วันที่ 7 มิถุนายน 2565 ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้ส่งหมายนัดให้ครูปรีชา (โจทก์) และ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล (จำเลย) ไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ อ 1863/2561 คดีหมายเลขแดง ที่ อ 1416/2562 ในวันที่ 7 มิถุนายน 2565 เวลา 09.00 น.
ล่าสุด ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ (จำเลย) ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีด้วยตนเอง แต่เนื่องจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ติดภารกิจที่ต่างประเทศ นายอาคม คงสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และเป็น 1 ในทีมงานของทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จึงเดินทางมาแทน โดยมีนางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาหมวดจรูญ เดินทางมารับฟังเพื่อให้กำลังใจต่อหมวดจรูญ ซึ่งทุกคนที่มารวมทั้งตัวของหมวดจรูญ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยไม่มีอาการเคร่งเครียดแต่อย่างใด
เวลาไล่เลี่ยกันนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ก็ได้เดินทางมาถึงศาลจังหวัดกาญจนบุรี แต่ในครั้งนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวไม่ได้ร่วมเดินทางมาด้วย เนื่องจากติดภารกิจว่าความที่ศาลในพื้นที่ กทม.แต่ได้ส่งนางสาวนลินี ตั้งวงศ์ ทีมทนายความเดินทางมาฟังคำพิพากษาแทน หลังจากที่ครูปรีชาเดินทางมาถึง ได้เข้าไปภายในศาลเพื่อรอฟังคำพิพากษาที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ทันที โดยมี นางรัตนาพร หรือเจ๊บ้าบิ่น สุภาทิพย์ นางปณัญชญา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช สามแม่ค้าขายลอตเตอรี่ในตลาดเรดซิตี้ พยานสำคัญของครูปรีชา เดินทางมาให้กำลังใจ
โดยนายคมสัน ทองชม ผู้พิพากษาศาลจังหวัดกาญจนบุรี ไอ้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฏีกา ในเวลาประมาณ 09.15 น.โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษจึงแล้วเสร็จ ซึ่งศาลฎีกาพิพากษาว่า ลอตเตอรี่ "ไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย” พิพากษายกฟ้องตามศาลอุทธรณ์
ทั้งนี้ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าหลังจากศาลฎีกามีคำพิพากษายืนยกฟ้องตามศาลอุทธรณ์ตนก็มีความรู้สึกดีใจที่ศาลให้ความเป็นธรรมกับตน เพราะรอมานานก็ทำให้หมดปัญหาไปอีกเปาะหนึ่ง อีกเปาะหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับทางทนายความว่าจะดำเนินการอย่างไร เดี๋ยวต้องขอไปปรึกษากันก่อน
ถามว่าหลังจากนี้จะใช้ชีวิตอย่างไรจะไปทำบุญอะไรหรือไม่” หมวดจรูญตอบว่า เรื่องนี้ตนขอใช้ชีวิตตามปกติตามที่เคยใช้ชีวิตมาเพราะไม่อยากให้มันแตกต่างไปจากเดิม ถามว่าหลังจากนี้จะซื้อลอตเตอรี่หรือไม่” หมวดจรูญตอบว่า ตั้งแต่มีเรื่องมีราวมา ผมได้ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าถ้าคดียังไม่สิ้นสุดผมจะยังไม่ซื้อ และจนถึงปัจจุบันนี้ตนก็ยังไม่ซื้ออีกเลย แต่หลังจากคดีสิ้นสุดแล้วจะขอพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อลอตเตอรี่
ถามว่ามีอะไรจะบอกคนไทยหรือไม่เพราะคดีนี้ถือว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์ ว่าเมื่อซื้อแล้วต้องแสดงความเป็นเจ้าของอย่างไร”หมวดจรูญ ตอบว่า เรื่องนี้ตั้งแต่เป็นคดีแรกๆตนเคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไปว่า ต่อไปเวลาซื้อลอตเตอรี่จะต้องถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่มันก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะมันจะได้มีหลักฐานว่าเราซื้อมาจริง อยากจะบอกกับสังคมที่คิดตามคดีนี้มาอย่างยาวนานว่า หากทำอะไรแล้วเราไม่ผิดเราก็ไม่ต้องไปกลัว ให้สู้ให้ถึงที่สุด ซึ่งคดีนี้ตนได้สู้มาถึงที่สุดแล้ว หากสู้แล้วมารู้ว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ให้ไปขอความเป็นธรรมที่อื่น ซึ่งสุดท้ายคดีที่ตนสู้มาสรุปแล้วก็ได้รับความเป็นธรรมกลับมา
ด้านนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า การดำเนินการหลังจากนี้ตนได้คุยกันกับทนายษิทรา ก่อนที่จะเดินทางมาในวันนี้ เรื่องการที่เราได้ยื่นฟ้องครูปรีชาไปแล้วหนึ่งเรื่อง คือเรื่องการที่ครูปรีชาฟ้องเท็จ ซึ่งศาลได้บอกว่าให้ยื่นคำร้องขึ้นมาเพื่อพิจารณาต่อ ลำดับต่อไปจะดำเนินการกับการที่มีการเบิกพยานเท็จหรือพวกพยานเท็จทั้งหลาย เนื่องจากในคำพิพากษามีข้อความอยู่ข้อความหนึ่งที่ท่านได้วินิจฉัยว่า “แม้โจทก์จะมีพยานบุคคล มาเบิกความสอดคล้องต้องกัน แต่คำเบิกความของพยานโจทก์นั้นมันมีการปรุงแต่งข้อเท็จจริง โดยมีคำสั่งที่บอกว่าเกาให้มันกลม จึงทำให้เหมือนว่าพยานให้การสอดคล้องต้องกัน แต่มันขัดกับความเป็นจริง ศาลจึงบอกว่าพยานโจทก์นั้นไม่น่าเชื่อถือ
ดังนั้นพยานที่มาเบิกความไว้ต้องมีความรับผิดชอบบ้างว่า สิ่งที่คุณพูดอะไรเอาไว้ในศาลและเป็นการให้การเท็จทำให้คุณลุงจรูญได้รับความเสียหาย ซึ่งเดี๋ยวเราก็จะได้ดูในบทต่อไปของคดีนี้ และรับรองว่าในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องที่เราจะดำเนินการนั้นจะต้องมีคนติดคุกไม่ใช่แค่ครูปรีชาเท่านั้น แต่หมายรวมถึกพวกครูปรีชาทุกคนที่มีชื่อในคำพิพากษาที่ศาลเขียนถึง เราจะดำเนินคดีกับทุกคนอย่างแน่นอน ส่วนใครจะรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหนจะต้องรอดูอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เปิดเผยว่า หลังจากศาลฎีกาพิพากษาคดีสิ้นสุดแล้วขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรนั้น ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณศาลฎีกามีคำพิพากษาคดีที่ตนเป็นโจทก์ยื่นฟ้องลุงจรูญ ในข้อหา ยักยอกทรัพย์สินหายหรือรับของโจร ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาตัดสินออกมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้เดี๋ยวต้องตนจะไปดำเนินการเกี่ยวกับคดีแพ่งต่อ คดีแพ่งที่ตนห้องเอาไว้คือคดีเรียกทรัพย์คืนจากหมวดจรูญ
ถามว่ากังวลหรือไม่ว่าคดีอาญาสิ้นสุดแล้วครูอาจจะต้องติดคุก”ครูปรีชาตอบว่า คดีนี้เราเป็นโจทก์ไม่ใช่จำเลยจึงไม่มีความกังวลอะไร สำหรับคดีแพ่งตนได้ฟ้องมาตั้งแต่ปี 2560 จากคำพิพากษาของศาลฎีกาพบว่า ยังไม่มีการระบุว่าลอตเตอรี่นั้นเป็นของใคร
ถามว่ากรณีที่หมวดจรูญ ได้ทำการฟ้องร้องครูปรีชามากถึง 7 คดี มีความกังวลใจอะไรหรือไม่” ครูปรีชาตอบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องในอนาคต แต่ขณะนี้ขอพูดเรื่องปัจจุบันก็พอ ซึ่งไม่กังวล เพราะเราเชื่อในสิ่งที่เป็นความจริงและความถูกต้อง ซึ่งขอยืนยันว่าอันที่จริงแล้วลอตเตอรี่นั้นเป็นของตน แต่การนำพยานหลักฐานต่างๆมันมีข้อจำกัด และตนได้พยายามนำหลักฐานบางตัวที่พบภายหลังนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพยานเหล่านี้ตนจะต้องนำสู่กระบวนการพิจารณาในคดีแพ่งต่อไป ซึ่งพยานบางชิ้นเรามาพบภายหลังแต่ไม่ได้นำสืบ แต่จำนำเข้าสืบในคดีแพ่งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศในวันนี้ค่อนข้างคึกคัก เนื่องจากหลังจากทราบคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้ว นางปณัญชญา สุขพูล หรือ เจ๊เกียว นางรัตนาพร หรือเจ๊บ้าบิ่น สุภาทิพย์ และน.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช สามแม่ค้าขายลอตเตอรี่ในตลาดเรดซิตี้ พยานสำคัญของครูปรีชา ที่เดินทางมาให้กำลังใจครูปรีชา ได้เข้ามาทักทายสื่อมวลชนพร้อมกับแจกลอตเตอรี่ให้กับสื่อมวลชนคนละ 1 ใบ เพื่อขอบคุณที่สื่อได้ติดตามข่าวคดีหวย 30 ล้านมาอย่างยาวนาน
ซึ่ง เจ๊เกียว เจ๊พัช และเจ๊บ้าบิ่น ต่างยังมีความเชื่อมั่นว่าพวกตนเป็นคนขายลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าวให้กับครูปรีชา แต่เมื่อศาลได้พิพากษาออกมแล้วจึงไม่ขอก้าวล่วง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ปิดมหากาพย์หวย 30 ล้าน! ศาลยกฟ้อง'ครูปรีชา' ลุงจรูญชนะคดี 3 ศาลรวด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี