ผู้ว่าฯกทม. “ชัชชาติ” ประชุมผู้บริหารนัดแรกสั่งสำรวจทุกสำนัก-ทุกเขต อุดช่องโหว่คอร์รัปชั่น/โยน ศบค.กทม.พิจารณา เปิดแมสก์ ก่อนชง ศบค.ไฟเขียว
วันที่ 6 มิ.ย. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครนัดแรกของคณะผู้บริหารชุดผู้ว่าชัชชาติ โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครทั้งฝ่ายประจำ และฝ่ายการเมือง และผู้บริหารหน่วยงานสำนักต่างๆ เข้าร่วมคึกคัก ณ ห้องประชุม ชั้น 35 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. (ดินแดง) ในการประชุมนัดแรกนี้ มีเรื่องของการเดินหน้าทำงานหลายด้าน
นายชัชชาติ กล่าวภายหลังว่า มีวาระการประชุม 4 เรื่อง เรื่องแรกโควิด ซึ่งจากการดูตัวเลขจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ อัตราการครองเตียงพบว่าสถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งคิดว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว จึงได้หารือเรื่องการถอดหน้ากาก แต่ต้องรอศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพมหานคร ศบค.กทม. พิจารณาก่อนเสนอไปยังศบค.ใหญ่ เพื่อให้ความเห็นชอบนอกจากนี้ยังมีเรื่องฝีดาษลิง ซึ่งเป็นโรคติดต่อ แต่ยังไม่มีตัวเลขผู้ป่วยในเมืองไทยจากกรณีวันที่ 5 มิ.ย. ที่มีการรวมตัวกันมีหลายคนกังวลกันการติดต่อ ยืนยันว่าการติดต่อคนละรูปแบบกัน ทั้งนี้ในส่วนโควิดได้กำชับให้ดูตัวเลขหลังจากนี้ว่าเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่ก็ถือเป็นก้าวที่ค่อยๆเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงทุกฝ่าย และยังยึดมาตรการการป้องกันทั้งหมดอย่างเข้มข้นต่อไป
เรื่องที่ 2 และ 3 คือ เรื่องงบประมาณและยุทธศาสตร์ตามแผนนโยบาย 214 ข้อโดยได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้จัดทำงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2566 ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร (สภากทม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบส่วนนโยบาย 214 ข้อ ส่วนใหญ่ มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนากรุงเทพมหานครที่กำหนดอยู่ในยุทธศาสตร์แต่ละด้าน ซึ่งมีหลายเรื่องทำได้แล้วโดยไม่ใช้งบประมาณ ดังนั้นจึงจะปรับแนวทางการทำงานให้ชัดเจนขึ้น สำหรับเรื่องที่เป็นโครงการใหญ่ก็รองบประมาณปี 2566
เรื่องที่ 4 การบำบัดน้ำเสีย พบว่ามีหลายชุมชน ปล่อยน้ำเสียลงคลองดังนั้นจึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงไปสำรวจ เพื่อจัดทำแผนบำบัดน้ำเสียในชุมชน ซึ่งสามารถทำได้ทันที โดยไม่ต้องรอโครงการก่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย ให้แล้วเสร็จ ถึง 11 ปี และใช้งบหลายหมื่นล้านบาท ปัจจุบันมีการดำเนินการแล้วที่คลองลาดพร้าว ดังนั้นจึงให้ไปทำแผนให้ชัดเจนที่คลองเปรมประชากรและคลองแสนแสบด้วยว่าจะทำกี่ชุมชนและกี่จุด เพื่อสรุปรายงานอีกครั้ง
นอกจากนี้ มีเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานไปสำรวจจุดอ่อนและช่องโหว่ ของการทุจริตคอร์รัปชั่น พร้อมเสนอแนวทางวิธีการป้องกัน ก่อนรวบรวมเพื่อจัดทำเป็นแผนต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ภายใน 1 สัปดาห์ ตามนโยบายงบประมาณฐานศูนย์ Zero-Based Budgeting โดยได้เชิญอาจารย์จากจุฬาฯ เข้ามาร่วมประชุมด้วย ขณะเดียวกันจะทบทวนโครงการขนาดใหญ่ ที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก หรือบางโครงการที่เร่งรัดในการเบิกจ่ายงบประมาณ แต่ผลงานที่ทำได้นั้น กลับไม่มีความคืบหน้า เช่น การปรับปรุงสวนลุมพินี ปรับปรุงภูมิทัศน์สวนคลองช่องนนทรี ว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งโครงการดังกล่าวแบ่งการก่อสร้างออกเป็นหลายเฟส ดังนั้นเฟสใดที่ดำเนินการไปแล้ว ก็จะเร่งรัดให้แล้วเสร็จ ส่วนเฟสที่เหลือ จะต้องไปทบทวนความคุ้มค่าและความเหมาะสมกับการใช้งบประมาณอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี