ผู้ว่าฯชัชชาติ ยกงานโยธาเป็นโซ่ข้อสุดท้ายเชื่อมกทม.กับประชาชน เน้นทำงานรวดเร็วโปร่งใส
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานการประชุมแนวดิ่งระหว่างสำนักการโยธาและหัวหน้าฝ่ายโยธา 50 สำนักงานเขต ครั้งที่ 1/2565โดยมี นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกทม.นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดฯ นายไทวุฒิขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา พร้อมด้วย คณะผู้บริหารสำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง และหัวหน้าฝ่ายโยธา 50 สำนักงานเขต ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า)
“วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมประชุมกับสำนักการโยธา ยินดีที่ได้มาพบทุกคน พวกเราล้วนเป็นหน่วยสำคัญ โดยเฉพาะโยธาที่อยู่ตามเขต ซึ่งได้สัมผัสใกล้ชิดกับประชาชน ความดีหรือไม่ดีจะขึ้นอยู่การปฏิบัติของเราที่มีต่อประชาชน งานโยธานับว่าเป็นโซ่ข้อสุดท้ายที่เชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครกับประชาชน หน้าที่ของกรุงเทพมหานครคืออำนวยความสะดวก เราต้องไม่เป็นภาระให้ประชาชน เราต้องทำงานให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น” นายชัชชาติ กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุม
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงนโยบายเร่งด่วนคือ เรื่องของ One Stop Service การขออนุญาตก่อสร้างให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอนการทำงานให้เหลือเพียงยื่นเอกสารอย่างเดียวเหมือนกับการยื่นแบบภาษีออนไลน์ ส่วนเรื่องความโปร่งใส ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นแนวทางที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นแล้วว่าถ้ามีใครมาอ้างชื่อผู้ว่าฯ ชื่อผู้บริหารก็อย่าไปเชื่อ ถ้าพบเห็นให้แจ้งเข้ามา นอกจากนี้การนำ Traffy Fondue เข้ามาช่วย ทำให้เห็นการทำงานของแต่ละเขตว่าเป็นอย่างไร การใช้เทคโนโลยีเข้ามาจับทำให้เห็นภาพรวมได้ดีขึ้น ขอให้เดินหน้าต่อไปด้วยกัน เป็นทีมเดียวกัน โดยเชื่อมั่นในความโปร่งใส และเป็นกำลังใจให้ทุกคน
จากนั้นในที่ประชุมฯ ได้รายงานเรื่องทางเท้าดี กรุงเทพมหานครมีแบบแปลนและรายการมาตรฐานที่ดำเนินการเมื่อปี 2542 ต่อมาได้ปรับปรุงรูปแบบทางเท้าที่แจ้งให้สำนักงานเขต เพื่อให้นำไปใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2563 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำแบบแปลนและรายการมาตรฐานทางเท้าใหม่ ปี 2565 เพื่อปรับปรุงให้เข้ากับรูปแบบและวิธีการใช้งานของทางเท้า ซึ่งรูปแบบทางเท้าประกอบไปด้วย กระเบื้องซีเมนต์ปูพื้นขนาด 40x40x3.5 ซม. ปูนทรายสำเร็จรูปปรับระดับกระเบื้องซีเมนต์ปูพื้นหนา 2 ซม. คอนกรีตเสริมเหล็ก WIRE MESH หนา 10 ซม. บริเวณทางเข้า-ออก คอนกรีตเสริมเหล็กหนา 15 ซม. และทรายหยาบบดอัดแน่น ไม่น้อยกว่า 95% ซึ่งรูปแบบนี้ได้เคยทดลองใช้ที่กทม.2 จะมีความง่ายต่อการดูแลและซ่อมแซม ปรับปรุงความชันทางเชื่อมทางลาดเป็น 1:12 ตามมาตรฐานสากล ปรับปรุงช่องรับน้ำจากเดิมแนวตั้งเป็นแนวนอน
ในการจัดระเบียบเรื่องของทางเท้าที่จะดำเนินการใหม่ จะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องทั้งกฟน. กปน. ซึ่งในการปรับปรุงทางเท้าครั้งต่อไป กปน.จะทำการปรับปรุงท่อใต้ดินบริเวณดังกล่าวไปพร้อมๆ กัน จะไม่ต้องมาเสียเวลาขุดเปิดหน้าดินอีก ส่วนไฟฟ้าแสงสว่างที่สำนักการโยธาดูแลอยู่ มีแผนดำเนินการซ่อมไฟฟ้าส่องสว่างในพื้นที่ถนน 2,000 ดวง ใช้งบประมาณเพิ่มเติมปี 2564 จัดซ่อมไฟฟ้าแสงสว่างในพื้นที่ถนน 5,000 ดวง ใช้งบใช้สอยปี 2565 อยู่ระหว่างการจัดจ้าง จัดซ่อมไฟฟ้าส่องสว่าง 50 สำนักงานเขต 20,000 ดวงใช้งบประมาณ 240 ล้าน อยู่ระหว่างการขอจัดสรรปี 2565 ซึ่งจะแยกเป็น 6 สัญญาสัญญาละประมาณ 40 ล้านบาท
ด้านนโยบายเรื่องการกำกับดูแลการแก้ปัญหาการผลกระทบกับโครงการที่มีการก่อสร้างทางภาคเอกชนของภาครัฐ สำนักการโยธาได้มีการเชิญประชุมเจ้าของโครงการทั้งหมด 460 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ 180 โครงการ มีผู้เข้าประชุมประมาณ 400 คน โดยได้กำชับถึงการทำงานของผู้รับจ้าง ฝุ่น เสียงการทำงานกลางคืน Tower เครน การควบคุมงานก่อสร้างทั้งหมด รวมถึงเรื่องการคืนผิวจราจร การก่อสร้างทางม้าลายไฟกะพริบและความสะอาด
ในส่วนของ BBKK Trail (Better Bangkok Trail) เส้นทางวิ่งดี ออกกำลังกายดี กลุ่มเพื่อนชัชชาติ ได้มีการหารือร่วมกัน พร้อมทั้งวิ่งไปสำรวจพื้นผิวจราจร พื้นผิวทางเท้าระยะทาง 10 กม. ประกอบด้วยถนนราชดำเนินนอก เข้ามาที่กทม. 1 ถนนดินสอ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผ่านไปสนามหลวง ถนนเจริญกรุง แล้ววนกลับมาที่คลองผดุงกรุงเกษม ตอนนี้ทางทีมงานได้ให้ข้อมูลความเสียหายของการเส้นทางที่ไปวิ่ง ส่งให้กับทางสำนักงานโยธาดำเนินการปรับปรุงใช้งบประมาณราว 3 ล้านบาท จะดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด 10 กม. ภายในเดือนกันยายน 2565
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี