วันที่ 23 มิถุนายน 2565 พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รอง ผกก.1 บก.ปทส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุม1. นายบวรวิชย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 290/2565 ลงวันที่ 14 มิ.ย.65 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันค้าและมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.65 เวลา 06.30 น. บริเวณบ้านพักในพื้นที่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 2. น.ส.พรทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 289/2565 ลงวันที่ 14 มิ.ย.65 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันค้าและมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.65 เวลา 11.45 น. บริเวณหน้าวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา 3. นายสุเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 291/2565 ลงวันที่ 14 มิ.ย.65 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันค้าและมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.65 เวลา 07.30 น. บริเวณบ้านพักในพื้นที่แขวงหนองค้าพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร 4. นายสมบัติ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 292/2565 ลงวันที่ 14 มิ.ย.65 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันค้าและมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.65 เวลา 06.00 น. บริเวณบ้านพักในพื้นที่ ต.บึงยี่โถ่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 เม.ย.2565 เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานข้อมูลจากมูลนิธิสืบสวนคดีการค้าสัตว์ป่า Wildlife Justice Commission (WJC) จนสามารถจับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวน 3 ราย พร้อมของกลางลูกเสือโคร่ง จำนวน 1 ตัว ได้ที่บริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทุบรี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผล จนทราบถึงผู้ร่วมขบวนการค้าลูกเสือโคร่ง อีก 4 ราย โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้ซื้อขายลูกเสือโคร่งต่อกันมาเรื่อย ๆ จนได้มีการส่งมอบลูกเสือโคร่งต่อให้กับกลุ่มขบวนการที่ถูกจับกุมไปแล้วข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดจำนวน 4 ราย
ต่อมาวันที่ 22 มิ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดปฏิบัติการ “ปทส. ตามล่าขบวนการค้าลูกเสือ” โดยปิดล้อมและตรวจค้น จำนวนทั้งหมด 6 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร, จ.ปทุมธานี, จ.นนทบุรี, จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สุพรรณบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดย น.ส.พรทิพย์ฯ ได้พูดคุยกับนายชาตรีฯ เพื่อทำการสั่งซื้อลูกเสือโคร่งจริง โดยได้รับการประสานว่ามีคนสามารถหาเสือได้ ชื่อ นายสมบัติฯ จึงได้ทำการติดต่อเพื่อขอซื้อในราคา ตัวละ 240,000 บาท
นายสมบัติฯ ให้การว่า ได้ทำการสั่งซื้อจาก นายบวรวิชย์ฯ ที่รู้จักกันมาก่อน โดย นายบวรวิชย์ฯ เป็นเจ้าของสวนเสือที่ จ.สุพรรณบุรี โดยทำการตกลงซื้อขายกันในราคา 170,000 บาท (ส่วนที่เหลืออีก 70,000 บาท เป็นกำไร) ได้ให้ นายสุเทพฯ ซึ่งเป็นเพื่อนไปรับลูกเสือ จากนายบวรวิชย์ฯ ที่จุดนัดหมายใน ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยภายหลังได้ให้ค่าดำเนินการ 10,000 บาท หลังเสร็จภารกิจ
นายบวรวิชย์ฯ ให้การว่าวันที่ 4 เม.ย.65 ภายหลังที่มีการติดต่อซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว ได้มีการจัดหาลูกเสือซึ่งซื้อมาอีกทอดหนึ่งจากนายเอ ไม่ทราบชื่อจริง ภายหลังจากที่ได้ลูกเสือแล้ว มีการนัดหมายส่งมอบกันในวันที่ 5 เม.ย.65 ซึ่งได้รับการติดต่อจาก นายสมบัติฯ ว่าจะมีเพื่อนชื่อ นายสุเทพฯ จะมารับลูกเสือโคร่ง บริเวณจุดนัดพบ ใน ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อถึงวันเวลานัดหมาย นายบวรวิชย์ฯ ได้นำลูกเสือโคร่งที่อยู่ในตะกร้า มาส่งมอบให้ นายสุเทพฯ บริเวณจุดนัดพบดังกล่าว
นายสุเทพฯ ให้การว่า นายสมบัติฯ ได้ให้ช่วยมารับส่งลูกเสือโคร่ง จากนายบวรวิชย์ฯ บริเวณ จุดนัดพบ ต่อมาวันที่ 5 เม.ย.65 นายบวรวิชย์ฯ ได้ขับรถ นำตะกร้าสีฟ้าซึ่งภายในมีลูกเสือโคร่งมาให้ตน โดยก่อนหน้านี้ ตนได้พูดคุยกับ น.ส.พรทิพย์ฯ ซึ่งบอกว่าเป็นผู้ติดต่อหาลูกค้า และ นายชาตรีฯ ซึ่งเป็นลูกค้าที่จะมารับเสือ ทำการนัดหมายให้มารับลูกเสือบริเวณดังกล่าวเช่นกัน เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายชาตรีฯ ได้ขับรถมาถึงบริเวณนัดหมาย ตนได้นำลูกเสือโคร่งส่งมอบให้นายชาตรีฯ
ภายหลังผู้ต้องหาทั้ง 4 ทราบว่าลูกเสือโคร่งตัวที่ทำการซื้อขายถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึด และจับกุม นายชาตรีฯ ผู้ที่มาติดต่อซื้อลูกเสือโคร่งจากพวกตน อีกทั้งภายหลังลูกเสือโคร่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “น้องขวัญ” โดยไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติหมายจับได้ พวกตนจึงไม่ได้หลบหนี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี