายธนาคาร ทั้งบัญชีที่ใช้อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง และที่ไม่ได้ทำอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งไว้ โดยมิจฉาชีพดังกล่าวจะใช้วิธีสุ่มเลือกเหยื่อจากผู้สูงอายุที่ไม่มีความถนัดเทคโนโลยี โดยเข้ามาขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก โดยที่เหยื่อก็ดูไม่ออก ไม่มีการเช็คว่าสมัครเฟซบุ๊กมานานแล้วหรือไม่ มีเพื่อนกี่คน และเข้ามาพูดคุย ตีสนิท ที่คุณแม่โดนคือมิจฉาชีพใช้ชื่อว่า "แฮรี่" นักธุรกิจชาวเวียดนาม ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษ โดยใช้คำพูดหว่านล้อมคุณเเม่ ให้สมัครวอทแอป และมีการพูดคุยสนทนาด้วยถ้อยคำสุภาพจนคุณแม่เชื่อใจ และก็มีการใช้กลอุบายต่างๆ อ้างว่าติดปัญหาทางธุรกิจ หรือหลอกให้โอนเงินเพื่อจะได้มีพัสดุส่งของมาให้ แต่ก็อ้างว่าน้ำหนักเกินบ้าง ติดเงื่อนไขอย่างอื่น จนคุณแม่หลงเชื่อโอนเงินในบัญชีที่ใช้อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งจนเกือบหมดบัญชีร่วมแสนบาท รวมทั้งมิจฉาชีพยังหลอกให้คุณแม่ไปถอนเงินจากบัญชีเงินฝาก มาฝากผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารให้คนร้าย โดยให้โอนผ่านบัญชีม้า นับสิบครั้ง ในเวลาเพียง 5 วัน รวมยอดเงิน 7.6 แสนบาท เมื่อตนทราบเรื่องจึงมาแจ้งความที่ สอท.เพื่อเอาผิดกับคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตํารวจก็รับแจ้งความ ในข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ และฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีการอายัดบัญชีเร็วที่สุดเท่าที่สามารถทําได้ ก็ทราบว่าในระบบแจ้งความออนไลน์ของ สอท.เมื่อมีคำสั่งอายัดบัญชีแล้วจะมีผลเลย ยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด
น.ส.สุภาภรณ์ ระบุต่อว่า ในการแจ้งความกับตำรวจไม่มีปัญหา แต่มาพบปัญหาในการติดตามคดี ในระบบ www.thaipoliceonline.go.th เพราะคุณแม่โอนเงินผ่านอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง และฝากผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร โดยการผ่านเคาน์เตอร์ ทางธนาคารจะไม่สามารถออกเลขเคสไอดี ที่จะต้องคีย์เลขก่อนจะเข้าสู่ระบบ www.thaipoliceonline.go.th ซึ่งจะส่งผลทำให้ไม่สามารถติดตามคดีทางออนไลน์ได้ โดย ต้องโทร 1441 แต่เมื่อโทรแล้ว ทาง 1441 ไม่ออกเลขเคสไอดีให้ ทำให้ต้องโทรกลับมาที่เจ้าหน้าที่ธนาคาร แต่ละแห่งที่เป็นบัญชีของกลุ่มมิจฉาชีพรับโอนเงิน ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารบางแห่ง อ้างว่าไม่ตรงตามเงื่อนไขของธนาคาร เนื่องจากการฝากเงินผ่านเคาน์เตอร์จะไม่มีบัญชีต้นทาง ซึ่งตามเงื่อนไขตามระเบียบกฎหมายของธนาคารจะต้องเป็นการทำธุรกรรมออนไลน์เท่านั้น ทำให้ธนาคารไม่ยอมออกเลขเคสไอดีให้ ทั้งที่ได้แจ้งความให้ตำรวจอายัดบัญชีแล้ว บอกว่าไม่เข้าเงื่อนไข
น.ส.สุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า อยากฝากถึงธนาคารว่าทุกอย่างต้องควรคุ้มครองประชาชน อย่างเช่นคนชรา ถ้าระหว่างโทรหาธนาคารก็ใช้เวลาซักข้อมูลนาน เพราะไม่เข้าใจข้อเท็จจริง และบางครั้งทำให้สับสนทุกฝ่าย กลายเป็นล่าช้า อาจจะต้องเสียหาย และเมื่อไม่เข้าใจกระบวนการด้วยก็ยิ่งล่าช้า กลายเป็นว่าถ้าจะโอนเงินให้ใครต้องผ่านอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งเท่านั้น ถ้าโอนหน้าเคาน์เตอร์ ถือไม่เข้าเงื่อนไขออนไลน์ธนาคาร ที่จะออกเลขให้ ประชาชนคนทั่วไปก็ไม่อยากถูกหลอก แต่พอประสานกับธนาคารก็มีเงื่อนไข ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้มันจะทําให้การติดตามมันล่าช้า จะเป็นปัญหาสําหรับผู้เสียหายที่ไกลหรือไม่สามารถเดินทางติดตามเรื่องได้ เพราะว่าทางธนาคารก็ปฏิเสธก็ไม่ออกเลขเคสไอดี ที่ธนาคารประชาสัมพันธ์ว่าระบบทันสมัย สุดท้ายก็กลับยังล่าช้า ถ้าไม่ปรับปรุงหรือเสนอแก้ไขระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คนที่เสียหายก็คือประชาชน เพราะว่าการออกเลขมันไม่ได้มีผลเสียหายอะไรกับทางธนาคาร เพราะถ้ากรณีที่ผู้เสียหายมาแจ้งความ มีการยืนยันความเสียหาย แสดงหลักฐานเงินฝากบัญชีข้อความในมือถือ คือมีพยานเอกสารวัตถุพยานครบ ทางตํารวจก็อายัดทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมาย แค่เพียงต้องการเลขเคสไอดีเพื่อติดตาม ช่วยให้ได้ประโยชน์แม้เพียงน้อยนิดก็ยังดี
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี