‘ดีเอสไอ’ตรวจค้นยึดอายัดทรัพย์ โครงการคอนโดหรูเชียงใหม่ หลอกซื้อห้องชุด 14โครงการ จูงใจจ่ายค่าตอบแทน 8% ต่อปี สร้างความเสียหาย 2,000 ล้านบาท
24 มิถุนายน 2565 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงค์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ , นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา , เรืออากาศตรี กิตติคม คงสมโภชน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 และเจ้าหน้าที่กองปฏิบัติการพิเศษ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางดง , นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันผักหวาน และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2 จุด ได้แก่ บจก. เดอะ นิว คอนเซปท์ พร็อพเพอร์ตี้ และสถานที่พักอาศัยของกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าวใน จ.เชียงใหม่ เพื่อแสวงหาหลักฐานและยึด-อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อดำเนินคดีพิเศษ 244/2565
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงค์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า การนำกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในครั้งนี้ สืบเนื่องจากศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องสืบสวนที่ 195/2564 โดยผลการสืบสวนพบว่า บจก. เดอะ นิว คอนเซปท์ พร็อพเพอร์ตี้ เริ่มก่อสร้างอาคารชุดตั้งแต่ปี 2555 มีการโฆษณาชักชวนให้ประชาชนซื้ออาคารชุดด้วยวิธีการเปิดบูธตามสถานที่ต่างๆ มีการโฆษณาในเว็บไซต์ ชื่อ https://thenewconcept.co.th โดยในสัญญากำหนดให้ผู้ซื้ออาคารชุดต้องชำระราคาห้องชุดทั้งหมดในวันทำสัญญา มีกำหนดระยะเวลาในการก่อสร้าง 22 ถึง 25 เดือน มีการจ่ายผลตอบแทน โดยมีข้อตกลงว่าบริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนเป็นรายเดือนให้กับผู้ซื้อ รวมเป็นอัตราร้อยละ 8 ต่อปี ซึ่งเป็นการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้
จากการสืบสวนพบว่า บจก. เดอะ นิว คอนเซปท์ พร็อพเพอร์ตี้ ได้ให้ผู้ซื้อชำระราคาให้ครบถ้วนในวันทำสัญญา แต่ บจก. เดอะนิวคอนเซปท์ พร็อพเพอร์ตี้ ไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างหรือก่อสร้างเพียงบางส่วนเท่านั้น ทั้งนี้ มีผู้เข้าทำสัญญาซื้อโครงการจำนวนกว่า 2,216 คน เป็นโครงการที่ประกาศขายต่อประชาชนทั่วไป จำนวน 14 โครงการ มีโครงการใน จ.เชียงใหม่ 12 โครงการ จ.กระบี่ 2 โครงการ และมีความเสียหายไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท มีผู้เสียหายกว่า 2,000 คน
พฤติการณ์ดังกล่าวถือเป็นการโฆษณาหรือประกาศต่อประชาชนหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ปรากฏแก่บุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ย เงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้โดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ตนจะนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงิน รายนั้นหรือรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือโดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนไม่สามารถประกอบกิจการใด ๆ โดยชอบด้วยกฎหมาย ที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนพอเพียงที่จะนำมาจ่ายในอัตรานั้นได้ และในการนั้นเป็นเหตุให้ตนหรือบุคคลใดได้กู้ยืมเงินไป จึงเข้าข่ายเป็นความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามมาตรา 4 และมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อีกส่วนหนึ่งด้วย
ผลการตรวจค้นทั้ง 2 จุด พบทรัพย์สิน ประกอบด้วยกระเป๋าแบรนด์เนมหลายรายการ เครื่องประดับ รถยนต์หรู ได้แก่ ปอร์เช่ วอลโว่ เรนจ์โรเวอร์ และเอกสารเกี่ยวกับบริษัทอีกเป็นจำนวนมาก กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการยึด/อายัดทรัพย์สิน ประเภทที่ดินทางทะเบียนไว้แล้ว จำนวน 104 แปลง เนื้อที่ประมาณ 148 ไร่ รวมเป็นทรัพย์สินที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการตรวจยึด/อายัดไว้ทั้งสิ้น รวมมูลค่าประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้ทำการขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องและติดตามทรัพย์สินมาคืนผู้เสียหายต่อไป
สำหรับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกลวงดังกล่าว สามารถติดต่อให้ข้อมูลหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา โทร. 02 831 9888 ต่อ 53701 หรือ สายด่วน กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 1202 ในวันและเวลาราชการ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี