พ่อหนุ่มวัย 19 ชาวละหานทราย บุรีรัมย์ร้องช่วยเหลือลูกชายถูกแก๊งโจ๋อุ้มไปทำร้ายทั้งเตะต่อยมีดฟันปืนจ่อหัวขู่ฆ่า ฐานยืมเงิน 1,500 ไม่ยอมจ่ายคืน เคราะห์ดีหนีมาได้แต่ถูกยึด จยย.ที่ยังค้างค่างวดไว้ ไม่กล้าไปทวงคืนและแจ้งความหวั่นไม่ปลอดภัยเพราะเป็นขาใหญ่ในพื้นที่ เหยื่อเผยเป็นหนี้จริงไม่คิดเบี้ยวแต่อีกฝ่ายไม่ได้กำหนดวันจ่ายคืน ผวาต้องอยู่หลบๆซ่อนๆ
วันนี้ (2 ก.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือกรณีที่นายกิตติศักดิ์ หรือบอส อายุ 19 ปี ลูกชายถูกกลุ่มวัยรุ่นขาใหญ่ในพื้นที่ ประมาณ 3 คนดักอุ้มไปขังและทำร้ายร่างกายทั้งเตะต่อย ถือมีดและปืนจ่อหัวขู่ฆ่า สาเหตุเพราะลูกชายไปยืมเงินวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว 1,500 บาทแต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน เคราะห์ดีที่ลูกชายหนีออกมาได้แต่ก็มีแผลที่ศีรษะและบอบช้ำตามร่างกาย แถมยังโดนแก๊งวัยรุ่นขโมยเอารถจักรยานยนต์ของลูกชายไปด้วย
นายกิตติศักดิ์ ลูกชายที่ถูกอุ้มไปทำร้าย เล่าว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.65 ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 09.00 น.มีเพื่อนรุ่นน้องบอกให้ตนไปรับที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอละหานทราย ตนก็ขับรถจักรยานยนต์ไปรับตามปกติ แต่พอไปถึงก็มีกลุ่มของนายตอง (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุประมาณ 20 - 30 ปีกับพวกรวม 3 คนขับรถตามเข้าไปที่รีสอร์ต แล้วเข้าไปในห้องพักของน้องที่โทรให้ตนมารับด้วย โดยนายตองกับพวกยืนขวางไว้แล้วบอกว่าถ้าไม่คืนเงิน 1,500 บาทที่ยืมไปคืนก็ไม่ต้องไปไหนแล้ว จากนั้นได้พากันเตะต่อยทำร้ายร่างกาย จากนั้นนายตองชักปืนออกมาจ่อที่หัวตนเอง บังคับให้ตนหาเงินที่ยืมไป 1,500 บาทมาคืน
ส่วนอีกคนที่มากับนายตอง กำลังง้างมีดเตรียมจะฟันที่หัว ตอนนั้นคิดว่ายังไงก็คงไม่รอดจึงตัดสินใจตะโกน บอกว่าขอโทรศัพท์หาพ่อก่อนเพื่อให้พ่อเอาเงินมาจ่ายให้ แต่พอพ่อมาถึงที่รีสอร์ตนายตองกับพวกได้พาตนไปขังไว้ในบ้านอีกหลังหนึ่งใน อ.ละหานทราย แต่ตนหาจังหวะที่พวกเขาเผลอวิ่งหนีออกมาในสภาพมีแผลที่ศีรษะไม่รู้ว่าโดนอะไรบ้างและมีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย แต่รถจักรยานยนต์ที่ขับไปถูกยึดเอาไว้
หลังจากหนีออกจากได้ก็รีบกลับบ้านแต่ไม่กล้าไปหาหมอก็ปล่อยให้แผลแห้งเองที่สำคัญไม่กล้าไปแจ้งความและไม่กล้ากลับไปเอารถจักรยานยนต์คืนเพราะกลัวจะถูกทำร้ายอีก แค่มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พ่อฟังแล้วพ่อก็ไปแจ้งความว่ารถจักรยานยนต์ถูกขโมยเท่านั้น
นายบอส บอกว่า ยอมรับว่าเป็นหนี้นายตอง จริง 1,500 บาท แต่ตอนยืนนายตอง ไม่ได้กำหนดวันจ่ายบอกแค่ว่าวันไหนมีก็เอามาคืน ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดจะเบี้ยวแค่ยังไม่มีเงินไปคืนให้ แต่มาทำกันขนาดนี้ตนก็ว่ารุนแรงเกินไป ตอนนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ไม่กล้านอนบ้านเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย เพราะนายตอง เป็นขาใหญ่ในพื้นที่แต่อยากให้ตำรวจช่วยติดตามรถมาคืนเพราะยังค้างค่างวดอยู่และอยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายฐานอุ้มไปทำร้ายร่างกายด้วย
ด้านนายสุพจน์ ผู้เป็นพ่อบอกว่า วันเกิดเหตุลูกชายได้โทรศัพท์มาบอกว่าอยู่ที่รีสอร์ทถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้ปืนจ่อขู่จะยิง ตนจึงรีบขับรถไปที่รีสอร์ต แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็พาลูกชายหนีออกไปจากรีสอร์ตแล้ว โดยเอารถจักรยานยนต์ของลูกชายไปด้วย พยายามขับรถตามหาแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาพาลูกชายไปไหน ซึ่งตนไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีก ด้วยความเป็นห่วยจึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ละหานทราย แต่ยังเคราะห์ดีที่ลูกชายสามารถหนีมาได้ แต่ทุกวันนี้ก็อยู่อย่างหวาดระแวงเพราะกลัวจะถูกทำร้ายอีก ก็อยากให้ตำรวจติดตามเอารถจักรยานยนต์ของลูกชายมาคืน และดำเนินกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวด้วย - 003