คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเห็นชอบให้ “ฝีดาษวานร” เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังลำดับที่ 56 ใช้ชื่อโรคทางการ “ฝีดาษวานร” เพื่อเป็นเกียรติแก่ศาสตราจารย์ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ เผยอาการอาการสำคัญไข้ ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองบวมโต เจ็บคอ มีผื่นมีตุ่มแผลที่ศรีษะ ลำตัว อวัยวะเพศ รอบทวารหนัก หรือฝ่ามือฝ่าเท้า
7 มิ.ย.65 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติเห็นชอบ 4 ประเด็น 1.ยกเลิกพื้นที่เขตติดโรคนอกราชอาณาจักรทั้งหมด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกดีขึ้น เดินทางติดต่อกันมากขึ้น และผ่อนคลายมาตรการหลายอย่าง 2.เห็นชอบให้กำหนดโรคฝีดาษวานร monkey pox เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังลำดับที่ 56 โดยใช้ชื่อเป็นทางการ“ฝีดาษวานร”เพื่อระลึกถึงคุณูปการของศาสตราจารย์ นพ.ประเสริฐทองเจริญ ซึ่งเป็นผู้ตั้งชื่อนี้ไว้นานแล้ว รวมทั้งมีการประกาศอาการสำคัญ เช่น ไข้ ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองบวมโต เจ็บคอ มีผื่นมีตุ่ม ลักษณะเป็นตุ่มน้ำหรือตุ่มหนองมีแผล เกิดที่ศรีษะ ลำตัว อวัยวะเพศ รอบทวารหนัก หรือฝ่ามือฝ่าเท้า และให้กองระบาดวิทยากำหนดหลักเกณฑ์วิธีเฝ้าระวัง
3.ที่ประชุมรับทราบว่าสถานการณ์ของโควิด-19 ดีขึ้น มาตรการเปิดเทอมก็ไม่ได้ทำให้จำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้น ส่วนการเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ กรมอนามัย ได้รายงานมาตรการต่าง ๆ หลังเปิด 6 วัน ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่การประเมินคงใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ 4.ที่ประชุมมีข้อเสนอแนะมาตรการโควิด-19 เพื่อดูว่าหากสถานการณ์ดีต่อเนื่อง ต้องปรับเปลี่ยนมาตรการใดบ้าง เช่น การคัดกรอง มาตรการป้องกันส่วนบุคคล โดยเฉพาะการถอดหน้ากากอนามัยมีการหารือกว้างขวาง สรุปว่าควรติดตามสักระยะหนึ่งและให้ ศบค.พิจารณาร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง
สำหรับวัคซีนฝีดาษวานรนั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า ขณะนี้ไทยหารือกับหลายประเทศ หากมีวัคซีนฝีดาษวานรรุ่นใหม่ ก็จะแจ้งให้ไทยทราบ เดิมไทยมีใช้เป็นวัคซีนฝีดาษคน ส่วนวัคซีนฝีดาษวานรกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา ซึ่งองค์การเภสัชกรรมแจ้งว่าได้ประสานหลายบริษัทดูประสิทธิภาพ สถานการณ์การระบาด อย่างไรก็ตาม ฝีดาษวานรจะเป็นโรคที่ไม่ค่อยมีความรุนแรงมากนัก แต่การเตรียมจัดหาวัคซีนก็เป็นเรื่องสำคัญ คงต้องมีการกำหนดเกณฑ์และการให้วัคซีนสำหรับคนเฉพาะกลุ่ม
ด้านนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือหมอลอต กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ฝีดาษวานรของกรมอุทยานฯ ซึ่งได้ประสานกับกรมปศุสัตว์ จากการดำเนินงานมาตลอดระยะเวลา 10 ปี เพื่อศึกษาโครงสร้างประชากรลิงกว่า 25,000 ตัว จากที่มีทั้งหมดในแหล่งท่องเที่ยวประมาณ 50,000 ตัว ยืนยันไม่พบรอยโรคของฝีดาษวานรแต่อย่างใด และจากการได้ติดตามย้อนดูรอยโรคในสัตว์ตระกูลฟันกัดแทะที่นำเข้ามาในไทย ได้รับการยืนยันจากทั้ง 97 ตัวอย่าง ว่าให้ผลตรวจเชื้อเป็นลบ ดังนั้น จึงยืนยันได้ว่าในประเทศไทยยังไม่พบฝีดาษวานรในประชากรลิงแต่อย่างใด
นายสัตวแพทย์ภัทรพล ยังกล่าวถึงกรณีตอนนี้ลิงถูกรังเกียจในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ว่าจากการสำรวจลิงในแหล่งท่องเที่ยว 222 แห่งทั่วประเทศ มีลิงกว่า 50,000 ตัว พบลิง 25,000 ตัว ยังไม่พบเชื้อฝีดาษวานรแต่อย่างใด ขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีลิงอยู่อย่าตื่นตระหนกว่าลิงจะนำโรคฝีดาษวานรมาสู่คน แต่การเว้นระยะห่าง เช่น การทำกิจกรรมระหว่างลิงกับคน ก็เป็นสิ่งจำเป็นในสถานการณ์เช่นนี้ การให้อาหารลิงอาจต้องนำมาไว้ ณ จุดใดจุดหนึ่ง และมีช่วงเวลาให้อาหาร มีเจ้าหน้าที่เป็นคนให้แทนนักท่องเที่ยว แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การจัดการขยะในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีลิง เพราะยังมีอีกหลายโรคที่ติดต่อได้ เช่น พิษสุนัขบ้า มาลาเรีย การช่วยกันกำจัดขยะในพื้นที่น่าจะช่วยป้องกันโรคติดต่อหลายอย่างได้
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี