สภาองค์กรผู้บริโภคค้าน‘ชัชชาติ’เคาะตั๋ว‘สายสีเขียว’59บาท ชง3ข้อขอ‘44 บาท’

สภาองค์กรผู้บริโภคค้าน‘ชัชชาติ’เคาะตั๋ว‘สายสีเขียว’59บาท ชง3ข้อขอ‘44 บาท’

วันพุธ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 13.30 น.

สภาองค์กรผู้บริโภค ยื่นข้อเสนอผู้ว่าฯกทม. แก้สัญญาสายสีเขียว ใช้ 44 บาทตลอดสาย ทำได้ทั่วโลกรัฐต้องอุดหนุน ‘ชัชชาติ’รับไปพิจารณา ลั่นแก้สัญญาเดินรถปี85 ให้สิ้นสุดพร้อมสัญญาสัมปทานปี72  ฝากสภาฯบอกรัฐบาลช่วยค่าโครงสร้างด้วย

29 มิถุนายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่า กทม.) ประชุมหารือกับเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคเรื่องราคารถไฟฟ้า โดยมีนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมหารือที่โรงแรมรามาการ์เด้น เขตหลักสี่


เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค เปิดเผยภายหลังว่า ได้ยื่นข้อเสนอให้ผู้ว่าฯ กทม. คือ

1.ขอให้ยกเลิกกำหนดราคาตลอดสาย 59 บาท ที่จะทำให้เกิดเพดานราคาสูงสุด ที่จะทำให้ราคารถไฟฟ้าไม่สามารถให้ทุกคนขึ้นได้ทุกวัน ซึ่งอาจส่งผลการเข้าถึงการบริการของผู้บริโภค แต่เห็นด้วยกับการเก็บค่าโดยสารจากคูคตเข้ามาในราคา 15 บาท

2.ขอให้ กทม.ใช้ราคา 44 บาทตลอดสาย เพื่อคุ้มครองบริษัท บีทีเอส ด้วย โดยราคารวมตลอดสายรวมส่วนขยายทั้ง 2 ฝั่งไม่ควรเกิน 44 บาท เพื่อเป็นต้นแบบให้สายอื่นๆ ให้รถไฟฟ้าเป็นมิตรทุกคนสามารถขึ้นได้

3.เรื่องการแก้ไขสัญญาที่เกินเลยปี 2585 จากสัญญาสัมปทานเดิมจะหมดในปี 2572 แต่มีการจ้างเดินรถเกินเลยสัญญาสัมปทานหลักไปถึงปี 2585 ขอให้ผู้ว่าฯ หาทางแก้ปัญหาส่วนนี้ หากยกเลิกสัญญาเดินรถส่วนที่เกินเลยจากสัญญาสัมปทานได้ ก็จะมีโอกาสให้การดำเนินการหลังหมดสัญญาสัมปทาน จะทำให้ผู้บริโภคมีราคาที่เป็นมิตรมากขึ้น เราสนับสนุนกรุงเทพมหานครไม่ต่อสัญญาสัมปทาน และใช้วิธีการ ประมูลจ้างการเดินรถ หรือทำสัญญากับ PPP เอกชนต่างๆ โดยแยกเป็น 2 สัญญา คือ สัญญาเดินรถ และสัญญาหาประโยชน์ พร้อมเสนอว่า หลังหมดสัญญาสัมปทาน ให้ใช้ราคา 25 บาท ซึ่งสภาองค์กรผู้บริโภคเรามั่นใจว่าทำได้จริง โดยราคาที่ใช้ก่อนหมดสัญญาก็ขอให้คุ้มครองบริษัทบีทีเอสโดยใช้ราคา 44 บาท

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า ในประเด็นที่สภาฯ กังวลเรื่องราคา 59 กับ 44 บาท ซึ่งเป็นระยะสั้นก่อนหมดสัญญาสัมปทาน ยังมี 2 ส่วนขยายที่ยังไม่ได้เก็บเงิน ส่วนตรงกลางคือ 44 บาทสูงสุดอยู่แล้ว ก็ต้องทำตัวเลขดูว่ากรอบ 44 บาท หรือ 59 บาท ทาง กทม.เราต้องชดเชยเงินเท่าไร เพราะหากกำหนดให้ 44 บาทสูงสุด ก็คือวงเงินส่วนตรงกลางที่เอกชนได้สัมปทานอยู่ ถ้าวิ่งออกมาข้างนอก 2 ส่วนขยายก็จะไม่ได้เงินเลยเพราะกำหนดสูงสุดไว้ที่ 44 บาท ต้องทำตัวเลขมาให้ดูเปรียบเทียบกับสายอื่น ซึ่งต้องอธิบายได้ว่าทำไมเราเสนอเก็บส่วนต่อขยายที่ยังไม่มีการเก็บเงินอยู่นี้เป็นราคาเท่าไร

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่เสนอให้นำตั๋วเดือนกลับคืนมารวมถึงตั๋วนักเรียน ก็ต้องไปเจรจากับทาง บีทีเอส ต่อไป สำหรับการเปิดเผยสัญญาการจ้างเดินรถปี 2572-2585 มีข้อหนึ่งในสัญญาห้ามเปิดเผยสัญญานี้ ก็ต้องไปดูว่า กทม.มีสิทธิจะเปิดเผยไหม ตอนนี้ได้สัญญามาแล้วต้องมาดูให้เกิดความโปร่งใส และจะแก้ไขสัญญาให้สิ้นสุดปี 2572 พร้อมกับสัญญาสัมปทาน รวมถึงการเปิดเผยสัญญาสัมปทานของ กทม. ที่กำหนดราคา 65 บาท ก็ต้องไปดูรายละเอียดเช่นกัน ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดเรารับไปพิจารณา

“ปัญหาหลักที่ค้ำเราอยู่ตอนนี้ คือ การจ้างเดินรถปี 72 - 85 ซึ่งเซ็นสัญญาล่วงหน้าไปนานแล้ว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่เรามองว่าสูง อยู่ประมาณ หมื่นกว่าล้านต่อปี ซึ่งตัวนี้เป็นกรอบค้ำคอเราอยู่ ทำให้เราขยับตัวยาก ก็กำลังหาทางดำเนินการอยู่” นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณสภาองค์กรผู้บริโภคทำให้เรามีจุดได้คุยกับตัวแทนผู้บริโภคได้ ซึ่งผู้บริโภคมีทั้งผู้ที่ใช้และไม่ใช้ บีทีเอส ก็ต้องดูให้สมดุล เราไม่สามารถนำเงินของผู้บริโภคที่ไม่ได้ใช้บีทีเอส มาจ่ายให้กับคนที่ใช้บีทีเอสได้ ก็ต้องเรียนสภาฯ ทราบด้วยว่า สุดท้ายแล้วหากเราใช้ราคานี้ กทม.ต้องเอาเงินไปช่วยเท่าไร เงินส่วนนี้ผู้บริโภคกลุ่มอื่นจะมีปัญหาอะไรไหม เราคุยกันด้วยหลักการน่าจะอธิบายกันได้ ภายในสัปดาห์หน้าทางเคทีน่าจะมีข้อสรุป

“เรื่องรถโดยสารสาธารณะหรือรถไฟฟ้า เราจะคิดตามราคาที่ลงทุนไม่ได้ ทั่วโลกไม่มีใครใช้ราคาลงทุนจริงมากำหนดราคาให้ผู้บริโภคจ่าย ไม่เช่นนั้น เยอรมันคงทำไม่ได้ที่ 330 บาทต่อเดือน ซึ่งรัฐบาลเขาอุดหนุนทั้งนั้น  ฉะนั้น กทม.หรือรัฐบาลจะอุดหนุนก็เป็นที่ต้องดำเนินการท่ามกลางวิกฤติของผู้บริโภคในปัจจุบัน ไม่ว่าน้ำมันแพงที่เราอยากรถใช้รถส่วนตัว รวมถึงเรื่อง PM2.5 ที่เป็นต้นทุนทั้งหมดของการรักษาพยาบาล ซึ่งอาจลดต้นทุนเรื่องอื่นมาสนับสนุนการเดินทางสาธารณะของคน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และเราอยากเห็น กทม.คิดค่าใช้จ่ายการเดินทางของคนในส่วนนี้ด้วย” เลขาฯสภาองค์กรผู้บริโภค กล่าวตอนท้าย

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ฝากสภาฯ ให้ช่วยบอกรัฐบาลช่วยสนับสนุนเรื่องค่าโครงสร้างด้วย เพราะหากรัฐบาลสนับสนุนค่าโครงสร้างพื้นฐานไป กทม.ก็จะสบายขึ้น

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top