วันที่ 6 มิถุนายน 2565 นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีต นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ จำเลยที่ 1และนายเทพไท เสนพงศ์ จำเลยที่ 2 ในคดีทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี2557 หลังจากทราบผลคำพิพากษาของศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 8 ให้จำคุกจำเลยทั้ง 2 คนละ 2 ปีและตัดสิทธิทางการเมืองคนละ 10 ปีนั้น เปิดเผยว่า ตนขอขอบคุณศาลฎีกาที่ให้ความเที่ยงธรรมกับตน ซึ่งศาลฎีกาได้เขียนคำพิพากษาสอดคล้องต้องกันกับศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ภาค 8 และเหตุผลของศาลฎีกาล้วนแต่เป็นบรรทัดฐานในการเลือกตั้งอื่นๆด้วย ซึ่งถ้านักการเมืองมีความสุจริต มีจรรยาบรรณใกล้เคียงกับสถาบันตุลาการเมืองไทยเราจะเจริญขึ้นมากเพราะฉะนั้นวันนี้กฎหมายศักดิ์สิทธิมากขึ้น และต้องต้องขอบคุณรัฐบาลด้วย ที่ได้ปรับปรุงกฎหมายของ กกต.และกม.ลูกของรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับปราบโกง สามารถพิสูจน์และก็สามารถจับคนที่ทำผิดได้จริง และผู้ที่จะเป็นนักการเมืองน้ำดีต่อไปและมีกฎหมายคุ้มครอง ผมคิดว่าเราจะได้มีมันสมอง นักการเมืองน้ำดีเข้าไปบริหารประเทศเกิดความสุขและที่สำคัญก็คือว่าการพิสูจน์พันนี้ ซึ่งช่วงต้นตนก็ถูกโจมตีว่าขี้แพ้ชวนตี แต่ว่าตนไม่ได้ขี้แพ้ชวนตี แต่ผมมองว่าจะขอพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม ประกอบกับนครศรีธรรมราชของเราเคยถูกตราว่าเป็นเมืองเถื่อน วันนี้เรายกระดับเมืองนครศรีธรรมราชแล้ว ถ้าเรามีอะไรไม่มั่นใจเราก็เชื่อในกระบวนการยุติธรรม
ก่อนถึงวันพิพากษาศาลฎีกา ข่าวก็ออกมาตนไม่สบายใจเหมือนกัน ข่าวออกมาไม่ค่อยดี แต่วันนี้หลังคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วทำให้ตนสบายใจแล้ว แสดงให้เห็นว่าศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา คนที่คิดในเชิงว่าวิ่งคดีหรือทำไม่ดีไม่ร้ายกับศาล ที่เขาบอกว่ามีเงินมากไปทำอะไรกับศาลได้ แต่วันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าผมได้ยืนในระบบอประชาธิปไตย และเคารพกฎหมายและยืนอยู่ในความสุจริต ซึ่งตรงกับหลายพรรคการเมือง ซึ่งนายชวน ก็เคยพูดว่านักการเมืองก็ต้องสุจริต วันนี้ผมก็พิสูจน์เมื่อคุณมีอำนาจ มีเงินทองมากแล้วคุณมาทำไม่สุจริต ผมได้พิสูจน์ตรงนี้ ให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศได้เชื่อมั่นระบอบการเลือกตั้งต่อไป ถ้าได้พัฒนากฎหมายประเทศไทยได้ขนาดนี้และเชื่อว่าการเมืองจะดีขึ้น นักการเมืองเข้าไปไม่กอบโกย เพราะว่าตอนเข้าไม่ต้องซื้อเสียง
ศาลฎีกาเขียนบรรยายคำพิพากษาในภาพรวมวันนี้ว่า แม้ว่าตัวผู้สมัครไม่ได้ทำความผิดเองแต่ใช้นอมีนี ใช้คนอื่นไปจ่ายเงินแทน ศาลสามารถที่จะสืบ เชื่อมั่นพยานหลักฐานให้ไปสู่การจับผิดที่ทำผิด เพราะฉะนั้นการที่นักการเมืองหลายคนพยายามใช้นอมินีหรือใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด จากนี้ไป คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับนี้วันนี้ก็จะเป็นคดีที่จะเป็นบรรทัดฐานของคดีเลือกตั้งของประเทศไทยต่อไป ก็อยากเห็น กกต.เป็นหน่วยงานหลักที่เข้มแข็งและสู่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งตนอยากเห็นตรงนี้มาก นายพิชัย โจทก์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยดีใจในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับนายเทพไท เสนพงศ์และนายมาโนช เสนพงศ์ หลังถูกคำพิพากษาศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 8 แล้วศาลได้ออกหมายขังจำเลยทั้งสองทันทีแล้วจากนั้นทางตำรวจศาลได้คุมตัวจำเลยทั้งสองไปยังห้องขังของศาลเพื่อรอ จนท.ราชทัณฑ์ ของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช นำรถบรรทุกผู้ต้องขังทั้งสองรวมกับผู้ต้องขังคนอื่นๆส่งเข้าเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชในช่วงเย็นวันนี้ต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วน! ศาลฎีกาคุก'มาโนช-เทพไท' 2 ปีไม่รอลงอาญา ตัดสิทธิ์ทางการเมือง10ปี คดีโกงเลือกตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี