ไฟไหม้‘สำเพ็ง’
ตึกวอด6คูหา/ตาย2บาดเจ็บ11
รถยนต์เสียหายอีก4คัน
คาดหม้อแปลงไฟฟ้าบึ้ม
ต้นเหตุทำเพลิงลุกลาม
ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ย่านตลาดสำเพ็ง ผู้ค้า-ประชาชนหนีตายโกลาหล เพลิงลุกลาม 6 คูหา รถวอด 4 คัน ดับเพลิงรุดฉีดน้ำสกัด พบผู้เสียชีวิต 2 ศพ กู้ภัยสำลักควันอีก 2 คาดปมเหตุหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 26 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ย่านตลาดสำเพ็ง กทม.โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง3 ชั้นซึ่งก่อนเกิดเหตุมีผู้ได้ยินเสียงดังและไฟปะทุขึ้น3 รอบ ก่อนจะเกิดเปลวเพลิงลุกลามอาคารพาณิชย์ประมาณ 6 คูหา เป็นพื้นที่ร้านขายของ ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สรรเสริญ ใช้สถิตย์ผบก.น.6 พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล รอง ผบก.น.6พ.ต.อ.นนท์ นุ่มบุญนำ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.น.6 รรท.ผกก.สน.จักรวรรดิ์ พร้อมกำลัง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เพื่อเข้าระงับเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงเกิดเหตุเพลิงไหม้นั้นเป็นช่วงเวลาที่พ่อค้าแม่ค้าและประชาชน ต่างกำลังค้าขายและเดินจับจ่ายซื้อของในตลาดสำเพ็งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ส่งผลให้ทุกคนต่างวิ่งขนของหลบหนีออกมาอย่างโกลาหล ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เข้าถึงพื้นที่จุดเกิดเหตุแล้ว ได้ระดมฉีดน้ำเข้าสกัดเพลิงทั้งในอาคารและบริเวณใกล้เคียง เพื่อป้องกันการลุกลาม อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นพบว่านอกจากอาคารที่เสียหาย ยังมีรถยนต์ถูกเพลิงไหม้เสียหาย 4 คัน ส่วนภายในอาคารมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย
ส่วนที่หน้าอาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุ พบว่ามีหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ เกิดเพลิงไหม้เสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวอาจจะเกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด แต่ยังต้องรอประสานให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
ต่อมาเวลาประมาณ 12.35 น.เพลิงจึงเริ่มสงบลง แต่ยังคงมีไฟปะทุอยู่เป็นระยะๆ มีเสียงแตกคล้ายเกิดจากโครงสร้างอาคาร จนเจ้าหน้าที่ต้องถอยร่นออกมาอย่างระมัดระวังทั้งนี้ ภายหลังการสกัดเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมง ที่สุดก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้สำเร็จ แต่หน่วยกู้ภัยมีอาการสำลักควัน 2 ราย นอกจากนี้ด้วยแรงอัดของการฉีดน้ำประกอบกับอาคารที่เก่าซึ่งอาจเกิดอันตรายจากการทรุดตัวของอาคารได้ เจ้าหน้าที่จึงกันผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ออกห่างจากจุดเกิดเหตุ
ด้าน น.ส.อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผอ.เขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นเพลิงไหม้ครั้งนี้พบว่าเกิดจากหม้อแปลงระเบิดทำให้เกิดประกายไฟประกอบกับมีลมแรงจึงลุกลามไปยังอาคารที่อยู่ใกล้กัน นอกจากนี้ยังมีถังแก๊สอยู่ที่หน้าอาคารด้วยเนื่องจากเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ทั้งนี้ พบว่ามีอาคารได้รับความเสียหาย 6 คูหา และได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร หลังจากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
ขณะเดียวกัน ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ น.ส.จิตรา อัฐใจ อายุ 34 ปี ลูกจ้างร้านขายถุงพลาสติก ซึ่งหนีออกจากอาคารที่เกิดเหตุได้อย่างหวุดหวิดให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ มาตรวจสอบและซ่อมแซมสายไฟบริเวณดังกล่าว ซึ่งพาดขนานไปกับตัวอาคารบริเวณชั้น 2 ของร้านละแวกเดียวกัน กระทั่งเจ้าหน้าที่กลับไปแล้ว ตนและผู้ค้าอีกหลายคนสังเกตุเห็นว่าที่สายไฟมีเสียงดังคล้ายไฟช็อตและยังวิจารณ์กันว่าเจ้าหน้าที่ไม่เก็บสายไฟให้เรียบร้อย ไม่นานก็มีของเหลวไหลทะลักออกจากหม้อแปลงไฟฟ้า ก่อนจะมีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ทำให้ต้องรีบวิ่งข้ามถนนไปอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นแสงเพลิงก็ลุกลามจากหม้อแปลงเข้าสู่อาคารอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน เป็นชาย 1 และหญิง 1 คนซึ่งกำลังทำงานอยู่ในอาคาร
สำหรับผู้เสียชีวิตได้รับการยืนยันว่าพบแล้ว 2 ศพ โดยติดอยู่ที่ชั้นวางสินค้าด้านล่างของอาคารดังกล่าว 1 ราย ส่วนอีกราย พบศพอยู่ชั้นบน เบื้องต้นยังไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ ส่วนลูกจ้างเป็นชายที่ยังสูญหาย ทราบชื่อคือ นายเพชรเดือน (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 34 ปี และลูกจ้างหญิงอีกรายที่ชื่อ น.ส.จิรภัทร สุ่มมาก อายุ 52ปี
ด้าน นายธเนส แสงอาภา หัวหน้าฝ่ายโยธา เขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงได้ ล่าสุดได้สั่งปิดอาคารพาณิชย์ 3ชั้นที่ถูกไฟไหม้เสียหายแล้ว โดยกั้นพื้นที่ห้ามเข้า-ออก เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเป็นอาคารเก่าอายุหลายสิบปีและมีเสียงแตกคล้ายโครงสร้างอาคารบีบอัด
ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าไปร่วมควบคุมเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่พบผู้เสียชีวิตด้วย 1 ราย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ เนื่องจากร่างติดอยู่ในอาคาร สิ่งนี้จึงเป็นจุดสำคัญของพื้นที่บ้านเรือน อาคารสูง เพราะเมื่อมีเหตุเพลิงไหม้คนมักจะวิ่งหนีขึ้นชั้นบน พอไปถึงอาจจะหาทางออกไม่ได้ หรือไม่ก็มีลูกกรงหน้าต่างติดอยู่ และข้อสำคัญประการต่อมา คือถ้าเป็นตึกสูงเราไม่สามารถใช้รถกระเช้าหรือฉีดน้ำจากภายนอกเพื่อดับไฟได้อย่างแน่นอน ฉะนั้นตามกฎหมายที่บอกว่าอาคารสูงต้องมีการติดตั้งระบบดับเพลิงสปริงเกอร์จึงมีความจำเป็น และบ้านเรือนภายในอาคารต้องมีถังดับเพลิงติดไว้ด้วย และต้องมีทางหนีไฟ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี