กทม.ประกาศชัด
‘ห้ามขายกัญชา’
ในพื้นที่สาธารณะ
สั่ง50เขตตรวจเข้ม
กทม.ประกาศชัด สั่ง ห้าม ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยวางขายกัญชา กัญชง หรือใบกระท่อมรวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสม กัญชา กัญชง ใบกระท่อมในที่สาธารณะ ชี้ถือผิดกฎหมายทั้งหมด สั่งเทศกิจทั้ง 50 เขตลงตรวจเข้ม ดับฝันถนนข้าวสาร‘ฮับกัญชา’ไม่น่าทำได้ เผยผู้ป่วยกัญชา 27ราย วัยรุ่นต่ำกว่า20ปี รองโฆษกรบ.เตือนโทษนำเข้าผลิตภัณฑ์ กัญชา–กัญชง แต่ละประเทศ หนักสุด ประหารชีวิต-จำคุกตลอดชีวิต
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.)ถึงเรื่องผลกระทบจากกฎหมายกัญชาเสรีและการขับเคลื่อนเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากกัญชาว่า เรื่องนี้ได้กำชับว่าให้ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติให้ถูกกฎหมาย กรุงเทพมหานคร เรายึดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ศ.2535เป็นหลัก กรณีในที่สาธารณะ ผู้ค้าขายหายเร่แผงลอย จะขึ้นลงทะเบียนกับทางสำนักงานเขตและต้องขายตามประเภทที่ขึ้นทะเบียนไว้ ไม่สามารถเปลี่ยนประเภทสินค้าได้ หากจะขายอย่างอื่นต้องไปแจ้งขออนุญาตกับคณะกรรมการของเขตก่อน
“ฉะนั้นถ้ามีการขายกัญชา กัญชง หรือ ใบกระท่อมรวมถึงอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง ใบกระท่อม ถือผิดกฎหมายทั้งหมด ไม่สามารถขายได้ในที่สาธารณะโดยได้สั่งการเทศกิจทั้ง 50เขต ลงไปตรวจตราดู โดยเฉพาะเน้นย้ำรอบบริเวณโรงเรียน ต้องไม่มีการขาย เพราะเป็นนโยบาย ผู้ว่าฯชัชชาติที่ให้ความสำคัญกับเด็กนักเรียนและเยาวชนไม่ให้เกี่ยวข้อง”รองผู้ว่า กทม.ย้ำ
ส่วนกรณีผู้ประกอบการถนนข้าวสารเสนอให้“ถนนข้าวสาร“ เป็น“ฮับกัญชา”นั้น นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า แนวโน้มไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากถนนข้าวสารตั้งอยู่ใกล้กับทั้งโรงเรียนและวัด ในเรื่องนี้ ต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ อีกทั้งการที่จะขายกัญชาเสรีหรือฮับกัญชาจะต้องมีการควบคุมปริมาณเพื่อไม่ให้เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดซึ่งจะต้องมีจัดหาเครื่องวัดด้วย
ทั้งนี้จากรายงานตัวเลข จำนวนผู้ป่วยจากกัญชา สำนักอนามัย รายงานมีผู้ป่วย อายุ 14-20 ปีรวมจำนวน 27ราย โดยเป็นกลุ่มอายุ 19-20 ปี มากถึง14ราย ซึ่งเป็นช่วงอายุที่กฎหมายกำหนดห้ามจำหน่ายให้กับประชาชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี
ด้านน.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเตือนประชาชนคนไทยห้ามนำเข้า กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าว ไปยังต่างประเทศ ยืนยันรัฐบาลปลดล็อกกัญชา กัญชงเพื่อประโยชน์ทางด้านการแพทย์และเศรษฐกิจซึ่งมีผลบังคับใช้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ขอให้ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่มีส่วนผสมของกัญชา ตลอดจนมีส่วนต่างๆของกัญชา กัญชงในครอบครองที่จะเดินทางไปต่างประเทศตรวจสอบกฎหมายของประเทศปลายทางเกี่ยวกับข้อกำหนด การอนุญาต ข้อห้ามโดยละเอียด หากพกติดตัวไปจะได้รับโทษ
โดยทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้รวบรวมข้อมูลดังนี้ อินโดนีเซีย ปรับขั้นต่ำ 1 พันล้านรูเปียห์ โทษจำคุก 5ปี–ตลอดชีวิตหรือโทษสูงสุดประหารชีวิต,ญี่ปุ่นโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี (กรณีนำเข้า/ส่งออก) โทษจำคุกไม่เกิน10ปีและปรับไม่เกิน 3 ล้านเยน (กรณีจำหน่าย),เวียดนาม โทษปรับ5,000,000– 500,000,000 ดองเวียดนาม โทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษสูงสุดประหารชีวิต เนปาล โทษจำคุกตั้งแต่ 1 เดือน – 10 ปี โทษปรับ 2,000- 900,000 รูปี,เกาหลีใต้ โทษจำคุก 5 ปีขึ้นไปหรือตลอดชีวิต (กรณีลักลอบนำเข้า) โทษจำคุกอย่างน้อย 1ปี(กรณีปลูก/จำหน่าย)โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและถูกเนรเทศห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้อีก (กรณีครอบครองหรือเสพ),สิงคโปร์ โทษจำคุกไม่เกิน10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือทั้งจำทั้งปรับ (กรณีครอบครองหรือเสพ) โทษประหารชีวิต(กรณีลักลอบค้า/นำเข้า/ส่งออก) โทษจำคุก 5-14 ปี หรือปรับ หรือทั้งจำและปรับ
จอร์แดน,อิรัก,ปาเลสไตน์ โทษอย่างรุนแรงตามกฎหมายท้องถิ่น (กรณีครอบครองหรือเสพ)
บรูไนฯ โทษจำคุกอย่างต่ำ 20 ปี สูงสุด 30 ปี และโบย 15 ครั้ง หรือโทษประหารชีวิต (กรณีลักลอบนำเข้า)
กัมพูชา โทษปรั 100 ล้านเรียล โทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต,ออสเตรเลีย โทษจำคุกและปรับ (กรณีนำเข้ากัญชา) หมายเหตุ:บุคคลทั่วไปสามารถนำเข้ากัญชงได้ เฉพาะบางรายการ และ เซเนกัล, โกตดิวัวร์,บูร์กินาฟาโซ, กินี, กินี-บิสเซา,มาลี, แกมเบีย, เซียร์ราลีโอน,โตโก,กาบอง, กาบูร์เวร์ดี,ไลบีเรีย, ไนเจอร์ โทษตามกฎหมายประเทศนั้นๆทั้งจำคุกและปรับ
“นอกจาก กัญชา กัญชงแล้ว ขอให้ประชาชนคนไทยระมัดระวัง การรับฝากสิ่งของผิดกฎหมายเข้าไปในประเทศต่างๆ ด้วย ห้ามรับฝากสิ่งของจากผู้อื่นโดยเด็ดขาด แม้กระทั่งญาติพี่น้องขอให้ตรวจสอบสิ่งของที่ฝากอย่างละเอียดเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ายาเสพติดซึ่งแต่ละประเทศกำหนดโทษไว้อย่างชัดเจน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯย้ำชัดหลังจากที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดบังคับใช้ ขอให้ผู้บริหารส่วนราชการทุกท่านทำความเข้าใจกฎหมายใหม่ร่วมกันขับเคลื่อนสร้างความพร้อม มีแผนขั้นตอนในการทำงาน ติดตามแก้ไขปัญหาในระยะเปลี่ยนผ่านกฎหมาย นำประมวลกฎหมายยาเสพติดไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม มีความชัดเจน”รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. .… สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกมธ.ฯว่า กมธ.ได้รับฟังความคิดเห็นจากรายงานของผู้ที่มีความประสงค์จะยื่นหนังสือต่อตนในฐานะประธานคณะ กมธ. จากมูลนิธิเพื่อเด็ก เยาวชนและครอบครัว เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง และอีกหลายหน่วยงาน โดยยินดีรับฟังความเห็นของทุกท่านมาพิจารณาไตร่ตรองเพื่อให้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นไปอย่างรอบคอบมากที่สุด
สำหรับความก้าวหน้าในการพิจารณามีอยู่ 3 ประเด็น ได้แก่ 1. การยื่นคำขออนุญาต การจดแจ้ง หรือขออนุญาตปลูกต้นกัญชา กัญชง คณะ กมธ.ได้เปิดช่องให้สามารถดำเนินการได้โดยการยื่นเอกสาร หรือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
2.ประเด็นความเหลื่อมล้ำในการขออนุญาต กรณีที่ปลูกเพื่อจำหน่ายไม่เกินจำนวน 5 ไร่ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม ส่วนการออกใบอนุญาตหรือการต่อใบอนุญาต หน่วยงานที่มีอำนาจในการออกใบอนุญาตต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ผู้ยื่นยื่นคำขอ
3.มอบอำนาจให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ส่งเสริมการใช้กัญชากัญชงในทางการแพทย์ และคุ้มครองให้เป็นพืชทางเศรษฐกิจ โดยสนับสนุนการวิจัยด้านต่าง ๆ และกำหนดให้ความรู้กับประชาชนโดยจัดทำเอกสารคู่มือและหนังสือทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการศึกษาข้อมูลต่าง ๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี